CIMw DPU เปิด 2 หลักสูตรใหม่ รองรับสุขภาพแนวAnti-Aging เทรนด์สุขภาพอนาคต

CIMw DPUเปิด 2 หลักสูตรใหม่ หลักสูตรโภชนาการบูรณาการในเชิงสมุทัยเวชศาสตร์ และ หลักสูตรบริหารจัดการธุรกิจสุขภาพและความงาม รองรับสุขภาพแนว Anti-Aging ธุรกิจสุขภาพและความงาม ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพแห่งอนาคต
เนื่องจากตลอดระยะเวลา 14 ปีที่ผ่านมา หลักสูตร Anti-Aging and Regenerative Medicineได้รับความนิยมและเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มแพทย์และบุคคลทั่วไปที่มุ่งเสริมสร้างความรู้ด้านสุขภาพและวิถีการชะลอวัย จากเดิมที่มีเพียงแพทย์จบใหม่เข้ามาศึกษา ปัจจุบันมีแพทย์เฉพาะทาง ผู้บริหาร เจ้าของธุรกิจ และบุคคลทั่วไป รวมไปถึงกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ที่สนใจเข้าร่วมมากขึ้น
ผศ.นพ.มาศ ไม้ประเสริฐ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แบบบูรณาการ (CIMw) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) กล่าวว่าในยุคที่โซเชียลมีเดียส่งเสริมกระแสเรื่องอาหารเสริมและสารเสริมอาหาร CIMw ได้เห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาหลักสูตรใหม่ที่เน้นด้านโภชนาการ เพื่อตอบสนองความต้องการของสังคมในยุคปัจจุบัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ประกาศผล 'ประกวดโมเดลธุรกิจและสร้างแบรนด์ธุรกิจฯ ครั้งที่ 1'
เน้นดูแลสุขภาพที่ต้นเหตุผ่านศาสตร์โภชนาการ
ผศ.นพ.มาศ โดยหลักสูตรที่กำลังพัฒนาคือ Integrative Nutrition in Functional Medicine ซึ่งเป็นการผสมผสานโภชนาการเข้ากับสมุทัยเวชศาสตร์ (Functional Medicine) โดยเน้นการแก้ปัญหาสุขภาพที่ต้นเหตุ มากกว่าการรักษาเมื่อเกิดโรค ซึ่งเป็นการตอบโจทย์ความต้องการในยุคที่ผู้คนให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืนและการป้องกันโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง มะเร็ง โรคกระดูก และภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับบทบาทของโภชนาการและสารอาหารที่ผ่านการวิจัยและพิสูจน์แล้วว่า สามารถช่วยชะลอความเสื่อมและเสริมสร้างสุขภาพในระยะยาวได้
“หลักสูตรนี้ถูกออกแบบสำหรับผู้ที่ต้องการต่อยอดความรู้ เช่น นักกำหนดอาหารที่ต้องการพัฒนาตัวเองในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก รวมถึงบุคคลทั่วไปในสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ เช่น แพทย์ เภสัชกร และทันตแพทย์ สำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ แต่สนใจเรียนรู้ ก็สามารถเข้าร่วมได้โดยมีการเตรียมความพร้อมเฉพาะทางให้ก่อนเริ่มเรียน ทั้งนี้มั่นใจว่าหลักสูตรใหม่นี้จะช่วยเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านโภชนาการแบบครบวงจร และตอบโจทย์ความต้องการของสังคมในปัจจุบันอย่างแท้จริง” คณบดี CIMw กล่าว
เสริมทักษะบริหารธุรกิจรับอุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม
ผศ.นพ.มาศ ไม้ประเสริฐ กล่าวต่อว่า สำหรับหลักสูตรบริหารจัดการธุรกิจสุขภาพและความงาม ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริหารและเจ้าของธุรกิจที่ต้องการทักษะการจัดการที่ทันสมัย โดยในยุคที่ดิจิทัลเทคโนโลยี 5G และ AI มีบทบาทสำคัญ หลักสูตรดังกล่าวจะเป็นการบูรณาการระหว่างศาสตร์ด้านการบริหารจัดการและแนวโน้มธุรกิจสุขภาพและความงาม มีเป้าหมายให้ผู้เรียนเข้าใจการบริหารที่สอดคล้องกับเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน
โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผู้ประกอบการและบุคลากรในธุรกิจสุขภาพให้มีความสามารถสูงสุด ทั้งในด้านการบริหารทรัพยากร การพัฒนาธุรกิจเพื่อรองรับเทรนด์ใหม่ๆ เช่น Anti-Aging, Wellness และ Aesthetics รวมถึงการตอบสนองความต้องการในระดับประเทศและนานาชาติ
“ธุรกิจสุขภาพและความงามถือเป็นหนึ่งในสามธุรกิจหลักของโลก และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล สนับสนุนเศรษฐกิจสุขภาพในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพของภูมิภาค หลักสูตรใหม่นี้จึงถูกออกแบบให้เหมาะกับนักธุรกิจ นักวิทยาศาสตร์สุขภาพ และบุคคลทั่วไปที่ต้องการเพิ่มพูนความรู้และความสามารถในการบริหารธุรกิจที่ตอบรับกับเทรนด์โลกอนาคต รวมถึงนักศึกษาที่จบปริญญาโทในสายวิทยาศาสตร์สุขภาพที่มองหาโอกาสต่อยอดในระดับปริญญาเอกด้านการบริหาร จะช่วยผลักดันศักยภาพของผู้เรียนและตอบสนองความต้องการของตลาดในระยะยาว” คณบดี CIMw ระบุ
สร้างบุคลากร ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพยุคใหม่
ผศ.นพ.มาศ ไม้ประเสริฐ เพิ่มเติมต่อว่า นอกจาก 2 หลักสูตรที่เปิดใหม่ในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกแล้ว CIMw ยังได้พัฒนาหลักสูตรด้านเวชศาสตร์ความงามและการชะลอวัย (Anti-Aging and Aesthetic Medicine) โดยได้เพิ่มหลักสูตรปริญญาเอกในสาขา Aesthetic Medicine ซึ่งต่อยอดจากความสำเร็จของหลักสูตร Anti-Aging ระดับปริญญาโท ที่เปิดสอนมาแล้ว 13 รุ่น และหลักสูตร Aesthetic Medicine ระดับปริญญาโท 3 รุ่น เพื่อรองรับความต้องการของผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น
มุ่งเน้นการสร้างองค์ความรู้ด้านเวชศาสตร์ความงามอย่างครบวงจร ตั้งแต่การดูแลผิวพรรณ การพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีความงาม เช่น การฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ การใช้เลเซอร์ และการปฏิบัติทางคลินิกที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย นักศึกษาในหลักสูตรนี้ยังได้รับความรู้ด้านตจวิทยาทางผิวหนัง เพื่อจัดการปัญหาที่ซับซ้อนในผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“จุดเด่นของหลักสูตรนี้คือ เป็นหลักสูตรแรกในประเทศไทยที่มุ่งเน้นเวชศาสตร์ความงามในเชิงวิทยาศาสตร์และปฏิบัติแบบครบวงจร ซึ่งเดิมทีแพทย์ที่สนใจด้านนี้ต้องพึ่งพาการเรียนการสอนในรูปแบบช็อตคอร์สหรือเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ แต่ DPU ได้ตอบโจทย์ด้วยการสร้างโปรแกรมการเรียนการสอนที่เน้นทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสาขาอื่นๆ เช่น วิทยาศาสตร์ความงาม สามารถต่อยอดในระดับปริญญาเอกได้ง่ายขึ้นเพื่อพัฒนาผู้เชี่ยวชาญให้สามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของตลาดความงามในยุคปัจจุบัน” คณบดี CIMw กล่าวเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม CIMw ยังคงพัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้ที่หลากหลาย ทั้งในรูปแบบปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก ตลอดจนหลักสูตรระยะสั้นสำหรับการรับรอง (Certification) ที่เหมาะสมกับผู้เรียนยุคใหม่ ซึ่งเน้นการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะเฉพาะด้านมากกว่าการศึกษาระยะยาวในการสร้างบุคลากรที่สามารถสนับสนุนอุตสาหกรรมด้านความงาม เช่น ผู้ช่วยเภสัชกร ผู้ช่วยทันตแพทย์ เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของ DPU ที่มุ่งเน้นการสร้างบุคลากร เพื่อรองรับตลาดสุขภาพและความงามที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมสู่อนาคตด้วยความรู้และทักษะที่รอบด้าน