กรมชลฯ วางแผนจัดจราจรน้ำ รับมือสภาพอากาศแปรปรวน

กรมชลฯ วางแผนจัดจราจรน้ำ รับมือสภาพอากาศแปรปรวน

กรมชลประทาน วางแผนจัดจราจรน้ำ รับมือสภาพอากาศแปรปรวน บรรเทาผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชน

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการ ติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ผ่านระบบ Video Conference ไปยังสำนักงานชลประทานที่ 1-17 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักการระบายน้ำ (กรุงเทพมหานคร) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นต้น เพื่อติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ แหล่งน้ำ และแม่น้ำสายหลักต่าง ๆ สำหรับเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องและเหมาะสมในแต่ละพื้นที่

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำในอ่างฯ รวมกันทั้งสิ้น 55,286 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 72% ของความจุอ่างฯ รวมกัน สามารถรับน้ำได้อีก 21,154 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 14,823 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 60% ของความจุอ่างฯ รวมกัน สามารถรับน้ำได้อีก 10,048 ล้าน ลบ.ม.

กรมชลฯ วางแผนจัดจราจรน้ำ รับมือสภาพอากาศแปรปรวน

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า ร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งในพื้นที่ภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จึงสั่งการไปยังโครงการชลประทานทั่วประเทศ ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ควบคู่ไปกับการจัดจราจรน้ำ

กรมชลฯ วางแผนจัดจราจรน้ำ รับมือสภาพอากาศแปรปรวน

และตรวจสอบความมั่นคงของเขื่อน อาคาร อ่างเก็บน้ำ รวมทั้งเครื่องจักร เครื่องมือต่างๆ อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเข้าไปให้ความช่วยเหลือพี่-น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จากสภาพอากาศที่แปรปรวนในช่วงนี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด