ยุคใหม่คนทำงานเลือกองค์กร TCP ปรับที่ทำงานเป็นบ้านหลังที่สอง

ยุคใหม่คนทำงานเลือกองค์กร TCP ปรับที่ทำงานเป็นบ้านหลังที่สอง

คนที่อยากเข้ามาทำงานในบริษัทต่างๆ เขาไม่ได้มองเพียงเรื่องเงินเท่านั้น แต่มองว่าบริษัทจะตอบโจทย์ มีความน่าสนใจอะไรบ้าง และบริษัททำให้เขาสามารถมีชีวิต มีไลฟ์สไตล์ของตัวเองหรือไม่

Keypoint:

  • กลยุทธ์กลุ่มธุรกิจ TCP ดูแลพนักงาน 3 ด้าน คือ สุขภาพกาย สุขภาพใจ และสุขภาพการเงิน ปลูกฝัง DNA รุก บวก สุดพลัง
  • เปลี่ยนองค์กรให้กลายเป็นบ้านหลังที่สองของพนักงานทุกคน
  • สร้างกิจกรรม สานสัมพันธ์ทำงานคนต่างเจนรวมพลังสร้างงาน สร้างความสุข
  • โลกการทำงานยุคใหม่ คนทำงานเลือกองค์กร องค์กรต้องปรับตัวตอบโจทย์การใช้ชีวิตบาลานซ์การทำงาน Work-Life Integration

เมื่อโลกการทำงานเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หลายตำแหน่งงานต้องแย่งชิงคนเข้าทำงาน ทำให้คนทำงานกลายเป็นผู้เลือกบริษัท องค์กรที่ตัวเองต้องการจะทำงานมากกว่าที่องค์กรเป็นฝ่ายคัดเลือกคนเหมือนในอดีต “กลุ่มธุรกิจ TCP” ได้ปรับโฉมการทำงานรูปแบบใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ ความต้องการ และพัฒนาคุณภาพชีวิตคนทำงาน ปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรให้กับพนักงานทั่วโลกกว่า 5,000 คนให้มีสุขภาพกาย สุขภาพใจ และสุขภาพการเงิน

 การทำธุรกิจของกลุ่มธุรกิจ TCP ไม่ใช่เพียงการพัฒนานวัตกรรม และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อผู้บริโภคเท่านั้น แต่ให้ความสำคัญในการพัฒนาคน บุคลากรในองค์กรอย่างมาก เพราะองค์กรจะประสบความสำเร็จได้นั้นต้องขับเคลื่อนด้วยคน และการจะทำให้คน พนักงานมีใจอยากพัฒนา ทำงานให้มีคุณภาพพวกเขาต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

"Net Water Positive" คืนแหล่งน้ำท้องถิ่น-ชุมชนยั่งยืน

กลุ่มธุรกิจ TCP ทุ่ม 1,500 ล. ผนึก CROWN ผุดโรงงานกระป๋องฯ ป้อนชูกำลัง

ส่อง Roadmap จัดการ 'ขยะพลาสติก' นำกลับมาใช้ 100% ภายในปี 2570

การท่องเที่ยวยั่งยืน 'คาร์บอนต่ำ' ด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG

 

ปลูกฝังDNA“รุก บวก สุดพลัง”

“ประกรรษ์ จันทร์ทอง” ผู้อำนวยการสายงานทรัพยากรบุคคลและธุรการ กลุ่มธุรกิจ TCP ให้สัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ”ว่า กลุ่มธุรกิจ TCP จะมีแนวทางในการดูแลพนักงานทั้ง 3 ด้าน คือ สุขภาพกาย สุขภาพใจ และสุขภาพการเงิน รวมถึงมีการปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กร รุก บวก สุดพลัง เพราะพนักงานเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน

ขณะเดียวกัน ธุรกิจ TCP เป็นการปลุกพลังและส่งต่อพลังดีๆ ให้แก่ลูกค้า และสังคม พนักงานที่ทำงานจึงมีคาแรคเตอร์มีพลัง และต้องปล่อยพลังไปสร้างสิ่งดีๆ ให้แก่ทุกคน รวมถึงต้องคิดบวก และสุดพลังในการทำงาน พนักงานทุกคนจะมี DNA เดียวกัน

