‘แนสแด็ก’ ขออนุมัติ ก.ล.ต.สหรัฐ ขยายเวลาเทรดหุ้นเป็น 23 ชั่วโมง/วัน

บลูมเบิร์กรายงานว่าบริษัทแนสแด็ก (Nasdaq Inc.) ตลาดหลักทรัพย์ใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐได้ยื่นเรื่องขออนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อขยายเวลาทำการซื้อขายหุ้นในตลาดเป็น 23 ชั่วโมง ในช่วงวันทำงาน เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนทั่วโลก

ตามเอกสารที่ยื่นต่อ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Nasdaq ได้ขออนุญาตเพิ่มรอบการซื้อขายอีกหนึ่งช่วง คือตั้งแต่ 21.00 น. ถึง 04.00 น. ตามเวลาสหรัฐ (ET) ซึ่งจะเป็นการเพิ่มจากรอบการซื้อขายก่อนเปิดตลาด รอบปกติ (9:30 น. - 16:00 น. ET) และหลังปิดตลาดที่มีอยู่แล้ว

ชัค แม็ค รองประธานอาวุโสฝ่ายตลาดอเมริกาเหนือของ Nasdaq เน้นย้ำว่า การขยายเวลาทำการของตลาดนั้น เป็นไปตามความต้องการที่แท้จริงของนักลงทุนทั่วโลกที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลและการซื้อขายได้ 'ตามเงื่อนไขของตนเองและในเขตเวลาของตนเอง' โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษา ความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ ของตลาดไว้แม้จะมีการขยายเวลาแล้วก็ตาม

Nasdaq คาดว่าจะพร้อมสำหรับการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นนี้ในช่วงต้น ไตรมาสที่ 3 ของปี 2569  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการอนุมัติจาก ก.ล.ต. และการปรับตัวของอุตสาหกรรมการเงินโดยรวม

นอกจาก Nasdaq แล้ว ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ก็กำลังตามมาติด ๆ โดยมีแผนขยายเวลาซื้อขายหุ้นสหรัฐฯ เป็น 22 ชั่วโมงต่อวัน ในวันธรรมดา ซึ่งข้อเสนอนี้ ได้รับไฟเขียวเบื้องต้นจาก ก.ล.ต. แล้ว นี่แสดงให้เห็นว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ กำลังให้ความสำคัญกับการซื้อขายนอกเวลาทำการปกติมากขึ้นเรื่อย ๆ

เพื่อให้แผนการซื้อขายตลอด 23 ชั่วโมงของตลาดหลักทรัพย์ต่าง ๆ เช่น Nasdaq เป็นจริงได้ ไม่ใช่แค่ตลาดเท่านั้นที่ต้องเปิด แต่หน่วยงานสำคัญเบื้องหลังอย่าง Depository Trust & Clearing Corp. (DTCC) ซึ่งดูแลเรื่องการชำระบัญชี ก็ต้องขยายเวลาด้วย

โดยล่าสุด DTCC ได้ยื่นแผนงานเพื่อจะเริ่มชำระบัญชีการซื้อขายหุ้นตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ โดยตั้งเป้าว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายใน ไตรมาสที่สองของปี 2569  ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้การซื้อขายแบบใหม่นี้เกิดขึ้นได้จริง

การขยายเวลาซื้อขายหุ้นสหรัฐ กำลังถูกพูดถึงอย่างมากในวอลล์สตรีท แม้ว่าแพลตฟอร์มอย่าง Robinhood และ Interactive Brokers จะเปิดให้เทรด 24 ชั่วโมง/5 วันทำการ นอกตลาดหลักไปแล้ว แต่ก็มีความเห็นที่แตกต่างกัน

ฝ่ายสนับสนุนบอกว่า นักลงทุนทั่วโลกต้องการเข้าถึงและตอบสนองต่อข่าวสารของหุ้นสหรัฐได้ทันทีแม้ตลาดปิด ส่วนฝ่ายคัดค้านเตือนว่า การซื้อขายในช่วงที่มีปริมาณน้อย อาจทำให้คุณภาพการซื้อขายและการกำหนดราคาไม่แม่นยำ

อ้างอิง Bloomberg