ประโยชน์ของวัฒนธรรมองค์กร โดย อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา 

ประโยชน์ของวัฒนธรรมองค์กร โดย อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา 

การกำหนดค่านิยมหลักและสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของรูปแบบหรือพิธีการ (form) เท่านั้น แต่เป็นกลยุทธ์พื้นฐานที่จะช่วยสร้างความสำเร็จที่ยั่งยืนให้กับองค์กรและพนักงาน

งานวิจัยจากหลายสำนัก ชี้ให้เห็นว่าบริษัทที่มีค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กรที่ชัดเจนมักประสบความสำเร็จสูงกว่าบริษัทที่ไม่มี 

วันนี้ขอยกตัวอย่างประโยชน์สำคัญที่องค์กรและพนักงานจะได้รับเมื่อสามารถสร้างค่านิยมหลักและวัฒนธรรมองค์กรให้เกิดขึ้นได้

ประโยชน์สำหรับองค์กร

 1. เพิ่มความผูกพันของพนักงาน

การกำหนดค่านิยมหลักที่ชัดเจนช่วยจะให้พนักงานเข้าใจความสอดคล้องระหว่างบทบาทที่ตนเองทำกับพันธกิจหรือเป้าหมายขององค์กรได้อย่างชัดเจน งานวิจัยของ Gallup พบว่า ทีมงานที่มีความผูกพันสูงช่วยเพิ่มผลกำไรให้องค์กรได้ถึง 21% ตัวอย่างเช่น Patagonia บริษัทผลิตเสื้อผ้ากลางแจ้งที่ยึดมั่นในค่านิยมด้านความยั่งยืนและการดูแลสิ่งแวดล้อม สามารถช่วยให้องค์กรดึงดูดพนักงานที่มีความมุ่งมั่นมาร่วมกันสร้างความเติบโตให้กับธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี

2. สร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์และความภักดีของลูกค้า

ค่านิยมหลักช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ชัดเจนและสร้างความสม่ำเสมอของแบรนด์ที่เชื่อมโยงกับลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง เช่น Apple ที่มีค่านิยมด้านนวัตกรรมและความเรียบง่าย ทำให้ลูกค้ายึดมั่นในแบรนด์และนำองค์กรไปสู่ความเป็นผู้นำในตลาดได้อย่างรวดเร็ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

พนักงานที่องค์กรไม่อาจขาดได้ โดย อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา

ทำงานยุค AI แล้วทำไมต้องฝึก “คิด” ? โดย อนิรุทธ์ ตุลสุข

3. ช่วยตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ค่านิยมหลักเปรียบเสมือนเข็มทิศที่ช่วยผู้นำตัดสินใจในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ตัวอย่างเช่น Starbucks ที่ให้ความสำคัญกับการสร้าง “วัฒนธรรมแห่งความอบอุ่นและการยอมรับ” ช่วยให้องค์กรสามารถตัดสินใจที่ยึดมั่นในเรื่องของการดูแลและพัฒนาชุมชนพร้อมๆ ไปกับการรักษาความเชื่อมั่นของลูกค้า

 4. ดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพ

วัฒนธรรมองค์กรที่ชัดเจนกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดบุคลากรที่มีเป้าหมายสอดคล้องกับองค์กร งานวิจัยโดย Deloitte ระบุว่า 94% ของผู้บริหารและ 88% ของพนักงานเชื่อว่าวัฒนธรรมองค์กรที่ชัดเจนเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จทางธุรกิจ เช่น Google ที่เป็นที่รู้จักในด้านวัฒนธรรมการทำงานที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ช่วยให้องค์กรกลายเป็นสถานที่ที่พนักงานต้องการร่วมงานด้วยมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

 5. เพิ่มความว่องไวในการปรับตัวขององค์กร

องค์กรที่มีวัฒนธรรมที่แข็งแกร่งสามารถปรับตัวได้ดีขึ้นในช่วงเวลาที่ตลาดมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากพนักงานเข้าใจค่านิยมร่วมที่เป็นแก่นขององค์กร ตัวอย่างเช่น Zappos ที่ยึดค่านิยม “การส่งมอบความสุข” ซึ่งช่วยให้องค์กรปรับปรุงกระบวนการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ได้โดยไม่สูญเสียจุดยืนด้านการให้บริการ ในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจหลายครั้งที่ผ่านๆ มา

