เทรนด์การทำงานที่องค์กรและพนักงานต้องเตรียมตัวให้พร้อมในปี 2024

เทรนด์การทำงานที่องค์กรและพนักงานต้องเตรียมตัวให้พร้อมในปี 2024

ปี 2024 เทรนด์การทำงานต่าง ๆ จะมีการพัฒนาในรูปแบบใหม่ จะเกิดการปรับเปลี่ยนแนวคิดมากมาย กระทบไปถึงการใช้ชีวิตและพฤติกรรมการทำงานของคนทั่วไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็เป็นผลมาจากการที่เทคโนโลยี AI เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นและจะทวีคูณไปอีกหลายเท่าตัวในอนาคต

KEY

POINTS

  • เทรนด์การทำงานที่องค์กรและพนักงานต้องเตรียมพร้อม อาทิ Generate AI Skill แนวคิดแบบDEI ทำงานอย่างยั่งยืน กระจายศูนย์ มีข้อมูลดิจิทัล และHybrid Work
  •  6 เทรนด์ธุรกิจที่น่าจับตามอง มีดังนี้ สินค้ารักษ์โลก,สินค้าเพื่อสุขภาพ,ธุรกิจสังคมสูงวัย,ธุรกิจลดช่องว่างระหว่างGen,ความปลอดภัยจากAI ,Pet Parents
  • สาขาอาชีพที่ต้องการกำลังคนมากที่สุด มี 5 สาขา ได้แก่  Bioenergy & Biochemica ,Digital,Food for the Future, Future Mobility และIntelligent Electronics

ปี 2024 เทรนด์การทำงานต่าง ๆ จะมีการพัฒนาในรูปแบบใหม่ จะเกิดการปรับเปลี่ยนแนวคิดมากมาย กระทบไปถึงการใช้ชีวิตและพฤติกรรมการทำงานของคนทั่วไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็เป็นผลมาจากการที่เทคโนโลยี AI เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นและจะทวีคูณไปอีกหลายเท่าตัวในอนาคต

ทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เทคโนโลยี และนวัตกรรมมีผลต่อการทำงานในปัจจุบันอย่างมากมาย เพราะเป็นส่วนช่วยเร่งให้การทำงานเกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดี ทำให้เกิดงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยลดแรง และระยะเวลาในการทำงาน

การมาของปัญญาประดิษฐ์ AI นี้เองไม่เพียงแต่กระทบวิถีการทำงาน แต่ยังทำให้เกิด Business Transformation ที่ส่งผลต่อธุรกิจทุกภาคส่วน ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจที่อยู่นอกอุตสาหกรรม High-tech ก็ต้องปรับตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ปี 2024 แนวโน้มจากการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ ยังคงส่งผลกระทบต่อการทำงานอย่างแน่นอน วันนี้ "กรุงเทพธุรกิจ" จะพาทุกคนไปดูเทรนด์การทำงานใหม่ ที่ควรเตรียมพร้อมก่อนใคร เพื่อปรับตัว และรับมือทุกการเปลี่ยนแปลงได้ดียิ่งขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

เทรนด์ใหม่ทั่วโลก!!ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ ข้อดี-ข้อจำกัดที่องค์กรต้องรู้

“ผ้าบ้านชะอาน” แบรนด์ไทย ซอฟต์พาวเวอร์ จ.เพชรบุรี

เทรนด์อนาคตการทำงาน 2024

โดยล่าสุด Forbes Contributor ได้กล่าวถึงเทรนด์อนาคตการทำงานปี 2024 

1. การใช้ “Generative AI”

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า Generative AI หรือ AI ที่มีความสามารถในการสร้างสรรค์ อาทิ รูปภาพ วีดิโอ เพลง ฯลฯ และกลายเป็นเทรนด์หลักของเทคโนโลยีในยุคนี้ จนหลายคนก็หวั่นว่างานของตัวเองมีความมั่นคงพอหรือเปล่าในอนาคต ทว่ามีมุมมองที่น่าสนใจ คือ “AI จะไม่ได้แย่งงาน แต่คนที่สามารถใช้ AI เป็นจะแทนที่คนที่ใช้ไม่เป็น” เครื่องมือ Generative AI กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว สิ่งสำคัญที่เราทำได้ตั้งแต่วันนี้ คือการศึกษา ลองใช้งาน ทำความเข้าใจข้อจำกัดของมัน

