โควิด-19 นครราชสีมา ต.ค.- ธ.ค.65 พุ่ง 1.5 หมื่น ยอดเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นด้วย

โควิด-19 นครราชสีมา ต.ค.- ธ.ค.65 พุ่ง 1.5 หมื่น ยอดเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นด้วย

สถานการณ์โควิด-19 จ.นครราชสีมา ในรอบสัปดาห์ยอดติดเชื้อรายใหม่ยังสูง เดินหน้ากลยุทธ์ฉีดวัคซีนโควิดกระตุ้นให้ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย โฟกัสกลุ่ม 608 และผู้ไม่เคยฉีด ให้เข้าถึงวัคซีนโดยเร็วหลังพบอัตราการป่วยตายสูงกว่าทุกกลุ่ม

ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา รายงานสถานการณ์โควิด-19 จ.นครราชสีมา โดย นพ.วิญญู จันทร์เนตร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดรายงานว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ในรอบสัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 14-20 ธันวาคม 2565 มีจำนวน 1,970 ราย ในจำนวนนี้ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจำนวน 104 ราย และมีผู้เสียชีวิต 11 ราย

ทำให้ยอดผู้ป่วยตั้งแต่เดือนตุลาคม - วันที่ 20 ธันวาคม 2565 มีผู้ป่วยสะสม จำนวน 15,140 คน ทั้งนี้รักษาหายแล้ว 13,120 คนและยังรักษาอยู่ 1,970 คน โดยส่วนหนึ่งจะรับยาแล้วพักรักษาตัวที่บ้านและอีกส่วนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจำนวน 820 คน ซึ่งรักษาหายแล้ว 612 คนเหลือยอดที่ยังรักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่อีก 158 คน ส่วนยอดเสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 50 ราย

 

โควิด-19 นครราชสีมา ต.ค.- ธ.ค.65 พุ่ง 1.5 หมื่น ยอดเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นด้วย

 

สาเหตุที่พบการระบาดเพิ่มขึ้นอีกครั้ง มาจากปัจจัยการรวมตัวคน และการทำกิจกรรมทางสังคมเพิ่มขึ้น และมาตรการควบคุมป้องกันต่างๆ ตอนนี้ไม่ได้มีผลบังคับใช้อย่างเข้มข้นเหมือนในช่วงประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินและช่วงก่อนจะประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นที่ต้องเฝ้าระวัง การดำเนินมาตรการต่างๆจึงไม่ได้มีผลบังคับ จะเป็นการให้คำแนะนำ และขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามมาตรการเท่านั้น

ส่งผลให้ประชาชนจำนวนไม่น้อยจะไม่ค่อยระมัดระวังตนเอง ยอดติดเชื้อรายใหม่จึงเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งผู้ป่วยติดเชื้อจะมีทั้งที่เข้าสู่ระบบการรักษา และที่ดูแลตนเองได้ จะไม่ได้ไปพบแพทย์โดยตรง จึงไม่มีการแจ้งรายงานเข้าสู่ระบบการรักษา

ส่วนกรณียอดป่วยตายสูงนั้น ได้มีการตรวจพบผู้เสียชีวิตหลายรายจะประสบอุบัติเหตุ เป็นโรคปัจจุบัน หรือเป็นโรคประจำตัวอื่นๆ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักทำให้เสียชีวิต ไม่ได้เสียชีวิตเพราะติดเชื้อโควิด-19 แต่เมื่อส่งชันสูตร แล้วระบุว่าติดเชื้อโควิดด้วย จึงทำให้มีการนำยอดเสียชีวิตนี้ไปรวมในรายงานยอดผู้ป่วยโควิดเสียชีวิตด้วยทุกราย จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้อัตราป่วยตายของจังหวัดพุ่งสูง

อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดได้ปรับยุทธศาสตร์ป้องกันโควิด-19 ด้วยการเร่งรัดฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ได้มากที่สุด มีเป้าหมายประชากรที่ต้องได้รับวัคซีน รวมทั้งสิ้น 2,633,207 คน จะต้องได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นจำนวน 1,579,924 คนจึงจะถึงเป้าหมาย 60% ตามที่ตั้งไว้

