“ราชวิถี”ถอดบทเรียนโควิด-19 ผ่านวิกฤตสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน 

“ราชวิถี”ถอดบทเรียนโควิด-19 ผ่านวิกฤตสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน 

รพ.ราชวิถี ถอดบทเรียนผ่านวิกฤตโควิด-19 สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน กำชับแม้สถานการณ์สงบต้องเตรียมพร้อม “2P 2R” รับภัยพิบัติอยู่เสมอ ฝ่ายการแพทย์ควรวางแผนรับมือ 4 ส่วนหลัก พยาบาลควรมีการซ้อมแผนทุกปี สามารถเปิดหอผู้ป่วยได้ภายใน 24-48 ชั่วโมง

Key Point : 

  • บทบาทและ การดำเนินงานของรพ.ราชวิถีในช่วงที่โรคโควิด-19ระบาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นสถานพยาบาลแห่งหนึ่งที่รับผู้ป่วยในเขตกทม.ทั้งระดับเขียว เหลือง และแดง
  • ถอดบทเรียนการรับมือของรพ.ราชวิถี จากวิกฤตโรคโควิด-19 เพื่อนำไปสู่การพัฒนารองรับสถานการณ์ที่ยั่งยืน
  • แผนรับมือภัยพิบัติที่จะต้องเตรียมอยู่เสมอในหลัก 2 P 2 R และต้องพร้อมทั้งฝ่ายดูแลรักษา ฝ่ายพยาบาล และฝ่ายเครื่องมือแพทย์ 

   ภายในงานประชุมวิชาการ ครั้งที่ 33 ในหัวข้อ “72nd Anniversary of Rajavithi Hospital : The journey of success” ของรพ.ราชวิถี เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ด้านการแพทย์และการสาธารณสุข นำเสนอผลการศึกษาวิจัย นวัตกรรม และถ่ายทอดเทคโนโลยี โดยมีการเสวนาเชิงวิชาการ เรื่อง “ถอดบทเรียนการบริหารเครื่องมือแพทย์ผ่านวิกฤตโควิด-19สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน”

      นพ.ไพโรจน์ เครือกาญจนา รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์ รพ.ราชวิถี กล่าวว่า บทบาทของรพ.ราชวิถีในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 โดยรพ.เป็นระดับตติยภูมิ อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทำให้ต้องคิดว่าแต่ละขั้นตอนต้องดำเนินการอย่างไร จึงมีการแบ่งการดูแลผู้ป่วยตามระยะความรุนแรงของโรคโควิด-19 และมีนโยบายในการบริหารทรัพยากรทั้งบุคลากร เครื่องมือ การจัดการและงบประมาณที่ชัดเจน มีการเตรียมความพร้อมตั้งแต่นอกรพ. จนมานนอนในรพ. และกลับบ้าน     

เป็นสิ่งที่ต้องวางแผน ต้องคิดว่าแต่ละะระยะต้องทำอย่างไร จึงวางระบบเรื่องฮอสพิเทล จนกลายเป็นโมเดลให้กระทรวงสาธารณสุขนำไปใช้ทั่วประเทศ มีการทำแท็กซี่โควิดในการนำคนไข้มารพ. รวมถึง ช่วงก.ค.2564 ที่มีการระบาดของจำนวนมากได้ทำโครงการอยู่บ้านปลอดภัย ให้ผู้ป่วยโควิดที่อาการไม่หนักพักอยู่บ้านด้วยความปลอดภัย เป็นต้น

     2P 2R เตรียมรับภัยพิบัติ

  ระยะที่ดูเหมือนการระบาดใหญ่ของโควิด-19ผ่านพ้นไปแล้ว แต่จะต้องเข้าใจวัฎจักรของภัยพิบัติ ซึ่งโควิด-19ถือเป็นภัยพิบัติอย่างหนึ่ง จะต้องเตรียมการด้วยหลัก 2P 2R ได้แก่