สำหรับ Generate AI Skill คือ การทำงานร่วมกับเครื่องมือ AI ซึ่งอย่างที่เราได้เห็นกันในปี 2023 ว่า มี AI หรือปัญญาประดิษฐ์ใหม่ ๆ ได้ถือกำเนิดขึ้นมาอย่างมากมาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเข้ามามีส่วนช่วยในการทำงานของมนุษย์ได้มากยิ่งขึ้น เช่น ChatGPT, Vscode และ Typora ไม่เพียงเท่านั้นยังมีอีกหลายโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ และกราฟิกต่าง ๆ ที่ AI เข้ามาช่วยได้มากขึ้น

เทรนด์การทำงานที่องค์กรและพนักงานต้องเตรียมตัวให้พร้อมในปี 2024

แม้จะไม่สามารถนำเอาภาพที่ AI ออกแบบ มาใช้งานได้ 100% จากข้อกังวลด้านลิขสิทธิ์ของภาพ แต่เราสามารถนำมาเป็นไอเดียต่อยอดได้ เรียกได้ว่า AI เข้ามามีบทบาทมากขึ้นจริง ๆ แม้ว่า AI จะไม่ได้เข้ามาทำงานแทนคน แต่คนที่ไม่เรียนรู้เกี่ยวกับ AI ต่างหากที่จะถูกแทนที่ 

รู้จักการทำงานแนวคิดแบบ DEI

2. การทำงานภายใต้แนวคิด DEI

แนวคิดแบบ DEI (Diversity, Equity and Inclusion) คือ แนวคิดเกี่ยวกับความหลากหลายในการทำงาน รวมไปถึงความเสมอภาค และความเท่าเทียม ไม่ว่าเราจะอายุเท่าไหร่ ตำแหน่งงานแบบไหน ก็มีสิทธิที่จะถูกยอมรับ การเห็นใจ และการชื่นชมในการทำงานได้อย่างภูมิใจเช่นเดียวกัน

แนวคิดการทำงานแบบ DEI นับเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้พนักงานในองค์กร เกิดความผูกพันต่องาน และสังคมในองค์กร รวมถึงช่วยเสริมศักยภาพการทำงานอย่างเห็นได้ชัด และนำไปสู่ความสำเร็จในที่สุด

โดยแนวคิดการทำงานแบบ DEI จะมีด้วยกัน 3 เรื่องดังนี้

  • Diversity

คือ ความหลากหลายของผู้คนในสังคมการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเพศ เชื้อชาติ ความสนใจ ที่มีความแตกต่าง และหลากหลาย ก็สามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดีของคนในองค์กร

  • Equity

คือ ความเท่าเทียม และความเสมอภาค ที่คนในองค์กรนั้นมีสิทธิที่จะออกเสียงแสดงความคิดเห็นในสิ่งที่เห็นสมควรได้อย่างแท้จริง

  • Inclusion

คือ การไม่แบ่งแยก รวมไปถึงการยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในการทำงาน เช่น การเปิดโอกาสให้ผู้หญิงได้มีสิทธิในการเป็นผู้นำในการทำงาน ซึ่งมาจากความสามารถโดยไม่แบ่งเพศแต่อย่างใด มีความเท่าเทียมกัน

3. ทบทวนวิธี “การทำงานอย่างยั่งยืน”

