ดัชนี S&P 500 ปิดติดลบเป็นวันที่สามติดต่อกัน ขณะใกล้สิ้นปี

ซีเอ็นบีซี รายงาน ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลงเล็กน้อยในวันอังคาร (30 ธ.ค. 68) ทำให้ลดลงติดต่อกันเป็นวันที่สาม

ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.14% และปิดที่ 6,896.24 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพสิต Nasdaq Composite ลดลง 0.24% และปิดที่ 23,419.08 จุด ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average ลดลง 94.87 จุด หรือ 0.20% และปิดที่ 48,367.06 จุด

ดัชนีหลักทั้งสามปรับตัวลงในช่วงเริ่มต้นสัปดาห์ โดยได้รับผลกระทบจากการร่วงลงของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ (AI) Nvidia

ปิดตลาดลดลงติดต่อกันสองวัน เช่นเดียวกับ Palantir Technologies 

อย่างไรก็ตาม บริษัทเหล่านี้ และบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกัน เช่ Advanced Micro Devices ยังคงเป็นผู้ชนะรายใหญ่ในปีนี้ หุ้น Nvidia เพิ่มขึ้น 39% ในช่วงเวลาดังกล่าว ขณะที่ Palantir และ AMD พุ่งขึ้น 139% และ 78% ตามลำดับ

บิล นอร์ธีย์ จาก U.S. Bank Asset Management กล่าวว่า การเติบโตของ AI น่าจะยังคงดำเนินต่อไปในปีใหม่ โดยอ้างถึงปัจจัยพื้นฐานที่รองรับเทคโนโลยีและการสร้างศูนย์ข้อมูล

“ผู้ได้รับประโยชน์ชัดเจนในระยะแรกคือส่วนอุปกรณ์และโครงสร้างพื้นฐาน หรือที่เรามองไปที่เซมิคอนดักเตอร์และวัตถุดิบหลักสำหรับการขยายโครงสร้างอุตสาหกรรมนี้” เขากล่าว “เรามองว่าเมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2026 ผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์จริง ๆ อาจจะเริ่มเห็นกำไรด้านประสิทธิผลและการเร่งตัวของกำไรบริษัท”

“เราเชื่อว่าจะมีโอกาสให้ตลาดกระจายตัวกว้างขึ้นในปี 2026 หลังจากที่ตลอดปีนี้ ภาวะนำของตลาดค่อนข้างกระจุกตัวอยู่ในหุ้นกลุ่มแคบ ๆ” เขากล่าวเสริม

ในส่วนอื่น ๆ การเปิดเผยรายงานการประชุมเดือนธันวาคมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชี้ให้เห็นว่าผู้กำหนดนโยบายมีความเห็นแตกกันอย่างฉิวเฉียดเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ที่ตัดสินใจไปเมื่อต้นเดือนนี้ ยังมีการหารือกันด้วยว่าเฟดควรดำเนินนโยบายดอกเบี้ยเชิงรุกเพียงใดต่อจากนี้

“สำหรับขอบเขตและจังหวะเวลาในการปรับช่วงเป้าหมายของอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพิ่มเติม ผู้เข้าร่วมบางรายเสนอว่า ภายใต้กรอบคาดการณ์เศรษฐกิจของพวกเขา น่าจะเหมาะสมที่จะคงช่วงเป้าหมายดังกล่าวไว้ไม่เปลี่ยนแปลงไปอีกระยะหนึ่ง หลังจากมีการปรับลดช่วงเป้าหมายในที่ประชุมครั้งนี้” รายงานการประชุมระบุ