LINE MAN Wongnai เสริมทัพเทคฯ ดึง 'ซีเนียร์' รับมือโลกเปลี่ยน

LINE MAN Wongnai เสริมทัพเทคฯ  ดึง 'ซีเนียร์' รับมือโลกเปลี่ยน

LINE MAN Wongnai (ไลน์แมนวงใน) หนึ่งในผู้นำแพลตฟอร์มเทคโนโลยีสัญชาติไทย กำลังเผชิญความท้าทายในการดึงดูดบุคลากรที่มีประสบการณ์สูง หรือ “ซีเนียร์”

KEY

POINTS

  • LINE MAN Wongnai (ไลน์แมนวงใน)  แม้จะประสบความสำเร็จเป็นที่รู้จักของคนรุ่นใหม่และมีพนักงานส่วนใหญ่เป็น Gen Y และ Gen Z แต่อาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการรับบุคลากรระดับผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญที่มีวุฒิภาวะ
  • บริษัทจึงปรับกลยุทธ์สื่อสาร เพื่อตอกย้ำถึงโอกาสในการเติบโตและความท้าทายของเนื้องาน ขยายฐานบุคลากรให้มีความหลากหลายด้านวัยวุฒิมากยิ่งขึ้น
  • หวังดึงคนไทยที่อยู่ในซิลิคอนแวลลีย์ ให้นึกถึง LINE MAN Wongnai ว่าเป็นบริษัทเทคฯ สัญชาติไทย และเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆที่จะกลับมาทำงานที่ประเทศไทย

 

LINE MAN Wongnai (ไลน์แมนวงใน) หนึ่งในผู้นำแพลตฟอร์มเทคโนโลยีสัญชาติไทย กำลังเผชิญความท้าทายในการดึงดูดบุคลากรที่มีประสบการณ์สูง หรือ “ซีเนียร์” เข้ามาร่วมงาน แม้บริษัทจะประสบความสำเร็จในการเป็นที่รู้จักของคนรุ่นใหม่และมีพนักงานส่วนใหญ่เป็น Gen Y และ Gen Z แต่ภาพลักษณ์ที่ดู “คนรุ่นใหม่” และ “สนุกสนาน”อาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการรับบุคลากรระดับผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญที่มีวุฒิภาวะ บริษัทจึงปรับกลยุทธ์สื่อสาร เพื่อตอกย้ำถึงโอกาสในการเติบโตและความท้าทายของเนื้องาน หวังขยายฐานบุคลากรให้มีความหลากหลายด้านวัยวุฒิมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบัน LINE MAN Wongnai มีพนักงานราว 1,200 คน โดยทีมเทคฯ มีสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่ง หรือประมาณ 500 คน พนักงานส่วนใหญ่เป็น Gen Y ถึง 71% และ Gen Z 27%  โดยมีอายุเฉลี่ยเพียง 31 ปี ซึ่งสะท้อนถึงการเป็นองค์กรของคนรุ่นใหม่ได้อย่างชัดเจน พนักงานที่มีอายุมากที่สุดในบริษัทคือ 51 ปี

อย่างไรก็ตาม มีพนักงานที่อายุ 40 ปีขึ้นไปเพียงไม่กี่คนเท่านั้น (ประมาณ 20 คน) ผู้บริหารยอมรับว่าภาพลักษณ์ที่ดูเป็น “องค์กรที่เน้นเด็กจบใหม่ ผู้ชายจบวิศวะ” ทำให้คนทำงานที่มีประสบการณ์รู้สึกว่าตนเองอาจ “ตกยุค” และไม่เหมาะกับบริษัท โดยเฉพาะตำแหน่งผู้จัดการที่ต้องการประสบการณ์ บุคลากรกลุ่มนี้จึงไม่ค่อยมาสมัคร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ส่อง 3 ยูนิคอร์น สัญชาติไทย `ไลน์แมน วงใน- แฟลช เอ็กซ์เพรส-แอสเซนด์ มันนี่'

คนไทยคลั่ง ‘มัทฉะ’ ไม่หยุด! กินไปแล้ว ‘5 ล้านแก้ว’ แพงก็ยอมจ่าย ถ้าใช้ของดีชงขาย

“ซีเนียร์” ในองค์กรเทคฯ มีความจำเป็น

"อิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์"  รองประธานฝ่ายนโยบายสาธารณะและรัฐกิจสัมพันธ์ ให้สัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ”ว่า ขณะนี้บริษัทกำลังปรับการสื่อสารให้เห็นเนื้องานมีความเป็นมืออาชีพ มีความท้าทาย และมีโอกาสในการเติบโตในสายอาชีพ (career path) ที่ชัดเจนเพื่อดึงบุคลากรระดับซีเนียร์มาเสริมทัพ  เพราะตระหนักดีว่า แม้พนักงานรุ่นใหม่จะมีความเชี่ยวชาญด้านโปรแกรมมิ่ง แต่ยังต้องการบุคลากรระดับซีเนียร์ เพราะมีประสบการณ์และทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งที่สามารถนำมาใช้พัฒนาองค์กร อาทิ ความสามารถในการบริหารคน บริหารทีม เข้าใจพฤติกรรมลูกค้า และเข้าใจภาพรวมของธุรกิจ ​​​