คนทำงานต้องทำความเข้าใจผลกระทบ​ที่ธุรกิจและงานของตนเองสร้างขึ้นต่อโลกของเรา เพื่อนำไปสู่การหาแนวทางลดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม เราทุกคนจำเป็นต้องหันกลับมา “ทบทวน” ในหลายแง่มุมของกระบวกการทำงาน ตั้งแต่สถานที่ทำงาน ไปจนถึงว่าทำอย่างไรเราจึงสามารถสร้างกระบวนการทำงานแบบวงจรหมุนเวียน (Circular) เพื่อลดการศูนย์เสียของทรัพยากรลง

เทรนด์การทำงานที่องค์กรและพนักงานต้องเตรียมตัวให้พร้อมในปี 2024

4. เตรียม “ทักษะแห่งอนาคต” ให้พร้อม

คนทำงานทุกคนจะต้องเรียนรู้ และปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีและแนวคิดใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นให้ได้เร็วที่สุด เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ การตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลเป็นหลัก (Data-driven decision-making) , การตระหนักถึงภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Cybersecurity awareness), พัฒนาสติปัญญาทางอารมณ์และความเห็นอกเห็นใจ (Emotional intelligence and empathy) รวมถึงปรับเปลี่ยนวิธีคิดเพื่อทำงานแบบ Remote work ให้มีประสิทธิภาพ

5. ให้ความสำคัญกับ “ประสบการณ์ของพนักงาน”

ปัจจุบัน “ประสบการณ์ของลูกค้า” เป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า เช่นเดียวกันในงานทรัพยากรมนุษย์ ธุรกิจควรเข้าใจถึงความสำคัญของการสร้างความพึงพอใจในทุก ๆ ด้าน ให้แก่พนักงาน ไม่ใช่เพียงแค่ค่าตอบแทนที่เพียงพอเท่านั้น แต่รวมถึงความสมดุลระหว่างงานกับชีวิต สุขภาพ งานที่ท้าทายความสามารถ การเติบโตและการพัฒนาทักษะส่วนบุคคล ในปี 2024 นี้ หากบริษัทใดไม่สามารถให้เหล่านี้ได้ คนเก่ง ๆ ที่มีความสามารถก็อาจจะมองหาโอกาสใหม่ที่ดีกว่า

กระจายศูนย์  ทำงานฉบับ Hybrid Work

6. เกิด “ความเปลี่ยนแปลงเชิงประชากรศาสตร์”

หลายประเทศเผชิญกับสภาวะสังคมสูงอายุ คนทำงานก็มีแนวโน้มจะอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ มีย้ายถิ่นฐานระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น การพัฒนาทักษะของแรงงานให้เป็นทักษะขั้นสูงขึ้น นอกจากนี้องค์กรต่าง ๆ ก็หันมาตระหนักถึงคุณค่าที่ความหลากหลาย (diversity) และการนับรวม (Inclusive) ไม่ทอดทิ้งคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งในที่ทำงานมากขึ้น

การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ ทำให้การทำงานแบบดั้งเดิมกำลังสั่นคลอน การแบ่งแยกเพศ อายุ เชื้อชาติในการทำงานจะไม่เป็นที่ยอมรับอีกต่อไป หรือแม้กระทั่งการศึกษาแบบดั้งเดิม หรือใบปริญญาจะไม่เป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าอีกต่อไป คนที่ยืดหยุ่นได้ และพร้อมปรับตัว พัฒนาทักษะอยู่เสมอจะไม่ขาดแคลนโอกาส

7. การทำงานให้เป็น “ดิจิทัล และข้อมูลดิจิทัล”

 “ข้อมูล” ส่งผลกระทบต่อทุกแง่มุมของชีวิตการทำงานของเรา ตั้งแต่ตัวชี้วัดที่ใช้เพื่อประเมินผลการผลิต ไปจนถึงข้อมูลที่เรานำมาใช้เพื่อตัดสินใจที่ดีกว่า ความสามารถพื้นฐานอย่างการทำงานในสเปรดชีต Excel ทั่วไป จะไม่ใช่ความสามารถพิเศษอีกต่อไป แต่การเข้าใจวิธีใช้ข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล และการนำเสนอข้อมูล ต่างหากที่จะทำให้เป็นคนทำงานที่โดดเด่น รวมถึงการเรียนรู้เครื่องมือและแพลตฟอร์มที่เกิดใหม่ และหาโอกาสในการใช้

