บัตรทอง เฮ สปสช. เพิ่มรักษามะเร็งหญิง 5 กลุ่มโรค ด้วย 3D Printing

บัตรทอง เฮ บอร์ด สปสช. เพิ่มการรักษา “รังสีรักษาระยะใกล้ด้วยอุปกรณ์ใส่แร่ด้วยเครื่องพิมพ์สามมิติ (3D printing) สำหรับผู้ป่วยมะเร็ง” ดูแลผู้ป่วยมะเร็งหญิงสิทธิบัตรทอง 5 กลุ่มโรค ตั้งเป้าให้การรักษา 100 รายต่อปี
นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ครั้งที่ 10/2568 ได้มีวาระการพิจารณาในการเพิ่ม “บริการรังสีรักษาระยะใกล้ด้วยอุปกรณ์ใส่แร่ด้วยเครื่องพิมพ์สามมิติ (3D printing) สำหรับผู้ป่วยมะเร็ง” เป็นบริการการแพทย์ขั้นสูงในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) พร้อมอนุมัติปีงบประมาณ 2569 จำนวน 1.26 ล้านบาท เพื่อดำเนินการ และมอบให้ สปสช. จัดทำหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเบิกจ่ายค่าบริการให้หน่วยบริการ รวมถึงจัดระบบกำกับติดตามและประเมินผล เพื่อรายงานต่อคณะกรรมการฯ และขับเคลื่อนการยกระดับบริการทางการแพทย์ขั้นสูงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริการรังสีรักษาระยะใกล้ด้วยอุปกรณ์ใส่แร่ด้วยเครื่องพิมพ์สามมิติ (3D printing) สำหรับผู้ป่วยมะเร็ง เป็นการรักษาด้วยสารกัมมันตรังสีที่เป็นมาตรฐานในการดูแลผู้ป่วยกลุ่มมะเร็งนรีเวช ใช้ร่วมกับการฉายรังสีและให้ยาเคมีบำบัด วิธีนี้จะนำสารกัมมันตรังสีที่เป็นต้นกำเนิดรังสี เข้าไปแนบชิดหรือภายในก้อนมะเร็งโดยตรง ทำให้ส่งพลังงานรังสีได้อย่างแม่นยำในตำแหน่งที่เข้าถึงได้ยาก ส่งผลให้ก้อนมะเร็งหดเล็กลง และผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
"มะเร็งสตรี" รู้ก่อน รักษาไว มีโอกาสหาย ป้องกันได้ คุณภาพชีวิตดี
เพิ่มสิทธิการรักษามะเร็งผู้หญิง 5 กลุ่มโรค
“ปัจจุบันมีเพียง โรงพยาบาลศิริราช แห่งเดียวในประเทศไทยที่ให้บริการรังสีรักษาฯ นี้ได้ โดยหน่วยรังสีรักษา ภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ซึ่งจากผลการรักษาผู้ป่วยมะเร็งนรีเวชที่ผ่านมา พบว่าวิธีนี้ช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตและมีผลลัพธ์ทางการรักษาอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยเหตุนี้ บอร์ด สปสช. จึงเห็นควรบรรจุเป็นบริการในระบบบัตรทอง เพื่อให้ผู้ป่วยมะเร็งในกลุ่มมะเร็งนรีเวชทั่วประเทศ ได้เข้าถึงการรักษาด้วยเทคโนโลยีการแพทย์ขั้นสูงอย่างเท่าเทียม โดยเป็น 1 ใน 2 รายการบริการเพื่อผู้ป่วยมะเร็งที่บอร์ด สปสช. ได้เห็นชอบพร้อมกับบริการรังสีสามมิติแปรความเข้มด้วยเครื่องเร่งอนุภาคอิเล็กตรอน พร้อมระบบภาพนำวิถีด้วยคลื่นแม่เหล็ก” รมว.สาธารณสุข กล่าว
ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ผู้ป่วยมะเร็งสิทธิบัตรทอง ในกลุ่มโรคที่เข้าเงื่อนไขเข้ารับบริการรังสีรักษาระยะใกล้ด้วยอุปกรณ์ใส่แร่ด้วยเครื่องพิมพ์สามมิติ (3D printing) นี้ มี 5 กลุ่มโรค ได้แก่ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเยื่อบุมดลูก มะเร็งช่องคลอด มะเร็งปากช่องคลอด และมะเร็งรังไข่
โดย สปสช. กำหนดเป้าหมายจำนวนผู้ป่วยมะเร็งฯ เข้ารับการรักษาด้วยวิธีนี้ประมาณ 100 คนต่อปี โดยใช้งบประมาณจากงบบริการกรณีเฉพาะ ปีงบประมาณ 2569 ในรูปแบบเหมาจ่ายรายปีให้โรงพยาบาลศิริราช เพื่อดูแลรักษาผู้ป่วยสิทธิบัตรทองให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าระบบบัตรทองให้ความสำคัญกับการดูแลผู้หญิงไทย ทั้งด้านการป้องกันและการรักษาโรคมะเร็งในกลุ่มนรีเวช โดยในด้านป้องกันได้จัดบริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก สำหรับหญิงไทยอายุ 30–60 ปี และให้บริการวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) แก่นักเรียนหญิง–นักศึกษาหญิงโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
สำหรับผู้ที่ป่วยแล้ว สปสช. ยังมุ่งยกระดับสิทธิประโยชน์ด้านการรักษา ให้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีการแพทย์ขั้นสูงได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะบริการรังสีรักษาระยะใกล้ด้วยเครื่องพิมพ์สามมิติที่เพิ่งได้รับอนุมัติ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสการรักษาและคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วยมะเร็งสิทธิบัตรทองได้ดียิ่งขึ้น
“การขยายสิทธิประโยชน์ครั้งนี้ จะช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งในกลุ่มนรีเวชได้รับการดูแลด้วยเทคโนโลยีการแพทย์ขั้นสูงสุดอย่างเท่าเทียม และเพิ่มโอกาสในการรักษาได้ดียิ่งขึ้น” เลขาธิการ สปสช. กล่าว







