S&P 500 ปิดบวก หลังทำเนียบขาวยืนยันทรัมป์จะพบสี ผลประกอบการหนุน

ซีเอ็นบีซี รายงานดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นในวันพฤหัสบดี (23 ต.ค.68) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังนักลงทุนเข้าซื้อจากผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ดัชนีตลาดกว้างนี้เพิ่มขึ้น 0.58% ปิดที่ 6,738.44 จุด

ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average เพิ่มขึ้น 144.20 จุด หรือ 0.31% ปิดที่ 46,734.61 จุด

ด้านแนสแด็ก คอมโพสิต Nasdaq Composite ทำผลงานได้ดีกว่า ปรับขึ้น 0.89% ปิดที่ 22,941.80 จุด โดยได้แรงหนุนจากหุ้นเทคโนโลยีอย่าง Nvidia, Broadcom และ Amazon หุ้น Oracle ซึ่งเป็นบริษัทด้าน ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก็พุ่งขึ้นเกือบ 3% ช่วยหนุนตลาดเช่นกัน

ดัชนีทั้งสาม แตะจุดสูงสุดของวันหลังจาก คาโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนในวันพฤหัสบดีหน้า ที่เกาหลีใต้ ข่าวนี้ช่วยคลายความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับความสัมพันธ์สหรัฐ-จีนที่กดดันตลาดเมื่อวันพุธ

การปรับขึ้นของ S&P 500 ครั้งนี้ถือเป็นการฟื้นตัวเต็มที่ และมากกว่าจากการร่วงแรงในวันก่อนหน้าที่ดัชนีลดลงประมาณ 0.5% ขณะที่ Dow ร่วงราว 334 จุด หรือ 0.7% และ Nasdaq ลดลง 0.9% เนื่องจากนักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง

หุ้นสหรัฐ ปิดลบเมื่อวันพุธ หลังรัฐมนตรีคลัง สก็อตต์ เบสเซนต์ ยืนยันว่าทำเนียบขาวกำลังพิจารณาจำกัดการส่งออกซอฟต์แวร์สหรัฐ ไปจีน ซึ่งจะต่อยอดจากคำแถลงของทรัมป์ เมื่อสองสัปดาห์ก่อนว่าจะใช้มาตรการนี้ภายใน 1 พ.ย.68

จูเซปเป เซตเต ผู้ร่วมก่อตั้ง Reflexivity กล่าวว่า “อย่าเพิ่งมองข้ามตลาดกระทิงเพียงเพราะความผันผวน หุ้นเทคโนโลยีไม่กี่ตัวนำตลาดขึ้น แต่ตอนนี้เราจะได้เห็นว่าบริษัททั่วโลกจะได้ประโยชน์จาก AI อย่างไร”

นักลงทุนยังคงจับตาผลประกอบการของบริษัทใหญ่ในสหรัฐ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าอาจเป็นตัวชี้ชะตาตลาดกระทิงรอบนี้ หุ้น Honeywell นำตลาดดาวโจนส์ปรับขึ้นเกือบ 7% หลังรายงานผลประกอบการดีกว่าคาด และปรับเพิ่มคาดการณ์ทั้งปี American Airlines เพิ่มขึ้น 6% หลังขาดทุนไตรมาส 3 น้อยกว่าคาด และให้แนวโน้มรายได้ในเชิงบวก

ตลาดยังสามารถรับมือกับปัจจัยลบระหว่างวันได้ เช่น หุ้น Tesla หนึ่งในกลุ่มหุ้นเจ็ดนางฟ้า “Magnificent Seven” ปรับขึ้น 2% หลังจากฟื้นตัวจากการร่วงช่วงแรก แม้รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 จะออกมาแบบผสมผสาน ขณะที่หุ้น IBM ก็ลดการขาดทุนหลังรายงานผลประกอบการดีกว่าคาด รายได้จากซอฟต์แวร์เป็นไปตามคาด 

ด้านราคาน้ำมันปรับขึ้นหลังรัฐบาลทรัมป์ คว่ำบาตรบริษัทน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซีย 2 แห่ง เนื่องจากรัสเซีย “ไม่จริงจังกับกระบวนการสันติภาพเพื่อยุติสงครามในยูเครน”

มากกว่า 80% ของบริษัทใน S&P 500 ที่รายงานผลประกอบการแล้ว ทำได้ดีกว่าที่คาดไว้ ตามข้อมูลจาก FactSet

เอมิลี บาวเวอร์ซ็อค ฮิลล์ซีอีโอ Bowersock Capital Partners กล่าวว่า “แม้หุ้นบางตัวจะถูกลงโทษหลังผลประกอบการไม่เข้าเป้า แต่โดยรวมเราคาดว่ากำไรจะยังแข็งแกร่งพอที่จะหนุนราคาหุ้นในระยะสั้น ฤดูกาลประกาศผลประกอบการรอบนี้ไม่น่าจะทำให้นักลงทุนผิดหวังจนตลาดปรับฐานแรง”

นอกจากผลประกอบการแล้ว ข้อมูลเงินเฟ้อที่จะประกาศวันศุกร์นี้ จะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ชี้ทิศทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะก่อนการประชุมเฟดปลายเดือนนี้ ซึ่งตลาดคาดว่าธนาคารกลางจะลดดอกเบี้ยอีก 0.25%

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์