8. การเรียนรู้ตลอดชีวิต

การเรียนรู้แบบไม่มีที่สิ้นสุด (Lifelong Learning) ธุรกิจจะต้องให้แรงงานเข้าร่วมการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องเพื่ออัปเดตทักษะให้ทันสมัย เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง Data และ AI คนที่พร้อมสำหรับการเรียนรู้ และลงมือเรียนอย่างจริงจังจะคว้าโอกาสดีๆ ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ในปัจจุบันเราสามารถเรียนรู้ได้หลากหลายรูปแบบ เช่น การเรียนแบบออนไลน์ ที่เข้าถึงความรู้ได้ง่ายกว่าคนในยุคก่อน

เทรนด์การทำงานที่องค์กรและพนักงานต้องเตรียมตัวให้พร้อมในปี 2024

9. การทำงานแบบ “กระจายศูนย์”

การทำงานระยะไกลกลายเป็นเรื่องจำเป็นในช่วง Covid-19 ทว่าในวันนี้หลายบริษัทก็ยังคงปรับตัวเอาแนวคิดการทำงานแบบระยะไกลมาใช้ร่วมกับการทำงานแบบเข้าออฟฟิศ “การทำงานแบบไฮบริด” นี้ หากเราหาจุดสมดุลที่ดีได้จะนำมาสู่การสร้างความสมดุลระหว่างงานกับชีวิตให้พนักงาน งานประสิทธิภาพมากขึ้นโดยไม่เสียเวลา และเงินในการเดินทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองที่มีปัญหารถติด

10. การทำงานแบบ Hybrid Work

ในปัจจุบันมีการรณรงค์ให้มีการทำงานแบบHybrid Work  มากยิ่งขึ้น โดยการทำงานแบบ Hybrid Work คือ การทำงานที่บ้านสลับกับการเข้าออฟฟิศ เช่น การทำงานที่บ้าน 2 วัน เข้าออฟฟิศ 3 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งการทำงานเช่นนี้จะแตกต่างจากการทำงานภายในออฟฟิศเพียงอย่างเดียว และยังช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับความตึงเครียดในการทำงานของพนักงานได้มากกว่า

อีกทั้งยังเป็นการสร้างอิสระในการทำงานแก่พนักงานเพื่อเปิดโอกาสในการหาแนวคิดใหม่ ๆ ในการทำงานเข้ามาเสริมได้อีกด้วย 

11. การมี Side Hustle ที่นอกเหนืองานประจำ

Side Hustle คือ การสร้างรายได้เสริมระหว่างการทำงาน ซึ่งจะเห็นได้ว้าในปัจจุบันที่เศรษฐกิจในประเทศไทย และโลกนั้นมีการผันผวนอยู่มาก จึงทำให้การทำงานในสายเดียว หรือทางเดียวไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน โดยการสร้างรายได้เสริมนี้ก็สามารถที่จะนำเอาความสามารถที่ตนเองมีอยู่มาทำการต่อยอด และสร้างเสริมเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สร้างรายได้อีกเช่นเดียวกัน

ตัวอย่างเช่น เรามีสกิลในสายงานการออกแบบ หรือการเป็น Graphic Designer อยู่แล้ว ก็สามารถหารายได้เสริมผ่านช่องทางออนไลน์เป็นงานฟรีแลนซ์ ซึ่งก็จะมีกลุ่มต่าง ๆ หรือเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เปิดโอกาสให้ได้รับงานเสริม และที่สำคัญรายได้จากช่องทางนี้ก็ยังเป็นรายได้ที่ดี และยังมีมาเรื่อย ๆ ไม่กระทบกับงานประจำอีกด้วย 