ยุคใหม่คนทำงานเลือกองค์กร TCP ปรับที่ทำงานเป็นบ้านหลังที่สอง

บุคลากรทุกคนของกลุ่มธุรกิจ TCP ทั้งพนักงานและระดับผู้บริหาร จะต้องได้รับการประเมินและการให้ฟีดแบค โดยมีการจัดทำสำรวจ ESS -Employee Satisfaction Survey รอบด้าน 360 องศาว่ามี DNA รุก บวก สุดพลังหรือไม่ ซึ่งพนักงานจะได้รับการประเมินจากหัวหน้างาน ขณะเดียวกันหัวหน้างานก็จะได้รับฟีดแบดจากพนักงานว่าทุกคนมีมุมมองอย่างไร

 

สานสัมพันธ์ทำงานคนต่างเจน

“TCP” ให้ความสำคัญคนแต่ละเจเนอเรชั่น (Generation) สามารถทำงานร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นคนใหม่ คนเก่า ทุกคนล้วนมีคุณค่าเหมือนกัน องค์กรพยายามปลูกฝังให้ทุกคนไม่ใช่ซุปเปอร์แมน หรือเก่งคนเดียว ทำงานคนเดียว แต่เราจะช่วยกันเป็นซูเปอร์ฮีโร่ และผู้ที่เป็นหัวหน้างานต้องดูแลพนักงานทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ทำงานร่วมกันออกมาได้

“คนแต่ละรุ่นย่อมมีความแตกต่างกัน คนรุ่นเก่าอาจจะมีความรู้เชิงลึก ขณะที่คนรุ่นใหม่ จะมีวิธีการใหม่ ๆ คิดใหม่ ใช้เทคโนโลยีได้ดี องค์กรจะมีการจัดกิจกรรม สานสัมพันธ์ ทำให้พนักงานใช้ชีวิตและทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข และมองว่าออฟฟิคเหมือนบ้านที่สองของทุกคน ซึ่งเมื่อได้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังที่สอง ต้องมีวิธีสร้างความสุขในการทำงาน เพราะคนเป็นศูนย์กลางในการทำงานของทุกคน งานจะออกมาดีคนต้องมีความสุข รู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีปฎิสัมพันธ์ ชีวิตที่ดีทั้งงานและส่วนตัว” ประกรรษ์ กล่าว

พัฒนาคนทำงานคู่เทคโนโลยี

ในยุคที่การทำงานเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้น “กลุ่มธุรกิจ TCP” ได้มีการนำนวัตกรรมเข้ามาช่วยทำงานควบคู่กับพนักงานขององค์กร ซึ่งไม่ใช่เป็นการเข้ามาแทนคน แต่ พนักงานมีความจำเป็นต้องปรับตัวในเรื่องของเทคโนโลยี  มีการทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน ทำให้พนักงานทำงานควบคู่เทคโนโลยีได้ โดยทำความเข้าใจกับพนักงานว่าไม่ได้เอาเทคโนโลยีเข้ามาแทน และมีการพัฒนาทักษะให้แก่พนักงาน อยากให้พนักงานมีความรู้เพียงพอ ขณะเดียวกัน HR ของบริษัทจะมีการเก็บข้อมูล เพื่อนำมาประมวลผลให้หัวหน้างานได้เข้าใจพนักงานของตนเองอย่างชัดเจน

องค์กร จัดทำข้อมูล Data Management and Analytics (DM&A) ตั้งฐานข้อมูลทั้งหมดที่มีประโยชน์ ในแง่ของโรงงาน ทำ Smart manufacturing หรือระบบผลิตอัจฉริยะ มีการนำเทคโนโลยีใหม่ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เพิ่มประสิทธิภาพให้ทำงานคู่กับเทคโนโลยี สอนคนให้พัฒนาตนเอง ปลดปล่อยพลังในแง่การสร้างสรรค์นวัตกรรม และการวิเคราะห์ โดยพยายามผลักดันผ่านการสร้างแหล่งความรู้ โปรแกรมแอปพลิเคชั่น TCP Learning+ ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 820 หลักสูตร ครอบคลุมทุกหน่วยงาน ทุกสายงานให้ทุกคนได้พัฒนาตัวเองอยู่ร่วมกับสังคมที่มีความหลากหลาย