"ความสำคัญของ “ซีเนียร์” ในองค์กรเทคฯ มีความจำเป็น เพราะทักษะที่บุคลากรระดับซีเนียร์ มีไม่สามารถหาได้ง่ายจากบุคลากรจบใหม่ และเป็นสิ่งที่บริษัทต้องการเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ซีเนียร์ที่ถูกรีครูตจากองค์กรอื่นก็สามารถทำผลงานได้ดี และบริษัทยังต้องการบุคลากรกลุ่มนี้เพิ่ม" อิสริยะ กล่าว

“อิสริยะ” กล่าวว่าดังนั้น LINE MAN Wongnai  จึงได้ดำเนินกลยุทธ์หลายประการ เริ่มต้นปรับการสื่อสารด้านเนื้องานให้เห็นว่าเนื้องานมีความเป็นมืออาชีพ มีความท้าทาย และมีโอกาสในการเติบโตในสายอาชีพ (career path) ที่ชัดเจน สำหรับบุคลากรระดับซีเนียร์ที่อาจมีครอบครัวและมองหากิจกรรมสันทนาการน้อยลง แต่สนใจความก้าวหน้าในอาชีพมากกว่า

นอกจากนี้ ยังมีการสื่อสารเชิงรุกและเจาะจง แบบส่วนตัวกับผู้ที่ถูกแนะนำเข้ามา และพยายามสื่อสารในวงกว้างมากขึ้น เพื่อแสดงให้เห็นว่าองค์กรมีพนักงานหลากหลาย มีพนักงานระดับซีเนียร์ และผู้ที่จบสาขาอื่น ๆ ก็สามารถเข้ามาทำงานได้ และยังเดินทางไป

LINE MAN Wongnai เสริมทัพเทคฯ  ดึง 'ซีเนียร์' รับมือโลกเปลี่ยน

ไม่ยึดสาขา แต่เน้นศักยภาพ

ซิลิคอนแวลลีย์ (Silicon Valley)เพื่อสรรหาคนไทยที่มีประสบการณ์กลับมาร่วมงานด้วย ซึ่งอาจจะยังไม่เห็นผลในเร็ววัน แต่เขาเชื่อมั่นว่าด้วยกลยุทธ์การปรับภาพลักษณ์และการสื่อสารที่ชัดเจน จะสามารถดึงดูดบุคลากรที่มีประสบการณ์เข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับ LINE MAN Wongnai ในฐานะผู้นำเทคฯ ของไทยต่อไปได้ 

"เราอยากให้ คนไทยที่อยู่ใน ซิลิคอนแวลลีย์ นึกถึง LINE MAN Wongnai ว่าเราเป็นบริษัทเทคฯ สัญชาติไทย และเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆที่จะมาทำงานด้วยหากว่าพวกเขาต้องการกลับมาทำงานที่ประเทศไทย" อิสริยะ กล่าว

ปัจจุบัน LINE MAN Wongnai ใช้หลักไม่ยึดสาขา แต่เน้นศักยภาพ  ในการคัดเลือกพนักงาน มี 4 แกนหลักที่ใช้ในการพิจารณาผู้สมัครทุกคน ได้แก่ทักษะ (Skill) ผู้สมัครต้องผ่านการสอบวัดทักษะที่เข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมมิ่ง หรือทักษะเฉพาะด้านตามสายงาน ซึ่งไม่แตกต่างจากบริษัทเทคระดับโลกอย่าง Google หรือ Facebook 

ศักยภาพ (Potential)บริษัทมองหาผู้สมัครที่มีศักยภาพในการเติบโต ไม่ว่าจะเติบโตเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือหัวหน้าทีม วัฒนธรรมองค์กร (Culture) เนื่องจากเป็น Tech Company สัญชาติไทยที่ต้องแข่งขันกับแพลตฟอร์มต่างชาติขนาดใหญ่ บริษัทจึงเน้นการทำงานที่รวดเร็ว คล่องตัว และเข้าใจความต้องการเฉพาะของคนไทย.ทัศนคติ (Mindset) มองหาคนดี มีจิตใจที่เปิดกว้างและมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี

“บริษัทไม่ได้ยึดติดกับสาขาวิชาที่จบมาในการรับพนักงาน โดยเปิดโอกาสให้ผู้สมัครจากหลากหลายสาขา เช่น หากจบอักษรศาสตร์ก็สามารถสมัครโปรแกรมเมอร์ได้ หากแสดงให้เห็นถึงทักษะที่ผ่านเกณฑ์ เช่นเดียวกันกับการรับนักศึกษาฝึกงาน ที่เปิดกว้างไม่จำกัดภาควิชาและมีการสอบคัดเลือกใหม่ทั้งหมด” อิสริยะ กล่าว

