สธ.-ออมสิน เปิด 2 โครงการแก้หนี้บุคลากร คิกออฟพร้อมกันทั่วประเทศ

สธ.-ออมสิน เปิด 2 โครงการแก้หนี้บุคลากร คิกออฟพร้อมกันทั่วประเทศ

'สธ.' จับมือ 'ธนาคารออมสิน' แก้ปัญหาหนี้สินทั้งในและนอกระบบ สร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับบุคลากรสาธารณสุข ด้วยแผนงานความมั่นคงปลอดภัยทางการเงิน (Money Safety MOPH+) 2 โครงการ ลดภาระดอกเบี้ยบ้านและสินเชื่อ ตั้งคลินิกสุขภาพทางการเงิน

วันนี้ (8 ธันวาคม 2566) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี  นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีเปิด (Kick Off) แผนงานความมั่นคงปลอดภัยทางการเงิน (Money Safety MOPH+) โดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุข กับ ธนาคารออมสิน โดยมี พญ.นวลสกุล บำรุงพงษ์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายวุฒิพงษ์ ภิรมยาภรณ์ รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มลูกค้าฐานรากและสนับสนุนนโยบายรัฐ และผู้บริหารจากทั้งสองหน่วยงานเข้าร่วม 

 

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องขวัญกำลังใจของบุคลากร เป็นปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงต่อการให้บริการในระบบสุขภาพ เพราะเมื่อคนทำงานในระบบมีความสุข ก็จะให้บริการด้วยความสุข เกิดบริการที่ดี มีคุณภาพ ดังนั้น จึงกำหนดให้เรื่องนี้เป็นหนึ่งใน Quick Win 100 วัน ที่ต้องเร่งดำเนินการในเรื่องการให้เห็นผลเป็นรูปธรรม 

 

โดยวันนี้เป็นการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สิน และ การดูแลสวัสดิการรวมถึงพัฒนาระบบสร้างเสริมสุขภาพทางการเงินให้กับบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข ด้วยแผนงานความมั่นคงปลอดภัยทางการเงิน (Money Safety MOPH+) ซึ่งจะเป็นทางเลือกที่ดีในการลดภาระค่าใช้จ่ายในส่วนของดอกเบี้ย และนำเงินที่เหลือไปชำระหนี้หรือใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ที่จำเป็นในชีวิตได้มากขึ้น ช่วยแบ่งเบาความทุกข์ในกลุ่มที่มีภาระหนี้สิน เป็นการดูแลความเป็นอยู่และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น

 

สธ.-ออมสิน เปิด 2 โครงการแก้หนี้บุคลากร คิกออฟพร้อมกันทั่วประเทศ

 

 

“ความร่วมมือในวันนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการดูแลสวัสดิการของบุคลากรชาวสาธารณสุขทุกคน ทุกระดับ ทุกสาขาวิชาชีพ ทุกหน่วยงาน ที่ผู้บริหารทุกคนจะได้ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสวัสดิการของบุคลากร และนำไปดำเนินงานในหน่วยงานของตนเองอย่างจริงจังและต่อเนื่อง และต้องขอขอบคุณทางออมสินที่ช่วยสนับสนุนให้กระทรวงสาธารณสุขได้แบ่งเบา แก้ไขปัญหาภาระหนี้สินบุคลากร ด้วยข้อเสนอ วิธีการ และอำนวยความสะดวกในการยื่นเอกสาร หลักฐานต่างๆ” นพ.ชลน่าน กล่าว 

 

นพ.โอภาส กล่าวว่า การดำเนินงานตามแผนงานความมั่นคงปลอดภัยทางการเงิน (Money Safety MOPH+) ประกอบด้วย 2 โครงการสำคัญ ได้แก่ 1.โครงการความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย (Money Safety Home) ทั้งการรีไฟแนนซ์ ซื้อบ้านหลังใหม่ การปลูกสร้าง และต่อเติมซ่อมแซม และ 2.โครงการสินเชื่อสวัสดิการและอื่นๆ (Money Safety Redeeming) แบ่งเป็น

  • สินเชื่อสวัสดิการ: อุปโภคบริโภค/ชำระหนี้ สินเชื่อรายย่อยประเภทอื่น
  • สินเชื่อ Salary เปย์ เพื่อบุคลากรภาครัฐ
  • สินเชื่อสวัสดิการ: โดยใช้บำเหน็จตกทอด
  • สินเชื่อรายได้ประจำสุขใจ

 

นอกจากนี้ ยังจะมีการจัดตั้งคลินิกส่งเสริมสุขภาพทางการเงินในทุกหน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุข หรือทุกโรงพยาบาล มีบุคลากรในหน่วยงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินช่วยประเมินเรื่องของการชำระหนี้และวางแผนทางการเงิน เพื่อไม่ให้เกิดการเป็นหนี้เพิ่มเติม ซึ่งบุคลากรที่สนใจสามารถสอบถามหน่วยงานหรือโรงพยาบาลต้นสังกัด หรือสอบถาม/ยื่นเอกสารได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคมนี้ เป็นต้นไป

 

สธ.-ออมสิน เปิด 2 โครงการแก้หนี้บุคลากร คิกออฟพร้อมกันทั่วประเทศ

 

 

นพ.โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากเปิดโครงการในวันนี้แล้ว ธนาคารออมสิน ยังมีแผนจัดกิจกรรม
เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่บุคลากรในการเข้าใช้บริการทางการเงิน โดยจะเปิดบูธให้บริการทางการเงินที่บริเวณโรงอาหาร สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ทุกวันพุธ เป็นระยะเวลา 3 เดือน เริ่มวันที่ 27 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป จากนั้นจะจัดกิจกรรม เปิดแผนงานความมั่นคงปลอดภัยทางการเงิน (Money Safety MOPH+) ณ โรงพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศ ในวันที่ 21 ธันวาคม 2566 พร้อมทั้งเปิดบูธให้บริการทางการเงินในโรงพยาบาลทุกแห่ง เป็นเวลา 3 เดือนด้วย

 

ด้าน นายวุฒิพงษ์ กล่าวว่า ธนาคารออมสิน รู้สึกยินดีที่ทางกระทรวงสาธารณสุข มอบความไว้วางใจให้ธนาคารออมสิน ได้เป็นผู้ดูแลบุคลากรในสังกัด สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ ธนาคารออมสิน ได้จัดสรรอัตราดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อเป็นสวัสดิการทางการเงิน และร่วมจัดทำคลินิกรักษาสุขภาพความมั่นคงทางการเงิน เพื่อพัฒนาระบบสร้างเสริมสุขภาพทางการการเงิน และเพิ่มวินัยทางการเงิน ให้บุคลากรในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขมีความมั่นคงในชีวิต

 

สธ.-ออมสิน เปิด 2 โครงการแก้หนี้บุคลากร คิกออฟพร้อมกันทั่วประเทศ