สธ. ร้องตำรวจ เอาผิด 'อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต' เปิดคลินิกเถื่อน ฟันดาราด้วย
ผอ.กองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สธ. ร้องตำรวจ ปคบ. เอาผิด “อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต” 3 ข้อหา หลังเปิดคลินิกเถื่อน เตรียมปรึกษาพนักงานสอบสวน เอาผิดเพิ่ม ดาราที่ออกมาโฆษณาชักชวนผ่านโซเชียล ในข้อหา พ.ร.บ.คอมฯ
นายชาตรี พินใย ผอ.กองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เดินทางเข้ายื่นหนังสือแจ้งความกับ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. เพื่อดำเนินคดีกับ อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
โดยนายชาตรี กล่าวว่า ตนได้รับการมอบหมายจากอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ให้มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับอาจารย์เอก ใน 3 ข้อหา ได้แก่
- ประกอบสถานบริการสุขภาพโดยไม่รับอนุญาตหรือเปิดคลินิกเถื่อน
- ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือหมอปัจจุบันเถื่อน
- ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือแพทย์แผนไทยเถื่อน
ซึ่งสืบเนื่องจากการที่ อาจารย์เอก ได้มีการโฆษณาผ่านโซเชียลมีเดียว่า สามารถรักษาโรคต่าง ๆ ทั้งไมเกรน และตาบอดได้ ทั้งที่โรคเหล่านี้ต้องรักษาโดยแพทย์แผนปัจจุบันเท่านั้น ซึ่งพฤติการณ์จากในคลิป พบการรักษาโดยใช้เท้าใช้ฝ่ามือ ซึ่งตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม และ พ.ร.บ.วิชาชีพแพทย์แผนไทย ถือว่าเข้าข่ายเจตนามุ่งหมายที่จะตรวจโรควินิจฉัย จึงถือว่าเข้าองค์ประกอบความผิดแล้ว
รวมถึงสถานประกอบการของ อาจารย์เอก ก็เข้าข่ายไม่ได้รับอนุญาตจดทะเบียน ให้ดำเนินกิจการสถานพยาบาลตามกฎหมาย จึงเข้าข่ายความผิดเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ยังไม่มีเรื่องร้องเรียนจากผู้เข้ารับการรักษาว่า จะได้รับผลกระทบประการใด จากการรักษากับ อาจารย์เอก แต่พบว่าเข้าข่ายการโฆษณาหลอกลวงผ่านโซเชียลมีเดีย จึงอาจจะเข้าความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งเรื่องนี้ จะต้องมีการปรึกษากับทางพนักงานสอบสวนต่อไป
นายชาตรี ระบุอีกว่า กลุ่มผู้กระทำความผิดเหล่านี้ มักจะอาศัยฉวยโอกาสที่ประชาชนอาจจะมองว่า เข้าไม่ถึงระบบการรักษา จึงขอแนะนำประชาชนว่า ควรเข้ารับการรักษาตามแพทย์ในระบบที่ถูกต้องตามกฎหมายจะดีกว่า ซึ่งทางรัฐบาลได้ดำเนินการส่งเสริมการให้บริการสุขภาพครอบคลุมถึงประชาชนทุกคน ทั้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และ อสม. ตามชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศ
ส่วนกรณีที่มีดารา หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงมาโฆษณาชวนเชื่อให้กับ อาจารย์เอก นั้น นายชาตรี ระบุว่า เรื่องนี้อาจจะเข้าข่ายความผิดข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่จะต้องดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน และปรึกษากับพนักงานสอบสวน โดยละเอียดอีกครั้ง
ขณะที่ พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า หลังจากนี้จะดำเนินการรวบรวมหลักฐาน และสอบสวนรายละเอียดจาก นายชาตรี รวมทั้งนำข้อมูลจากการตรวจค้นของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เพื่อเป็นหลักฐานประกอบในการแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนจะเรียกให้ผู้ทำความผิดมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป
