S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จีดีพีสหรัฐสูงกว่าคาด

ซีเอ็นบีซี รายงานหุ้นปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่สี่ในวันอังคาร (23 ธ.ค. 68)เนื่องจากหุ้นกลุ่มปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ (AI) ยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าหุ้นกลุ่มอื่น ๆ ในช่วงสัปดาห์ซื้อขายที่สั้นลงเนื่องจากวันหยุด

ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.46% ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6,909.79 จุด ดัชนีตลาดโดยรวมอยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดตลอดกาลระหว่างวันเล็กน้อยที่ 6,920.34 จุด

ดัชนีแนสแด็ก Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.57% ปิดที่ 23,561.84 จุด การเพิ่มขึ้นของหุ้นยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Nvidia และ Broadcom ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 3% และมากกว่า 2% ตามลำดับ ช่วยหนุนดัชนี

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average

เพิ่มขึ้น 79.73 จุด หรือ 0.16% และปิดที่ 48,442.41 จุด

นักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีหน้า แม้ว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจใหม่ที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้มากก็ตาม กระทรวงพาณิชย์รายงานว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวที่อัตรา 4.3% ในไตรมาสที่สาม ซึ่งดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทสื่อดาวโจนส์คาดการณ์ไว้ที่ 3.2% มาก

รายงานดังกล่าว ซึ่งเลื่อนออกไปจากกำหนดการเดิมในวันที่ 30 ตุลาคม เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐปิดทำการเป็นเวลานานเป็นประวัติการณ์ ทำให้นักลงทุนตกใจในช่วงแรกและเชื่อว่าการลดอัตราดอกเบี้ยจากเฟดในช่วงต้นปี 2026 นั้นมีความเป็นไปได้น้อยลง ราคาหุ้นเริ่มต้นการซื้อขายในวันนั้นลดลงเล็กน้อย แต่ก็ฟื้นตัวในภายหลัง

เครื่องมือติดตามเฟด CME FedWatch แสดงให้เห็นว่า นักลงทุนที่ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยเฟด ยังคงคาดการณ์ว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งภายในสิ้นปีหน้า

“เราอาจจะยังไม่เห็นตลาดถอยออกจากการคาดการณ์การลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งในตอนนี้” เอริค สเติร์นเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Apollon Wealth Management กล่าว “โอกาสที่จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นปีนั้นอาจจะน้อยลง แต่เราจะได้รู้กันในเร็วๆ นี้แล้วว่าใครจะเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อจากทรัมป์ให้เป็นประธานเฟดคนใหม่ และเกือบจะแน่นอนว่าจะเป็นคนที่มีท่าทีผ่อนคลาย (dovish) กว่าพาวเวลล์”

ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กจะปิดทำการเร็วกว่าปกติในวันพุธ เวลา 13.00 น. ตามเวลาภาคตะวันออก ในวันคริสต์มาสอีฟ และจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีเนื่องในวันคริสต์มาส