“Work-Life Integration”บาลานซ์งาน-ชีวิต

“พนักงานบุคลากรของกลุ่มธุรกิจ TCP จะต้องมีความสุขทั้ง 3 สุข ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพกาย สุขภาพใจ และสุขภาพของการเงิน โดยมีการจัดสิ่งแวดล้อมที่เอื้อให้องค์กรเป็นบ้านหลังที่สองของทุกคน ให้พวกเขาได้ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ ลดความเครียด ความกังวลใจจะมีการดูแลสุขภาพจิตใจผ่านโปรแกรมออนไลน์ให้ทุกคนสามารถเข้าไปปรึกษากับแพทย์โดยตรง และดูแลด้านการเงิน หากใครมีปัญหาการเงินจะมีแหล่งเงินที่ปลอดภัยให้แก่พนักงาน มีการสอนวางแผนการเงิน และโครงการสามารถเบิกเงินเดือนเพื่อไปใช้แก้ไขปัญหา” ประกรรษ์ กล่าว

กลุ่มธุรกิจ TCP ดูแลผ่านแนวคิด Work-Life Integration ปรับโครงสร้างพื้นฐานขององค์กรโดยใช้ Digital Transformation เพื่อเปลี่ยนการทำงานให้มีความทันสมัย คล่องตัว และใช้เครื่องมือที่เป็นดิจิทัลมากยิ่งขึ้น รองรับการทำงานได้ทุกที่ ไม่จำเป็นต้องเข้ามาที่ออฟฟิศ รวมถึงการดูแลความสุขทางใจของพนักงานร่วมด้วย

“ สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้องค์กรประสบความสำเร็จได้ คือ คน ถ้าเราไม่มีคนที่มี Passion ก็จะไม่มีพลังส่งต่อไปสู่สังคม ต่อให้เรามีแนวทางที่ดี มีโปรดักส์มากมาย แต่ถ้าคนไม่พร้อมสิ่งต่างๆ ก็ไม่สามารถขับเคลื่อนไปได้ ดังนั้น พนักงานกลุ่มธุรกิจ TCP ต้องมีพลังในตัว และต้องปลดปล่อยพลังสิ่งดีๆ”ประกรรษ์ กล่าว

ยุคใหม่คนทำงานเลือกองค์กร

 ผู้อำนวยการสายงานทรัพยากรบุคคลและธุรการ กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่าการทำงานในยุคนี้ ไม่ใช่ว่าบริษัทจะเลือกคนเข้ามาทำงาน แต่เป็นคนทำงานเลือกบริษัท คนที่อยากเข้ามาทำงานในบริษัทต่างๆ เขาไม่ได้มองเพียงเรื่องเงินเท่านั้น แต่มองว่าบริษัทจะตอบโจทย์ มีความน่าสนใจอะไรบ้าง และบริษัททำให้เขาสามารถมีชีวิต มีไลฟ์สไตล์ของตัวเองหรือไม่

ค่าตอบแทนเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นที่คนสมัครงานมอง พวกเขาจะมองเรื่องอื่น โดยเฉพาะลักษณะการทำงาน ทั้งอาคารสถานที่ สวัสดิการ การดูแลสุขภาพ ซึ่งTCP ได้มีการปรับเปลี่ยนอาคารสถานที่ เพิ่มพื้นที่สันทนาการ 30 % เพื่อให้ทุกคนได้พักผ่อน เรียนรู้ และทำงานกิจกรรมร่วมกันได้ รวมถึงการดูแลเรื่องความปลอดภัย และในปัจจุบันมีความยืดหยุ่น ให้พนักงานทำงานได้ในรูปแบบ work from anywhere 40% หรือ สัปดาห์ละ 2 วัน ที่พนักงานสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตแบบใหม่"  ประกรรษ์กล่าว

การทำงานในยุคปัจจุบันอาจจะแตกต่างจากในอดีต ซึ่งคนที่กำลังมองหางาน อยากให้เลือกบริษัทที่เปิดโอกาสให้ได้ทำงานทั้งเพื่อตัวพนักงานเอง เพื่อบริษัท และเพื่อสังคมที่ดีขึ้น รวมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์สังคม และต้องเป็นองค์กรที่ทำให้ตัวเองมีความสุข ตอบโจทย์การทำงานและการใช้ชีวิต