เทรนด์การทำงานที่องค์กรและพนักงานต้องเตรียมตัวให้พร้อมในปี 2024

เทรนด์ธุรกิจที่น่าจับตามองในอนาคตปี 2024 

ในยุคที่ถนนทุกสายมุ่งสู่ดิจิทัล เทรนด์ความนิยมในอาชีพต่างๆ ก็แตกต่างออกไปจากในยุคก่อน สำหรับธุรกิจที่น่าจับตามองมีดังนี้ 

1. ธุรกิจสินค้ารักษ์โลก

เป็นเทรนด์ธุรกิจที่ถูกประเมินไว้ในปี 2024 นี้ นอกจากสินค้าและบริการที่ธุรกิจมอบให้กับผู้บริโภคแล้ว ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญกับโลกและสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นการลดปริมาณขยะ การสนับสนุนบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้ รวมถึงการใช้พลังงานหมุนเวียนด้วยเช่นกัน

2. สินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม

ผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอผ่านเรื่องราวที่ตอบโจทย์ให้กับผู้บริโภคที่รักสุขภาพนั้น ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความต้องการมาก และมากยิ่งขึ้นอีกในปี 2024 นี้ เช่น บรรจุภัณฑ์ที่ลดการสัมผัส กรรมวิธีที่ลดการปนเปื้อน ทั้งในรูปแบบของอาหารเสริม บริการด้านสุขภาพ หรือธุรกิจที่กระตุ้นให้ผู้คนใส่ใจในด้านสุขภาพ

3. ธุรกิจที่ตอบรับกับสังคมผู้สูงอายุ

จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติบอกว่า อายุเฉลี่ยของคนไทยเริ่มมีแนวโน้มที่สูงมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันกลุ่มคนเหล่านั้นไม่ได้มีไลฟ์สไตล์ที่เหมือนในยุคก่อนๆ และมีศักยภาพในการทำสิ่งต่างๆ มากขึ้นด้วย รวมถึงการดูแลสุขภาพตัวเองเป็นอย่างดีด้วย ดังนั้นธุรกิจจึงควรให้ความสนใจในสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของคนสูงวัย ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในไลฟ์สไตล์ หรือผลิตภัณฑ์และบริการในรูปแบบอื่นๆ

เทรนด์การทำงานที่องค์กรและพนักงานต้องเตรียมตัวให้พร้อมในปี 2024

4. เทรนด์ธุรกิจที่ลดช่องว่างระหว่าง Gen ให้น้อยลง

เทรนด์ธุรกิจที่มีลักษณะเฉพาะ จะยิ่งช่วยให้ตอบสนองต่อกลุ่มผู้บริโภคในทุกๆ Gen มากยิ่งขึ้น เพราะความแตกต่างของผู้บริโภคในแต่ละ Gen ที่ตอบสนองต่อสินค้าหรือบริการกำลังลดลงเรื่อยๆ หรือพูดง่ายๆ ว่า ไม่ว่าวัยไหนๆ ก็มีความกล้าเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น และเป็นตัวของตัวเองมากกว่าที่จะตามกระแสสังคมเหมือนสมัยก่อนๆ ดังนั้นธุรกิจที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง จะดึงดูดและตอบโจทย์ให้กับผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น

5. เทรนด์ความปลอดภัยจากการใช้ Ai

ธุรกิจที่สามารถจับเทรนด์อย่างการนำเทคโนโลยี Ai เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาสินค้าหรือบริการ การพัฒนาศักยภาพ หรือการบริหารคน ในองค์กร อาทิเช่น การนำมาใช้งานร่วมกับระบบบริหารจัดการภายในธุรกิจ การวิเคราะห์ความต้องการของกลุ่มลูกค้า การจัดเก็บข้อมูลที่เป็นความลับได้อย่างเป็นระเบียบและปลอดภัย และการนำ Ai เข้ามาใช้โดยไม่ทำให้เกิดการเลิกจ้างหรือละเมิดสิทธิบางอย่างของมนุษย์

รวมถึงผลกระทบต่างๆ ของเทคโนโลยีที่มีต่อธุรกิจก็ตาม จะยิ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในยุคนี้ได้ง่ายขึ้นและได้เปรียบทางการตลาดมากขึ้น เพราะเทรนด์ธุรกิจด้าน Ai กำลังได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องและมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นด้วยเช่นกัน

