S&P 500 แนสแด็ก ปิดบวกเป็นวันที่สาม นักลงทุนรอเฟดหั่นดอกเบี้ยลง

ซีเอ็นบีซี รายงานดัชนี S&P 500 และ Nasdaq Composite ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี (4 ธ.ค. 68) ขณะที่นักลงทุนเตรียมพร้อมสำหรับการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า

โดยดัชนีตลาดรวมปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.11% ปิดที่ 6,857.12 ขณะที่ Nasdaq Composite ซื้อขายเพิ่มขึ้นเพียง 0.22% ปิดที่ 23,505.14 ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average ลดลงเพียง 31.96 จุด หรือ 0.07% มาอยู่ที่ 47,850.94

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่นักลงทุนกลับมาเทขายบิตคอยน์อีกครั้ง โดยลดลง 0.5% สกุลเงินดิจิทัลนี้ร่วงลงต่ำกว่า 85,000 ดอลลาร์สหรัฐในวันจันทร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม อย่างไรก็ตาม โทเคนดังกล่าวดีดตัวกลับในช่วงเช้าวันอังคาร และยังคงซื้อขายเหนือระดับ 90,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดทั้งสัปดาห์ ทำให้นักลงทุนมีความหวังขึ้นบ้างจากตลาดคริปโทที่กำลังเผชิญปัญหา

นักลงทุนให้ความสนใจกับรายงานจากบริษัทจัดหางาน Challenger, Gray & Christmas ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีการประกาศลดตำแหน่งงานในเดือนพฤศจิกายนจากนายจ้างในสหรัฐฯต่อเนื่อง จนยอดรวมสูงกว่า 1 ล้านตำแหน่งนับตั้งแต่ต้นปีนี้ เนื่องจากการปรับโครงสร้างองค์กร ปัญญาประดิษฐ์ และภาษีศุลกากรสร้างแรงกดดันต่อตลาดการจ้างงาน  ขณะที่เมื่อวันพุธ ตัวเลขจาก ADP เผยให้เห็นว่าการจ้างงานภาคเอกชนลดลงอย่างน่าประหลาดใจ

สัญญาณเหล่านี้บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานกำลังอ่อนตัวลง ทำให้วอลล์สตรีทเชื่อมั่นว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมวันที่ 10 ธันวาคม ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปี ตลาดคาดการณ์ว่ามีโอกาส 87% ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในวันพุธหน้า ซึ่งสูงกว่าเมื่อสองสามสัปดาห์ก่อนมาก ตามข้อมูลของเครื่องมือติดตามเฟด FedWatch ของ CME 

คาดตลาดค่อนข้างนิ่งจนถึงสิ้นปี

“ตลาดทำผลงานได้ดีนับตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะครึ่งหลังของเดือนพฤศจิกายน และผมคิดว่าคงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจหากจากนี้ไปตลาดจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ” ทิม ฮอลแลนด์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนแห่ง Orion กล่าว “ข่าวใหญ่คือการลดดอกเบี้ยลง 0.25% แต่เรื่องนี้ถูกส่งสัญญาณล่วงหน้าอย่างกว้างขวางแล้ว ผมคงจะแปลกใจมากหากเราไม่ได้เห็นการลดดอกเบี้ย ตลาดคาดไว้แล้ว ดังนั้น หลังจาก 11 เดือนที่ยอดเยี่ยมและความผันผวนเล็กน้อยเมื่อไม่นานมานี้ เราอาจจะแค่รอเวลาไปเรื่อย ๆ จนอาจยาวไปถึงสิ้นปี แล้วค่อยดูกันว่าในปี 2026 จะเปิดฉากอย่างไร”

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นักลงทุนส่วนใหญ่มองข้ามตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ล่าสุด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าจำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานรายใหม่อยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2565 จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 29 พฤศจิกายน อยู่ที่ 191,000 ราย ซึ่งปรับตามฤดูกาลแล้ว ลดลง 27,000 รายจากช่วงก่อนหน้า และต่ำกว่าที่บริษัทสื่อดาวโจนส์คาดการณ์ไว้ที่ 220,000 ราย

“จากที่ทุก ๆ ข้อมูลบอกเราว่าเศรษฐกิจยังไม่ได้ทรุดฮวบ ผมคิดว่าตลาดน่าจะโล่งอก แม้ว่าตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเบื้องต้นวันนี้จะผิดเพี้ยนไปบ้างเพราะช่วงวันหยุดขอบคุณพระเจ้า แต่ผมคิดว่าตลาดรับข้อมูลนี้ในแง่บวกมาก” ฮอลแลนด์กล่าวเสริม “ผมไม่คิดว่าจะมีข้อมูลใดระหว่างนี้ไปจนถึงสัปดาห์หน้าที่จะทำให้เฟดเปลี่ยนใจไม่ลดดอกเบี้ย”

ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญอื่นๆ ในสัปดาห์นี้จะเผยแพร่ในวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์จะเผยแพร่ข้อมูลการใช้จ่ายและรายได้ของผู้บริโภคที่ล่าช้าในเดือนกันยายน และดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อหลักของเฟด มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเผยแพร่ผลสำรวจผู้บริโภคประจำเดือนธันวาคมในวันศุกร์เช่นกัน

Salesforce เป็นหุ้นที่ปรับขึ้นมากที่สุดในช่วงการซื้อขายวันพฤหัสบดี โดยพุ่งขึ้นเกือบ 4% หลังจากที่บริษัทซอฟต์แวร์แห่งนี้รายงานการคาดการณ์รายได้ที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่วน Five Below

ก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 3% เช่นกัน หลังจากที่บริษัทค้าปลีกสินค้าลดราคารายนี้ทำกำไรได้สูงกว่าที่วอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้

ตลาดหุ้นมีผลประกอบการที่ดีในช่วงการซื้อขายก่อนหน้า แม้ว่าการซื้อขายหุ้นกลุ่มเอไอจะยังคงผันผวน กลุ่มเทคโนโลยีเป็นหุ้นที่ปรับตัวลดลงมากที่สุดในกลุ่มดัชนี S&P 500 โดยถูกฉุดลงจากการลดลงของหุ้น Microsoft, Nvidia และ Broadcom