โดยจะโฟกัสไปที่กลุ่ม 608 และผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน เพราะพบอัตราการติดเชื้อโควิดแล้วเสียชีวิตสูงกว่ากลุ่มอื่นๆ ทำให้ต้องรณรงค์เชิงรุกเพื่อกลุ่มนี้เข้าถึงวัคซีนโควิดโดยเร็ว

ที่ผ่านมาได้ดำเนินกลยุทธ์ด้วยการรณรงค์เชิญชวนประชาชนในจังหวัดออกไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นและขยายช่วงรณรงค์ฉีดวัคซีนไปจนถึงวันที่ 28 ธันวาคม 2565 รวมทั้งเพิ่มศักยภาพจุดฉีดกลางที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า นครราชสีมา ให้ฉีดวัคซีนได้มากกว่า 3,000 คนต่อวัน

และเพิ่มจุดฉีดที่หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ด้านหลังศาลากลางจังหวัดกับวางแผนฉีดวัคซีนเชิงรุกในพื้นที่สำคัญ เช่น ในเขตอำเภอเมืองนครราชสีมา ให้สำรวจกลุ่มเป้าหมายออกสำรวจความต้องการรูปแบบการฉีด และจัดบริการฉีดวัคซีนเคลื่อนที่เชิงรุกและระบบการแพทย์ฉุกเฉิน

นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาได้มีข้อสั่งการเร่งรัดให้ทั้ง 32 อำเภอ จัดตั้งหน่วยฉีดวัคซีนหลัก ตั้งศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัดและระดับอำเภอ ทำแผนเร่งรัดรณรงค์ประชาชนอย่างต่อเนื่อง กับจัดทีมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่และและสำรองวัคซีนให้เพียงพอ ส่วน รพ.ชุมชน หรือ รพ.สต.ให้ออกแบบแนวทางฉีดวัคซีนนอกสถานบริการ ,ให้ผู้นำท้องถิ่น-ท้องที่ ติดตามค้นหากลุ่มเป้าหมาย สนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ได้รายงานล่าสุด ณ วันที่ 20 ธันวาคม 2565 ว่า จากจำนวนประชากรเป้าหมายที่จะต้องฉีดวัคซีนรวม 2,633,207 คน

  • ฉีดวัคซีนเข็ม 1 ไปแล้ว 2,101,590 คน คิดเป็น 79.85%
  • ฉีดเข็ม 2 แล้ว 1,967,548 คน คิดเป็น 74.72%
  • ฉีดเข็ม 3 ไปได้ 898,555 คน คิดเป็น 34.12%

เมื่อแยกเป็นรายกลุ่ม

1.กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ มีเป้าหมาย 678,583 คน ฉีดเข็มกระตุ้นไปแค่ 270,981 คน คิดเป็น 39.93%

2.กลุ่มประชาชน อายุ 18-59 ปี เป้าหมาย 1,473,798 คน ฉีดเข็มกระตุ้นแล้ว 581,815 คนคิดเป็น 39.61%

3.กลุ่มนักเรียน นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เป้าหมาย 176,391 คน ฉีดเข็มกระตุ้นแค่ 35,980 คน คิดเป็น 20.39%

4.กลุ่มนักเรียน เด็ก อายุ 5-11 ปี เป้าหมาย 158,355 คน ฉีดเข็มกระตุ้นไป 7,773 คน คิดเป็น 4.490%

5.กลุ่มเด็ก อายุ 6 เดือน-ต่ำกว่า 5 ปี มีเป้าหมาย 52,070 คน ฉีดเข็มกระตุ้นไปแค่ 6 คน คิดเป็น 0.01%

ขอประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชนทุกช่วงอายุได้ไปเข้ารับวัคซีนโควิด-19 เพื่อสร้างภูมิต้านทานให้กับตนเองและสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ในช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่นี้