6. Pet Parents เทรนด์ธุรกิจสำหรับคนรักสัตว์

สิ่งที่ผู้ประกอบธุรกิจควรให้ความสนใจมากขึ้นอีก คือ รูปแบบการบริการต่างๆ ที่สามารถรองรับกลุ่มคนที่มีสัตว์เลี้ยง และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ตอบโจทย์กับคนรักสัตว์เลี้ยง อาทิเช่น ธุรกิจร้านอาหารก็ควรจะต้องมีการอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาด้วยพร้อมกับมาตรการป้องกันที่ไม่รบกวนกลุ่มลูกค้าที่ไม่มีสัตว์เลี้ยงด้วย

เพราะเทรนด์ของผู้บริโภคที่เป็นคนรักสัตว์เลี้ยงกำลังเพิ่มมากขึ้น และนอกจากสัตว์เลี้ยงธรรมดาอย่างสุนัขหรือแมวแล้วที่เป็นที่นิยมแล้ว ก็ยังมีสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นตามมา เช่น งู แฮมสเตอร์ กระต่าย ชินชิล่า ชูการ์ไกลเดอร์ เต่า กบ นกยูง เป็นต้น

เทรนด์การทำงานที่องค์กรและพนักงานต้องเตรียมตัวให้พร้อมในปี 2024

10 เทรนด์อาชีพที่น่าสนใจในปี 2024

เทรนด์ธุรกิจที่น่าสนใจปี 2024 ที่ได้กล่าวมานั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่จะเกิดขึ้นเท่านั้น และอาจจะมีเทรนด์ธุรกิจใหม่ๆ เกิดขึ้นตามสถานการณ์หรือปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ อีกมากมาย

หากว่าผู้ประกอบการที่คิดจะลงทุนหรือวางแผนให้กับธุรกิจ ควรพิจารณาถึงแนวโน้มและเทรนด์ในด้านอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น HR Trend 2024  รวมถึงความพร้อมที่จะต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับเทรนด์ที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน

ภาณิศา หาญพัฒนนันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมอุดมศึกษาและการพัฒนาทักษะแห่งอนาคต สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ได้เปิดเผยข้อมูลรายงาน "การศึกษาสมรรถนะบุคลากรในอนาคตสำหรับ 12 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย" ถึง 10 เทรนด์อาชีพปี 2024 ที่ตลาดแรงงานและภาคอุตสาหกรรมต้องการตัวสูงมาก เพื่อเป็นแนวทางให้คนรุ่นใหม่ได้วางแผนการศึกษาและเส้นทางชีวิตที่สอดคล้องกับเทรนด์โลกได้

อันดับที่ 1 อุตสาหกรรมดิจิทัล นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล Full Stack Developer (นักพัฒนาเว็บไซต์) Software developer ,data engineer ,data science ทักษะเกี่ยวกับ data การป้องกันข้อมูล การป้องกันการปลอดภัย

อันดับที่ 2 อุตสาหกรรมโลจิสติกส์และการบิน ต้องการตำแหน่ง ผู้เชี่ยวชาญโลจิสติกส์ ผู้เชี่ยวชาญการประมวลผลด้านโลจิสติกส์ และ Ground Services เพราะประเทศไทยมีการขยายพื้นที่เศรษฐกิจ การคมนาคมก็เลยเป็นส่วนสำคัญและทำให้ ต้องการคนที่ทำ e-Logistics และการบริหาร จัดการแก้ไขปัญหา เกี่ยวกับอุบัติเหตุ อุบัติภัย

อันดับที่ 3 อุตสาหกรรมการแพทย์ สาธารณสุข ต้องการ Bio Process Engineering นักเคมี และนักชีววิทยา ที่มีทักษะ biology ชีวฟิสิกส์ และงานที่เกี่ยวข้องกับพันธุศาสตร์

