หุ้น EGCO บวก 4.40% แรงหนุนบาทแข็ง-ปันผลสูง 6% ล่าสุดลงทุนเพิ่มโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ
หุ้น EGCO ปรับตัวขึ้น 4.40% หรือเพิ่มขึ้น 6.00 บาท มาอยู่ที่ระดับ 142.50 บาท โบรกเผยปัจจัยหนุนราคาหุ้นมาจากเงินปันผลสูงถึง 6% และการแข็งค่าของเงินบาทซึ่งส่งผลบวกต่อบริษัทเนื่องจากมีหนี้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ สูง ล่าสุดลงทุนเพิ่มเติมผ่านบริษัทย่อยในสหรัฐฯ เพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน Linden TopCo ซึ่งเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่นในรัฐนิวเจอร์ซีย์ จาก 28% เป็น 38%
KEY
POINTS
- หุ้น EGCO ปรับตัวขึ้น 4.40% หรือเพิ่มขึ้น 6.00 บาท มาอยู่ที่ระดับ 142.50 บาท ในการซื้อขายภาคเช้าวันที่ 14 ต.ค. 2568
- ปัจจัยหนุนราคาหุ้นมาจากการที่บริษัทมีอัตราเงินปันผลสูงถึง 6% และการแข็งค่าของเงินบาทซึ่งส่งผลบวกต่อบริษัทเนื่องจากมีหนี้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ สูง
- ล่าสุด EGCO ได้ลงทุนเพิ่มเติมผ่านบริษัทย่อยในสหรัฐฯ เพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน Linden TopCo ซึ่งเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่นในรัฐนิวเจอร์ซีย์ จาก 28% เป็น 38%
ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยภาคเช้า ณ วันที่ 14 ต.ค.2568 เวลา 10.10 น.หุ้น EGCO หรือ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) บวก 4.40% เพิ่มขึ้น 6.00 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 142.50 บาท
กรรณ์ หทัยศรัทธา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน และ นักเศรษฐศาสตร์ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า การปรับตัวขึ้นของราคาหุ้น EGCO มาจากเหตุผลหลักหลายประการ ได้แก่ อัตราเงินปันผลสูงในปัจจุบันอยู่ที่ 6% ซึ่งเป็นปัจจัยดึงดูดนักลงทุน รวมถึงบริษัทมีสัดส่วนหนี้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ค่อนข้างสูง เมื่อค่าเงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่า จึงส่งผลบวกต่อสถานะทางการเงินของบริษัท
ขณะเดียวกันในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 บริษัทมีแผนการลงทุนขนาดใหญ่มูลค่าสูงถึง 30,000 ล้านบาท แผนการลงทุนดังกล่าวจะมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานแสงอาทิตย์ และการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานเพื่อก้าวไปสู่การใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น แม้ว่า EGCO ยังมีการใช้ถ่านหินเป็นต้นทุนอยู่พอสมควร แต่บริษัทกำลังอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน โดยปัจจุบัน ราคาถ่านหินยังคงเป็นลักษณะไซด์เวย์และยังไม่มีการปรับตัวขึ้นมากนัก
ส่วนในด้านโครงสร้างสินทรัพย์ บริษัทมีโรงไฟฟ้าหลายแห่ง อาทิ โรงไฟฟ้าพลังน้ำในประเทศลาว และ โรงไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุน CDI Group สำหรับโครงการลงทุนลงทุนใน Linden TopCo ในสหรัฐอเมริกา เป็นส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนที่ได้มีการรวมไว้ในประมาณการของบริษัทอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยบวกทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น ยังคงแนะนำให้ถือ
นายธวัชชัย สำราญวานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทราบว่า เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2568 บริษัท EGCO Linden II, LLC. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ EGCO ถือหุ้นทั้งหมดและจดทะเบียนในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ลงนามในสัญญา Equity Purchase Agreement กับบริษัท HPJV1 LLC ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของบริษัท Linden TopCo LLC (Linden TopCo) เพื่อลงทุนเพิ่มเติมในสัดส่วนร้อยละ 10 ใน Linden TopCo โดยการลงทุนดังกล่าวได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัท ในการประชุมครั้งที่ 7/2568 เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 โดยหลังจากการลงทุนดำเนินการแล้วเสร็จ EGCO Linden II, LLC. จะมีสัดส่วนการลงทุนใน Linden TopCo เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 28 เป็นร้อยละ 38 โดยการลงทุนดังกล่าวจะดำเนินการแล้วเสร็จ หลังจากดำเนินการเงื่อนไขต่าง ๆ ภายใต้สัญญา Equity Purchase Agreement เสร็จสิ้น
การลงทุนครั้งนี้จะช่วยสร้างประโยชน์ให้แก่ EGCO ทั้งในด้านรายได้จากเงินปันผลและกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นทันที และการมีอำนาจในการกำกับดูแลการตัดสินใจที่สำคัญมากขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการบริหารต้นทุนในด้านต่าง ๆ เช่น การเงิน การดำเนินงาน การตลาด และการพัฒนาโครงการในอนาคต
ทั้งนี้ Linden TopCo เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่น ซึ่งใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง มีขนาดกำลังผลิต 980 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา โรงไฟฟ้า Linden Cogen จำหน่ายไฟฟ้า กำลังผลิตไฟฟ้าและให้บริการเสริมความมั่นคงในระบบไฟฟ้า ให้แก่ระบบและโครงข่ายไฟฟ้าของรัฐนิวยอร์ก (NY-ISO Zone J) และตลาดซื้อขายไฟฟ้า PJM PSEG ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ตลาดไฟฟ้าทั้ง 2 แห่งมีความต้องการไฟฟ้าและกำลังผลิตไฟฟ้าสูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้โรงไฟฟ้า Linden Cogen ยังมีสัญญาจำหน่ายไอน้ำและไฟฟ้าระยะยาวกับผู้ซื้อรายใหญ่ที่มีความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่น่าลงทุน
เมื่อรวมกับการได้มาซึ่งสินทรัพย์ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา รายการการลงทุนดังกล่าวไม่เข้าข่ายรายการตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 20/2551 เรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาและจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ รวมถึงไม่เข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยง