สงกรานต์โควิดปีที่ 3 นิวนอร์มอลของทุกคน

สงกรานต์โควิดปีที่ 3 นิวนอร์มอลของทุกคน

เทศกาลสงกรานต์เวียนมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ที่ประชาชนต้องฉลองเทศกาลในรูปแบบนิวนอร์มอล ไม่มีการเล่นน้ำหรือจัดงานมหรสพเหมือนกับในอดีต

ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 ก.พ.2563 หลังจากนั้นการแพร่ระบาดในประเทศไทยขยายวงกว้างมากขึ้นจนนำมาสู่การล็อกดาวน์ครั้งใหญ่ในเดือน เม.ย.2563 รวมทั้งนำมาสู่การกู้งบครั้งใหญ่ของรัฐบาลเพื่อรับมือการแพร่ระบาด การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ การฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม วงเงิน 1 ล้านล้านบาท ถึงแม้ว่าจะเริ่มมีการคลายล็อกดาวน์ในช่วงกลางปี 2563 แต่ไม่สามารถควบคุมการระบาดคลัสเตอร์ใหม่ที่มีต้นกำเนิดจากการลักลอบนำเข้าแรงงานต่างด้าวและบ่อนการพนัน

การแพร่ระบาดระลอกที่ 2 และระลอกที่ 3 ในประเทศไทยส่งผลให้คนไทยไม่สามารถสนุกอย่างเต็มที่กับเทศกาลสงกรานต์ในปี 2564 ซึ่งเป็นสงกรานต์ปีที่ 2 ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ถึงแม้ว่ารัฐบาลอนุญาตให้มีการเดินทางได้ แต่ยังอยู่ในมาตรการควบคุมโรคระบาด และหลังเทศกาลสงกรานต์ได้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูงมาก พร้อมกับการเข้ามาของสายพันธุ์เดลตาที่มีความรุนแรง และนำมาสู่การออกกฎหมายเพื่อให้กระทรวงการคลังกู้เงินฉบับที่ 2 วงเงิน 500,000 ล้านบาท

สำหรับเทศกาลสงกรานต์ในปี 2565 เป็นเทศกาลสงกรานต์ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ปีที่ 3 โดยประชาชนสามารถเดินทางได้ตามปกติ แต่ได้มีมาตรการที่เป็นข้อปฏิบัติสำหรับประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขขอความร่วมมือกับประชาชนก่อนเดินทางให้ Self Clean Up ตัวเอง รวมทั้งงดกิจกรรมเสี่ยงอย่างน้อย 7 วัน ตรวจด้วย ATK และฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น

ข้อปฏิบัติช่วงเทศกาลสงกรานต์ยังกำหนดให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ร่วมกิจกรรม ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่างเมื่อไปจุดมีคนหนาแน่น รวมทั้งงดกิจกรรมสัมผัสใกล้ชิดหรือใช้ของร่วมกัน และเลี่ยงรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มร่วมกันเป็นเวลานาน ในขณะที่ผู้สูงอายุควรรับวัคซีนให้ครบก่อนร่วมกิจกรรม ส่วนหลังเทศกาลสงกรานต์ ควรสังเกตอาการตนเอง 7 วัน หากสงสัยติดเชื้อให้ตรวจ ATK พร้อมหลีกเลี่ยงพบปะผู้คนจำนวนมาก หากต้องพบผู้อื่นให้สวมหน้ากากอนามัยตลอด และจัดการ work from home ให้เป็นไปตามความเหมาะสม

การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งนี้ เป็นโรคระบาดครั้งใหญ่ของโลกในรอบ 100 ปี ซึ่งนำมาสู่การปรับตัวครั้งใหญ่ของมนุษยชาติทั้งภาคธุรกิจและประชาชน โดยได้เกิดภาวะปกติใหม่หรือ “นิวนอร์มอล” มีหลายธุรกิจขยายตัวมากขึ้นจากการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ เช่น การค้าออนไลน์ รวมถึงธุรกิจที่รองรับวิถีนิวนอร์มอล เช่น อุปกรณ์สำหรับป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งหวังว่าสงกรานต์ปี 2565 จะเป็นปีสุดท้ายที่ต้องอยู่ร่วมกับโรคโควิด-19