1.Plan ต้องมีวางแผนความพร้อม เมื่อเกิดเหตุการณ์สามารถนำแผนที่มีมาปรับใช้ได้

2.Response การจัดการและตอบสนองในภาวะฉุกเฉิน เพื่อปฏิบัติการและบรรเทาทุกข์

3. Rehabillitation การฟื้นฟูบูรณะ และการก่อสร้างใหม่ ให้กลับสู่ปกติ

และ4.Pandemic เมื่อเกิดเหตุการระบาดใหม่ ต้องป้องกันและลดผลกระทบที่เกิดขึ้น

 ดูแลผู้ป่วยเตรียมพร้อม 4 ส่วน

ด้้านฝ่ายการแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วย  พญ.พจนี ก่อรุ่งเรือง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ กลุ่มงานอายุรศาสตร์ กล่าวว่า การดูแลผู้ป่วยโควิด-19ในช่วงแรกมีความรู้น้อยมาก และพบว่าคนไข้มีปอดอักเสบ เพราะฉะนั้นรพ.ราชวิถีจะต้องดูแลกรณีผู้ป่วยหนักแน่นอน จึงต้องมีการเตรียมความพร้อมทุกส่วน

   

“ราชวิถี”ถอดบทเรียนโควิด-19 ผ่านวิกฤตสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน 

 

1.สถานที่ มีความต้องการห้อง AIIR (Airborne Infection Isolation Room) หรือ Modified AIIR หรือ Isolation Room ซึ่งในตอนนั้นรพ.มีห้อง AIIR 4 เตียง Isolation Room 11 เตียง โจทย์จึงต้องเพิ่ม AIIR ที่ดูแลผู้ป่วยวิกฤตได้ในเวลาจำกัด และได้มีการปรับปรุงหอผู้ป่วยที่มีให้เป็น Modified AIIR เพื่อให้มีความปลอดภัย จึงต้องเอาเต้นท์ปรับระบบอากาศเป็นความดันลบเข้าไปในพื้นที่หอผู้ป่วย เมื่อช่วงต้นปี 2564 ช่วงระบาดของเดลตาที่นับเป็นระบาดที่โหดที่สุด รพ.ราชวิถี ได้มีการเตรียมพร้อม AIIR ที่สมบูรณ์รองรับ ได้ 9 เตียง

2.บุคลากรทางการแพทย์ จำนวนบุคลกรไม่เพียงพอ โดยต้องการบุคลากรที่มีศักยภาพในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19ที่มีภาวะวิกฤตได้ จึงต้องพัฒนาศักยภาพตนเองเป็นการดูแลคนไข้หนัก มีการหมุนเวียนแพทย์ประจำบ้าน แพทย์ประจำบ้านต่อยอดมาดูแลผู้ป่วยโควิด-19 และบุคลากรในอายุรศาสตร์ วิสัญญีห้องปฏิบัติการ รังสี วิศวกรรมชีวการแพทย์ เวชศาสตร์ฟื้นฟูและอื่นๆ ก็ต้องมาช่วยกันทั้งหมด

3.อุปกรณ์ทางการแพทย์ ต้องมีประสิทธิภาพทำให้ผู้ป่วยปลอดภัย มีใช้อย่างเพียงพอ จัดหาให้พร้อมใช้ อุปกรณ์ที่มีปัญหาต้องพร้อมแก้ไข จัดหาอุปกรณ์สำรอง แต่ปัญหาในช่วงการระบาดคือ จัดซื้อจัดหาไม่ได้ เพราะไม่มีสินค้า ในการวางแผนแก้ปัญหา จึงต้องมีการวางแผน ประมาณการใช้งาน จัดสรรทรัพยากรที่มีในรพ. ประยุกต์การใช้งาน และใช้ซ้ำหมุนเวียน

และ4.ระบบบริหารจัดการ ที่ปรับตามสถานการณ์ ต้องมีระบบสเต็ปอัพ-สเต็ปดาวน์ในหอผู้ป่วยโควิด หอผู้ป่วยสามัญ มีระบบส่งต่อต่างๆ เป็นต้น

เกิดพยาบาลมัลติฟังชั่น 

  ขณะที่ จภิญญา เศรษฐจารุรักษ์ หัวหน้าหอผู้ป่วยวิกฤตแยกโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ(AIIR ICU) กลุ่มงานภารกิจด้านการพยาบาล เล่าว่า ส่วนตัวเป็นพยาบาลศัลยกรรมหัวใจมา 30 ปี แต่ถูกเรียกตัวมาช่วยดูแลผู้ป่วยโควิด จึงต้องปรับตัวอย่างมาก ช่วงระบาดมากมีการประสานงาน ประชุม วางแผน ระดมสมอง

