ดาวโจนส์ ดีดกลับขึ้นเกือบ 600 จุด หลังทรัมป์ผ่อนท่าทีต่อจีน

ดาวโจนส์ ดีดกลับขึ้นเกือบ 600 จุด หลังทรัมป์ผ่อนท่าทีต่อจีน

ดาวโจนส์ ดีดกลับขึ้นเกือบ 600 จุดในวันจันทร์ ขณะ S&P 500 ฟื้นตัวได้มากกว่าครึ่งหนึ่ง จากการร่วงหนักเมื่อวันศุกร์ NASDAQ พุ่ง หลังประธานาธิบดีทรัมป์ผ่อนท่าทีต่อจีน

ซีเอ็นบีซี รายงานหุ้นพุ่งขึ้นในวันจันทร์ (13 ต.ค.68) ฟื้นตัวจากการเทขายเมื่อวันศุกร์ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีน "ทุกอย่างจะราบรื่นดี" ลดความวิตกสงครามการค้าสหรัฐ-จีนจะกลับมาปะทุอีกรอบ

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 587.98 จุด หรือ 1.29% แตะที่ 46,067.58 จุด ซึ่งคิดเป็น 67% ของการร่วงลงในวันศุกร์

ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.56% ปิดที่ 6,654.72 จุด ฟื้นตัวขึ้น 56% จากวันศุกร์

ดัชนี Nasdaq Composite พุ่งขึ้น 2.21% ปิดที่ 22,694.61 จุด โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ร่วงลงวันศุกร์นำการดีดตัวกลับ

ราคาหุ้น Oracle พุ่งขึ้นมากกว่า 5% ขณะที่ Nvidia เพิ่มขึ้นเกือบ 3% Broadcom พุ่งขึ้นเกือบ 10% หลังจากประกาศความร่วมมือกับ OpenAI อย่างเป็นทางการในเช้าวันจันทร์

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากโพสต์ลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Truth Social ของทรัมป์เมื่อวันอาทิตย์ ชี้ให้นักลงทุนเห็นว่าประธานาธิบดีอาจไม่ทำตามคำขู่ที่จะ "เพิ่มอัตราภาษีศุลกากรครั้งใหญ่" ต่อจีน ซึ่งคำขู่ดังกล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทำให้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐ กับจีนกลับมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง และทำให้หุ้นร่วงลงอย่างหนัก ส่งผลให้มูลค่าตลาดหายไป 2 ล้านล้านดอลลาร์

“อย่ากังวลเรื่องจีน ทุกอย่างจะเรียบร้อยดี! ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้เป็นที่เคารพนับถือเพิ่งประสบช่วงเวลาเลวร้าย เขาไม่ต้องการให้เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในประเทศ และผมก็ไม่ต้องการเช่นกัน” ทรัมป์เขียน “สหรัฐอเมริกาต้องการช่วยเหลือจีน ไม่ใช่ทำร้ายจีน”

รองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ สะท้อนความรู้สึกดังกล่าวในช่วงสุดสัปดาห์ เขาบอกกับฟ็อกซ์นิวส์ว่าสหรัฐ จะเจรจาหากปักกิ่ง “เต็มใจที่จะมีเหตุผล” แม้ว่าเขาจะเสริมว่าสหรัฐ “มีไพ่เด็ด” มากกว่านี้หากจีนไม่ทำเช่นนั้น

“ความตึงเครียด และความไม่แน่นอนยังคงอยู่ และเรายังไม่คิดว่าจะมีข้อตกลงที่ครอบคลุมทั้งหมดในเร็วๆ นี้ แต่สิ่งนี้ช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงของภาษี 100% หรือมาตรการควบคุมการส่งออกที่ทำลายล้างในขณะที่การเจรจายังคงดำเนินต่อไป” โทบิน มาร์คัส หัวหน้าฝ่ายนโยบายสหรัฐ ของบริษัทวิจัย Wolfe Research กล่าว  “ทรัมป์ดูเหมือนจะบอกนักลงทุนว่าพวกเขาสามารถซื้อหุ้นเมื่อราคาตกได้อย่างปลอดภัย และจากประวัติการซื้อขายของนักลงทุนในปีนี้ที่แม้จะดูเสี่ยง เราคาดว่าตลาดจะยอมรับคำเชิญนี้” 

ตลาดฟื้นตัวในวงกว้าง

ดัชนีหลักทั้งสามปิดตลาดในสัปดาห์ที่แล้วในแดนลบ ดัชนี S&P 500 เพียงวันศุกร์เดียวร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน ซึ่งตอนนั้นตลาดหุ้นร่วงหนักจากความตกตะลึงหลังการประกาศภาษีนำเข้าครั้งแรกของทรัมป์

แต่แถลงการณ์ล่าสุดดูเหมือนจะดึงดูดนักลงทุนให้กลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้งหลังจากการเทขายในวันศุกร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเทคโนโลยีที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งพึ่งพาแร่หายากจากจีนสำหรับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ และรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงสินค้าอื่นๆ

เกือบสี่ในห้าของบริษัทใน ดัชนี S&P 500 ซื้อขายในทิศทางขาขึ้นในวันจันทร์ ซึ่งส่งสัญญาณการฟื้นตัวในวงกว้าง หุ้นขนาดเล็กก็ร่วมด้วย โดย ดัชนี Russell 2000 พุ่งขึ้น 2.8% หลังจากปิดตลาดร่วงลง 3% ในวันศุกร์

แม้ว่าเช้าวันจันทร์จะฟื้นตัว แต่ตลาดยังคงเผชิญกับความกังวลอื่นๆ การปิดทำการของรัฐบาลกำลังยืดเยื้อเข้าสู่สัปดาห์ใหม่ เนื่องจากกำหนดเส้นตายจ่ายค่าจ้างครั้งใหญ่ในวันที่ 15 ตุลาคม

ฤดูกาลผลประกอบการเริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์นี้ Citigroup, Goldman Sachs Group, Wells Fargo, JPMorgan Chase, Bank of America และ Morgan Stanley มีกำหนดประกาศผลประกอบการในวันอังคาร และวันพุธ นอกจากนี้ ธนาคารระดับภูมิภาคหลายแห่งก็เตรียมประกาศผลประกอบการรายไตรมาสเช่นกัน

ตลาดตราสารหนี้ปิดทำการในวันจันทร์เนื่องจากวันหยุดวันโคลัมบัส

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์