ประโยชน์สำหรับพนักงาน

1. มีความชัดเจนและมีเป้าหมายในการทำงาน

พนักงานจะมีแรงจูงใจและความพึงพอใจมากขึ้นเมื่อเข้าใจว่างานของตนมีส่วนช่วยเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ขององค์กรได้อย่างไร งานวิจัยใน Journal of Organizational Behavior พบว่าพนักงานที่มีความเชื่อและเป้าหมายส่วนตัวสอดคล้องกับค่านิยมขององค์กร จะมีความมุ่งมั่นต่อบทบาทของตนเพิ่มขึ้นถึง 32%

 2. สร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร

วัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ทุกคนรู้สึกมีคุณค่าและได้รับการยอมรับ ตัวอย่างเช่น Coca-Cola ที่ให้ความสำคัญกับความหลากหลายและการยอมรับในความแตกต่าง ซึ่งช่วยเสริมสร้างความร่วมมือในทีมและลดอัตราการลาออกของพนักงานเก่งๆ ได้อีกด้วย

 3. ส่งเสริมการพัฒนาตนเอง

องค์กรที่ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้และการพัฒนาด้วยการกำหนดให้เป็นหนึ่งในค่านิยมหรือวัฒนธรรมขององค์กร จะช่วยพนักงานให้พัฒนาทักษะของตนเองได้เป็นอย่างดี เช่น Microsoft ที่ส่งเสริมวัฒนธรรม “Growth Mindset” ภายใต้การนำของ Satya Nadella สามารถช่วยให้พนักงานได้เรียนรู้ พัฒนาและเเติบโตไปพร้อมๆ กับการสร้างนวัตกรรมขององค์กรได้เป็นอย่างดี 

 4. เพิ่มความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน

วัฒนธรรมที่ส่งเสริมสมดุลระหว่างชีวิตและงาน จะช่วยลดความเหนื่อยล้าและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับพนักงาน ตัวอย่างเช่น Salesforce ที่ยึดค่านิยมด้านความไว้วางใจและความเท่าเทียม โดยพัฒนาสวัสดิการและโปรแกรมการดูแลสุขภาพเพื่อสนับสนุนพนักงานในทุกระดับ

 5. การยอมรับและความภาคภูมิใจในผลงาน

พนักงานที่ดำเนินงานตามค่านิยมขององค์กร มักได้รับการยอมรับและให้รางวัล ซึ่งช่วยสร้างความภูมิใจในผลงานของตน ตัวอย่างเช่น Southwest Airlines ที่ให้ความสำคัญกับการยกย่องพนักงานที่ “ใส่ใจคนเป็นอันดับแรก” ทำให้พนักงานมีขวัญกำลังใจที่ดีและมีความผูกพันกับองค์กรมากยิ่งขึ้น  

ดังนั้น การสร้างค่านิยมหลักและวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง จะช่วยให้องค์กรและพนักงานเติบโตไปด้วยกัน ช่วยกำหนดเป้าหมายความสำเร็จร่วมกัน พนักงานมีส่วนในการคิดและตัดสินใจ วัฒนธรรมจึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ขับเคลื่อนความสำเร็จอย่างยั่งยืน 

 การเรียนรู้จากองค์กรต่างๆ ที่ประสบความสำเร็จ อย่างเช่น Patagonia, Google และ Microsoft เป็นต้น ช่วยแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการลงทุนในค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กร ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายที่สิ้นเปลืองหรือสูญเปล่า แต่จะสามารถช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ทั้งองค์กรและบุคลากรจะเจริญรุ่งเรืองไปพร้อมๆ กันได้ ดังที่ Peter Drucker เคยกล่าวไว้ว่า “Culture eats strategy for breakfast” ซึ่งมีความหมายว่า ไอเดียหรือกลยุทธ์ขององค์กรไม่ว่าจะยอดเยี่ยมเพียงใด แต่หากวัฒนธรรมองค์กรไม่ส่งเสริมหรือเอื้อต่อกลยุทธ์นั้น ไอเดียและแผนงานดีๆ เหล่านั้นก็จะถูกวัฒนธรรมกลืนกินเป็นอาหารไปในที่สุด

องค์กรที่เข้าใจความสำคัญของคำกล่าวนี้ ย่อมพร้อมสำหรับความสำเร็จในระยะยาว

แล้วองค์กรของคุณหละ พร้อมไหม ?