อันดับที่ 4 อุตสาหกรรมการการท่องเที่ยว ซึ่งเทรนด์การท่องเที่ยวในไทยเป็น Wellness Tourism การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ เลยต้องการสายอาชีพ Digital platform developer และ Digital Marketing ที่มีทักษะ Design thinking และทำการตลาด Digital

เทรนด์การทำงานที่องค์กรและพนักงานต้องเตรียมตัวให้พร้อมในปี 2024

อันดับที่ 5 อุตสาหกรรมการการเกษตร และเทคโนโลยีชีวภาพ ปัจจุบันเริ่มใช้ดิจิทัลเข้ามาบริหารฟาร์ม ดูแลแปลงเกษตรมากขึ้น ทำให้ต้องการอาชีพ นักปรับปลุกพันธุ์พืช และนักออกแบบพันธุ์พืช ที่มีทักษะ Data science

อันดับที่ 6 อุตสาหกรรมอาหาร เทรนด์อาหารแห่งอาหารอนาคตมาแรงมาก ทำให้ตลาดต้องการตัว นักโภชนาการศาสตร์ ที่คอยออกแบบสารอาหารให้เหมาะกับแต่ละคน  และ Food Stylist ที่คอยออกแบบอาหารให้มีความเฉพาะเฉพาะ ซึ่งจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบในการออกแบบอาหารให้ผ่าน อย.

อันดับที่ 7 อุตสาหกรรมยานยนต์ ประเทศไทยกำลังผลักดันรถ EV เลยทำให้ตลาดต้องการตัว วิศวกรยานยนต์ และวิศวกรวัสดุ ที่ทักษะเกี่ยวกับ อิเล็กทรอนิกส์ และแบตเตอรี่ไฮบริด

อันดับที่ 8 อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ ต้องการ Robotics engineer  และSoftware Engineer ที่รู้จักเซนเซอร์เทคโนโลยี และทำโรบอทโปรแกรมมิ่งได้

อันดับที่ 9 อุตสาหกรรมปิโตรเคมี พลังงานชีวภาพ ต้องการ นักชีววิทยา ที่มีทักษะ Bioinformatics และ Bio-Processing

อันดับที่ 10 อุตสาหกรรมเกี่ยวกับ Smart Electronics  ตำแหน่งที่ต้องการตัวคือ Electronics engineer และ Programmer ที่มีความรู้เกี่ยวกับ AI และการใช้ซอฟต์แวร์

เทรนด์การทำงานที่องค์กรและพนักงานต้องเตรียมตัวให้พร้อมในปี 2024

5 สาขาอาชีพที่ต้องการกำลังคนมากที่สุด

สอวช. ยังได้เปิดเผยผลสำรวจล่าสุดเกี่ยวกับ เทรนด์อาชีพปี 2024 ที่ยืนยันถึงความต้องการบุคลากรสมรรถนะสูงหรือทักษะสูงใน อุตสาหกรรมดิจิทัล มากที่สุด โดยกลุ่มที่ต้องการแรงงานพรีเมียม มีทักษะสูง มีดังนี้

1. Bioenergy & Biochemical 9,836 คน วิศวกรรมเคมี ชีวเคมี ปิโตรเคมี วิทยาศาสตร์ชีวภาพ

2. Digital 30,742 คน วิศวกรรมซอฟแวร์ วิศวกรรมคอมพิวเตอร์

3. Food for the Future 12,458 คน วิศวกรรมเครื่องกล แมคคาทรอนิกส์ หุ่นยนต์ วิทยาศาสตร์อาหาร สัตวแพทย์

4. Future Mobility 12,231 คน วิศวกรรมยานยนต์ เครื่องกล ไฟฟ้า แมคคาทรอนิกส์

5. Intelligent Electronics 34 คน วิศวกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์

เทรนด์การทำงานที่องค์กรและพนักงานต้องเตรียมตัวให้พร้อมในปี 2024

อ้างอิง:Hrnote , Techsauce ,codeskworkplace ,สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.)