ปี 2580 คาดไทยขาดแคลนแรงงานในภาคเศรษฐกิจใส่ใจกว่า 250,000 คน

ILO เปิดรายงานฉบับใหม่ เผยปี 2580 ไทยต้องการแรงงานในภาคเศรษฐกิจใส่ใจมากที่สุด คาดว่าต้องการแรงงานดูแลที่บ้านให้กับผู้สูงอายุมากขึ้นกว่า 250,000 คน โดยในจำนวนนี้จะเป็นแรงงานข้ามชาติประมาณ 55,000 คน
KEY
POINTS
- ILO คาดภายในปี 2580 ไทยจะมีความต้องการที่จะจ้างงานแรงงานเพื่อการดูแลที่บ้านให้กับผู้สูงอายุมากขึ้นกว่า 250,000 คน โดยในจำนวนนี้จะเป็นแรงงานข้ามชาติประมาณ 55,000 คน
- ความต้องการในการจ้างแรงงานแบบมีค่าตอบแทนเพื่อการดูแลผู้สูงอายุอยู่ที่บ้านจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 70 ใน 12 ปีข้างหน้า
- เสนอให้มีการลงทุนจากภาครัฐที่มากขึ้นในเศรษฐกิจใส่ใจ (care economy) ซึ่งรับประกันการเข้าถึงบริการ การดูแลที่บ้านและชุมชนที่เข้าถึงได้ และส่งเสริมสภาพการทำงานที่เหมาะสมของแรงงาน
รายงานฉบับใหม่ของ ILO ซึ่งเผยแพร่เนื่องในวันการดูแลและสนับสนุนสากล (International day for Care and Support)คาดการณ์ว่าความต้องการแรงงานในเพื่อการดูแลที่บ้านให้กับผู้สูงอายุในประเทศไทยจะเพิ่มสูงขึ้นตามอัตราการสูงวัยของประชากร การศึกษานี้เสนอให้มีการลงทุนมากขึ้นในระบบการดูแลในระดับชุมชน และการสร้างงานที่มีคุณค่าให้กับแรงงานในภาคเศรษฐกิจใส่ใจทั้งแรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติ
ประเทศไทยมีแนวโน้มความต้องการการดูแลภายในบ้านแก่ผู้สูงอายุเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก รายงานฉบับใหม่ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) คาดการณ์ว่า ภายในปี 2580ประเทศไทยจะมีความต้องการที่จะจ้างงานแรงงานเพื่อการดูแลที่บ้านให้กับผู้สูงอายุมากขึ้นกว่า 250,000 คน โดยในจำนวนนี้จะเป็นแรงงานข้ามชาติประมาณ 55,000 คน
รายงาน “Care at home: การคาดการณ์ความต้องการแรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติเพื่อการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน” พบว่า เมื่อโครงสร้างครอบครัวเปลี่ยนไปและการดูแลผู้สูงอายุโดยสมาชิกในครอบครัวแบบที่ไม่ต้องเสียค่าจ้างจะลดลง ความต้องการในการจ้างแรงงานแบบมีค่าตอบแทนเพื่อการดูแลผู้สูงอายุอยู่ที่บ้านจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 70 ใน 12 ปีข้างหน้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
เปิดเหตุผล ILO และที่มา 65 ปี ไทยต้องขยายอายุผู้ประกันตน
‘แรงงานไทย’เปราะบางทุกมิติ ปรับตัว- เพิ่มทักษะก้าวข้ามกับดัก
"เศรษฐกิจใส่ใจ" เป็นที่ต้องการของสังคมสูงวัย
ประเทศไทยมีนโยบายเรื่อง “การสูงวัยในถิ่นที่อยู่” (aging in place) ซึ่งเป็นนโยบายที่ผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะยังคงอาศัยอยู่ในบ้านของตนแทนที่จะไปอยู่ในบ้านพักคนชราหรือสถาบันเอกชนที่ดูแลผู้สูงอายุ ที่หลายครอบครัวอาจไม่สามารถจ่ายค่าดูแลส่วนนี้ได้ การศึกษาฉบับนี้ชี้ว่า หากไม่มีการลงทุนจากภาครัฐ ช่องว่าง ภาระ ด้านการดูแลจะเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะในครัวเรือนที่มีรายได้น้อย
ปัจจุบันในประเทศไทย พยาบาล อาสาสมัครชุมชน และแรงงานทำงานบ้านซึ่งหลายคนเป็นแรงงานข้ามชาติ ทำงานดูแลที่ได้รับค่าตอบแทน รายงานยังระบุอีกว่า แรงงานข้ามชาติมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นในกลุ่มแรงงานทำงานบ้านและงานดูแล และบทบาทของแรงงานกลุ่มนี้จะขยายกว้างขึ้นเนื่องจากกำลังแรงงานของไทยสูงวัยมากขึ้นและแรงงานที่อยู่ในวัยหนุ่มสาวเข้าสู่ตลาดแรงงานด้านการดูแลน้อยลง
เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ไอแอลโอเสนอให้มีการลงทุนจากภาครัฐที่มากขึ้นในเศรษฐกิจใส่ใจ* (care economy) ซึ่งรับประกันการเข้าถึงบริการ การดูแลที่บ้านและชุมชนที่เข้าถึงได้ และส่งเสริมสภาพการทำงานที่เหมาะสมของแรงงานในภาคนี้ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 15 (พ.ศ. 2567) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 คุ้มครองลูกจ้างทำงานบ้าน
รายงานฉบับนี้ยังส่งเสริมช่องทางการย้ายถิ่นที่ถูกต้องและเป็นธรรม การรับรองและยกระดับทักษะฝีมือแรงงานด้านการดูแล สำหรับแรงงานไทยและข้ามชาติที่ต้องการทำงานในภาคธุรกิจนี้ รวมถึง การเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านสุขภาพ การขยายระบบดูแลชุมชน และการลงทุนในเทคโนโลยี เช่น การแพทย์ทางไกลและอุปกรณ์ช่วยเหลือ อาจช่วยลดช่องว่างด้านการดูแลที่คาดการณ์ไว้ของประเทศไทยได้อย่างมาก ซึ่งอาจลดความต้องการแรงงานในภาคธุรกิจนี้ลงเหลือน้อยกว่า 100,000 คน
แนะรัฐไทยลงทุนแนวทางการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน
นางเสี่ยวเยี่ยน เฉียน ผู้อำนวยการสำนักงานแรงงานระหว่างประเทศประจำประเทศไทย กัมพูชา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กล่าวว่า การศึกษาฉบับนี้ ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าแนวทางการดูแลผู้สูงอายุอยู่ที่บ้านของไทยจะประสบความสำเร็จได้ ก็ต่อเมื่องานด้านการดูแลได้รับการยอมรับ คุ้มครอง และให้คุณค่าในฐานะงานที่มีทักษะ การลงทุนในงานที่มีคุณค่าสำหรับผู้ทำงานดูแลทั้งแรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติ จะช่วยให้ประเทศไทยสร้างระบบการดูแลที่ยั่งยืน เป็นธรรม และเป็นประโยชน์ต่อครอบครัว ชุมชน และเศรษฐกิจของประเทศ
รายงานของ ILO จัดทำขึ้นโดยโครงการ TRIANGLE in ASEAN ของไอแอลโอ ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากกระทรวงการต่างประเทศและการค้าออสเตรเลีย และกระทรวงการต่างประเทศแคนาดา โดยให้ข้อมูลเพื่อสนับสนุนนโยบายของไทยเกี่ยวกับผู้สูงอายุ การย้ายถิ่นของแรงงาน และเศรษฐกิจใส่ใจ สอดคล้องกับมติของการประชุมใหญ่องค์การแรงงานระหว่างประเทศ ปี พ.ศ. 2567 ว่าด้วยงานที่มีคุณค่าและเศรษฐกิจใส่ใจ







