หุ้นไทยเช้านี้บวก 6.59 จุด โบรกเผยรีบาวด์ตามตลาดโลก หนุนดัชนีขึ้นทดสอบ 1,270 จุด

ความเคลื่อนไหว "หุ้นไทย" ภาคเช้า ณ วันที่ 24 พ.ย.68 ปรับเพิ่มขึ้น 6.59 จุด หรือ 0.53% อยู่ที่ 1,260.99 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1,977.21 ล้านบาท

กรรณ์ หทัยศรัทธา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน และ นักเศรษฐศาสตร์ สายงานวิจัย บล. ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ตลาดหุ้นในเช้าวันนี้มีการปรับตัวขึ้น โดยเป็นไปตามทิศทางของตลาดโลก ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากการที่ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สปรับตัวขึ้นมามากกว่า 100 จุด นอกจากนี้ ราคา Bitcoin หุ้นสหรัฐฯ ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส และ S&P ฟิวเจอร์ส ก็เริ่มมีการปรับตัวเป็นบวกเช่นกัน

สำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทยซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1,254-1,255 จุด แนวรับทางจิตวิทยาอยู่ที่ 1,250 จุด ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการเด้งตัวขึ้นจากระดับดังกล่าว ดังนั้น กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีสำหรับวันนี้คาดไว้ที่ 1,250-1,270 จุด

โดยกลยุทธ์การลงทุนเน้นไปที่ DELTA ซึ่งจะเป็นตัวนำตลาดในวันนี้ แต่ทว่าแนะนำแค่ Trading ในหุ้น DELTA เนื่องจากมีความสัมพันธ์กับ Nvidia ที่มีการเปิดเผยผลการศึกษาทางสถิติที่น่าสนใจระหว่างราคาหุ้น Nvidia ของสหรัฐฯ และ DELTA ของประเทศไทย 

ซึ่งผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นทั้งสองมีความสัมพันธ์กันค่อนข้างมาก เช่น ถ้า Nvidia ขึ้น 1 หน่วย DELTA มักจะตามขึ้น 0.79 หน่วย และในทำนองเดียวกัน หาก Nvidia ลง 1 หน่วย DELTA ก็มักจะลง 0.79 หน่วย นอกจากนี้ ผู้ลงทุนยังทราบกันดีว่า การเคลื่อนไหว 1 บาทของ DELTA มีผลต่อดัชนีหุ้นไทย ถึง 1 จุด สำหรับการปรับพอร์ตของ MSCI จะเกิดขึ้นในปิดตลาดดังนั้น ดังนั้นอาจจะมีการขายออกมาในช่วงสิ้นวันได้

วิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นกลับมามีความหวังอีกครั้ง หลังจากถ้อยแถลงของนาย John Williams ประธานเฟดสาขานิวยอร์กที่ระบุว่า นโยบายการเงินยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างตึงตัว ดังนั้นจึงยังมีช่องว่างสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. 

ถ้อยแถลงดังกล่าวกระตุ้นตลาดปรับเพิ่มคาดการณ์การลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค.นี้ ขึ้นสู่ระดับ 63% จากวันก่อนหน้าที่เหลือเพียง 35% ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯกลับมาปิดบวก และดัชนี VIX Index ที่สะท้อนภาวะความกลัว ปรับลดลง -11% สู่ระดับ 23.44 จุด ส่วนด้านอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี ลดลง -2bps สู่ 4.06% คาดช่วยกระตุ้นแรงเก็งในตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้

ส่วนด้านปัจจัยในประเทศ แม้ระยะสั้นโมเมนตัมเป็นลบหลังจากวันศุกร์ SET ปิดหลุดระดับเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ที่ระดับ 1260 จุดลงมา ขณะที่วันนี้ลุ้นการฟื้นตัวโดย หากกลับมาปิดเหนือระดับ 1260 ได้ ก็จะเป็นโมเมนตัมดีขึ้น 

แต่อย่างไรก็ดีแนะระมัดระวังช่วงปิดตลาด ซึ่งจะมี MSCI Rebalancing โดยรอบนี้คาดตลาดหุ้นไทยจะกระแสเงินทุนไหลออกราว -2.5 พันล้านเหรียญจากการปรับพอร์ต MSCI ดังนั้นกลยุทธ์ในช่วงนี้ เพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น โดยเน้นย่อตั้งรับ หุ้นที่ยังคาดหวังกำไรเติบโตได้ดี มี Valuation ไม่แพง และมีปันผลสูง 

สำหรับ หุ้นแนะนำ SAWAD คาดกำไรหลักไตรมาสา 4/68 เติบโตทั้ง q-q และ y-y จากความต้องการสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น ผสานกับ NIM ที่เริ่มทรงตัว และการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ที่ดอกเบี้ยจ่ายลดลง นอกจากนี้การขาดทุนรถยืดลดลง รวมทั้งการตั้งสำรองผ่อนคลาย สะท้อนคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น ขณะที่ Valuation ปัจจุบันเทรดเพียงพีอี 8 เท่า อยู่ในระดับที่น่าสนใจ ราคาเป้าหมาย 31 บาท