 เชื่อมั่นประสิทธิภาพในความหลากหลาย

 นอกจากนี้ทีมงานมีสัดส่วนระหว่างผู้ชายและผู้หญิงที่ใกล้เคียงกันคือครึ่งต่อครึ่ง ในระดับบริหารผู้หญิงดำรงตำแหน่งตั้งแต่ระดับผู้จัดการขึ้นไปจนถึงระดับ C-Level สูงถึง 46% (จากจำนวนพนักงานทั้งหมดในตำแหน่งระดับสูง) และในสายงานเทคโนโลยีก็มีพนักงานหญิงระดับสูงถึง 23% (จากจำนวนพนักงานสายเทคในตำแหน่งสูงทั้งหมด) ปีนี้ พนักงานในสายงานเทคโนโลยีมี 13 % มาจากผู้ที่จบการศึกษาในสาขา Non-STEM  โดย 18 % ทีมงานจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนอกกรุงเทพฯ

นอกจากนี้เรายังมีพนักงาน Expat อีก 31 คน มีทีม Developer ที่สำนักงานเชียงใหม่ถึง 22 คน และยังมีทีม  Developer ในหาดใหญ่และขอนแก่นอีกด้วย นอกจากนี้ พนักงาน 73 คนทำงานจากระยะไกลนอกเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งในจำนวนนั้น 16 คน ทำงานจากเกาหลีใต้และสิงคโปร์

“เราไม่ได้กำหนดให้พนักงานต้องระบุเพศตั้งแต่ต้น เพราะเราเชื่อว่าเพศวิถีไม่ใช่อุปสรรคต่อความสามารถในการทำงานและเราเปิดรับทุกความเป็นไปได้ทางวิชาชีพ โดย ปี 2025 พนักงานในสายงานเทคโนโลยีมี 13% มาจากผู้ที่จบการศึกษาในสาขา Non-STEM แสดงให้เห็นว่าแพชชันและความคิดเชิงวิพากษ์คือสิ่งที่สำคัญไม่แพ้สาขาที่เรียนมาโดยตรงปัจจุบันอายุเฉลี่ยของพนักงานเราคือ 31 ปี และอายุมากที่สุดคือ 51 ปี) ซึ่งแต่ละรุ่นต่างก็ นำเสนอ มุมมองที่สด ใหม่และแตกต่าง” อิสริยะ กล่าว

ขณะเดียวกันด้านสวัสดิการและคุณภาพชีวิตพนักงาน LINE MAN Wongnai ให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางเพศ โดยมีนโยบายให้สวัสดิการเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นเพศชาย หญิง หรือ LGBTQ+ เช่น เงินขวัญถุงงานแต่งงาน. นอกจากนี้ ยังตระหนักถึงประเด็นสุขภาพจิตของคนรุ่นใหม่ โดยมีการจัดบริการปรึกษาจิตแพทย์ฟรีให้กับพนักงาน เพื่อส่งเสริมสุขภาวะที่ดีและประสิทธิภาพในการทำงาน เพราะเชื่อว่า เมื่อพนักงานได้รับการดูแลสุขภาพจิตที่ดีก็จะมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น 

เทคไม่ใช่“อุตสาหกรรมของผู้ชาย”

ภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมเทคในปัจจุบันมักถูกมองว่าเป็น “อุตสาหกรรมของผู้ชาย” ที่เน้นโปรแกรมเมอร์ที่จบวิศวะ  LINE MAN Wongnai จึงต้องการแก้ไขจุดนี้เพื่อเพิ่มความหลากหลายและดึงดูดผู้สมัครที่มีความสามารถที่หลากหลาย โดยหนึ่งในกิจกรรมสำคัญคือการจัด“ค่าย Spectrum Tech Camp”สำหรับนักเรียนระดับมัธยมปลาย

ค่ายนี้มีจุดประสงค์หลักเพื่อให้น้องๆ ได้มาค้นหาตัวเองว่าอาชีพในสายเทคตรงกับความสนใจจริงหรือไม่ และได้สัมผัสการทำงานจริงจากพี่ๆ พนักงานหลากหลายสายงาน ไม่ใช่แค่โปรแกรมเมอร์ แต่ยังรวมถึง QA, UI/UX Design, Business Intelligence และอื่นๆ ค่ายปีล่าสุดมีผู้สมัครเกือบ 1,000 คน และรับได้ 88 คน โดยพยายามคัดเลือกผู้เข้าอบรมให้มีความหลากหลายทั้งเพศ อายุ และภูมิภาค แม้จะเป็นค่าย 1 วัน เนื่องจากข้อจำกัดด้านสถานที่ แต่ก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดี และมีแนวคิดจะขยายวันจัดกิจกรรมในอนาคต.