“ราชวิถี”ถอดบทเรียนโควิด-19 ผ่านวิกฤตสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน 

      ช่วงที่โควิดระบาดมาก คนไข้อื่นจำนวนลดลง ทำให้สามารถดึงบุคลากรมาดูแลคนไข้โควิดได้จากทุกแผนก แต่ต้องมาปรับกันก่อนว่าจะดูแลคนไข้อย่างไร แต่งเครื่องป้องกันอย่างไร ช่วงแรกอาจกลัวมาก ต้องปรับทัศนคตินิดนึงว่าพยาบยาลทำได้ทุกอย่าง เช่น พยาบาลห้องคลอด วิสัญญี ไอซียูอายุรกรรมมาช่วยดูแลคนไข้โควิด ก็ทำได้ สามารถปรับได้ โดยมีการสอนเป็นระยะถ้ามีปัญหาหน้างาน

      เมื่อมีปัญหาต่างๆก็เกิดการเรียนรู้ คงจะไม่มีที่ไหนมีการสอนผ่านกล่องวงจรปิด ซึ่งพยาบาลบางคนไม่ได้เรียนครื่องเมื่อตัวนี้ แต่ไม่สามารถเข้าไปสอนข้างในก็สอนผ่านวงจรปิด ทุกคนก็ทำได้ดี รวมถึงการใช้เครื่องมือไฮเทคทุกอย่าง มีคนไข้ต้องใช้เครื่องเอคโมก็มี

"พยาบาลที่ปกติดูแลศัลยกรรม ออร์โธปิดิกส์ หรืออื่นๆ จากทุกแผนกต้องมาดูแลคนไข้โควิดด้วย ก็ เป็นเหมือนพยาบาลมัลติฟังชั่นที่ดูแลได้ทุกอย่าง”จภิญญากล่าว

      หลังจากนี้ ควรมีการซ้อมแผนทุกปี เหมือนซ้อมดับเพลิง ถ้ามีโควิดระบาดขึ้นอีก มีความพร้อม สามารถเปิดหอผู้ป่วยภายใน 24-48 ชั่วโมงได้ทันที

 ฝ่ายเครื่องมือแพทย์ 

     จรูญ ปิดทะเหล็ก หัวหน้างานวิศวกรรมชีวการแพทย์ กลุ่มงานสนับสนุนวิชาการและถ่ายทอด รพ.ราชวิถี กล่าวว่า ภาพรวมหอผู้ป่วย/หน่วยรักษาผู้ป่วยโควิด-19รพ.ราชวิถีทั้ง 1 และ 2 จำนวนกว่า 200 เตียง รองรับผู้ป่วยทั้งระดับสีเขียว เหลืองและแดง ซึ่งในช่วงแรกเกิดปัญหาในเรี่องของเครื่องมือแพทย์ไม่พอใช้ แต่ก็ไม่สามารถจัดหาได้ มีเงินก็ไม่สามารถซื้อได้ เพราะมีความต้องการในตลาดที่สูงมาก สินค้าไม่เพียงพอ แม้มีความต้องการบริจาคจำนวนมากขึ้น แต่เครื่องมือมีความหลากหลาย ไม่ได้มาตรฐาน เป็นต้น

     การวางระบบดูแลหอผู้ป่วยโควิดรพ.ราชวิถีอย่างต่อเนื่องเพื่อความยั่งยืนสำคัญมาก เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอีกเมื่อไหร่ อย่างเช่น

1.วางระบบและจัดทำมาตรฐานการปฏิบัติงาน เพื่อรองรับสถานการณ์ที่ไม่ปกติ เช่น โรคระบาด อุบัติภัยหมู่ ต้องพร้อมทันที

2.เตรียมความพร้อมของเครื่องมือแพทย์ ตรวจเช็คทะเบียน บำรุงรักษา หมุนเวียรใช้งานเครื่องมือและระบบที่เกี่ยวข้องใช้หลัก

3.สื่อสารสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายและถ่ายทอด

และ4.หลักเศรษฐกิจพอเพียง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และภูมิคุ้มกัน