CHAYO นัดผู้ถือหุ้นกู้ 5 รุ่น 'ยืดหนี้ 2 ปี' จ่ายคืนเงินต้นบางส่วน-เพิ่มดอกเบี้ย

นายกิตติ ตั้งศรีวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO รายงานผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า บริษัทแจ้งต่อผู้ถือหุ้นกู้ถึงความจำเป็นในการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ 5 รุ่น รวมมูลค่ากว่า 3,932.90 ล้านบาท ในวันที่ 16 ตุลาคม 2568 เพื่อพิจารณาแผนปรับโครงสร้างหนี้หุ้นกู้

โดยหลักคือการ ขอขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนออกไปอีก 2 ปี พร้อมเสนอแผนชำระคืนเงินต้นบางส่วนและปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย เพื่อบริหารจัดการสภาพคล่องของบริษัทให้ผ่านพ้นสถานการณ์เศรษฐกิจที่ท้าทาย

วิกฤติเศรษฐกิจซ้ำเติมตลาดอสังหาฯ และหุ้นกู้

บริษัทระบุว่า ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อกระแสเงินสด คือภาวะเศรษฐกิจโลกและภายในประเทศที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศที่ประสบปัญหา "อุปทานส่วนเกิน (Over Supply)" ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงอย่างมาก รวมถึงสถาบันการเงินที่เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ส่งผลให้การจำหน่ายหลักประกันหนี้มีปัญหาและไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นกู้ไทยยังเผชิญความผันผวนอย่างรุนแรงจากการผิดนัดชำระหนี้ของหลายบริษัท ส่งผลให้ความเชื่อมั่นนักลงทุนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้การออกหุ้นกู้ใหม่เพื่อนำมาชำระคืนหุ้นกู้เดิมเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงมีกระแสเงินสดไม่เพียงพอสำหรับการชำระคืนหุ้นกู้ตามกำหนดเดิม

วาระสำคัญในการขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นกู้

บริษัท ชโย กรุ๊ป จึงได้เรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ของหุ้นกู้ 5 รุ่น (CHAYO25NA, CHAYO263A, CHAYO26OA, CHAYO273A, และ CHAYO279A) ด้วยวิธีการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) ในวันที่ 16 ตุลาคม 2568 โดยมีวาระสำคัญเพื่อพิจารณาอนุมัติ ดังนี้:

1.ขอขยายระยะเวลาไถ่ถอน 2 ปี พร้อมแบ่งจ่ายเงินต้น:

ขยายอายุหุ้นกู้ ออกไปอีก 2 ปี นับจากวันครบกำหนดไถ่ถอนเดิม

แบ่งชำระคืนเงินต้นบางส่วน ให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้รวม ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของมูลค่าหุ้นกู้ที่ยังไม่ได้ไถ่ถอน ภายในวันครบกำหนดไถ่ถอนเดิมของแต่ละรุ่น และชำระส่วนที่เหลือทั้งหมดในวันครบกำหนดไถ่ถอนที่ขอขยายออกไป

2.ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย:

เสนอ ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ของหุ้นกู้ทั้ง 5 รุ่น ในอัตรา 0.25% ต่อปี ตลอดช่วงระยะเวลาที่ขอขยายออกไป

3.เพิ่มหน้าที่ในการชำระหนี้จากทรัพย์สิน:

กำหนดให้บริษัทต้องนำเงินสุทธิ อย่างน้อย 70% จากการจำหน่ายทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) และทรัพย์สินรอการขาย (NPA) จำนวน 17 รายการ (มูลค่าประเมินรวมประมาณ 2,509 ล้านบาท)

กำหนดให้นำเงินสุทธิ อย่างน้อย 50% จากการดำเนินงานในแต่ละเดือน

เงินทั้งสองส่วนนี้จะถูกนำฝากเข้าบัญชี Debentures Fund เพื่อสะสมชำระคืนเงินต้นหุ้นกู้บางส่วนงวดแรก (10% ของทุกรุ่น) ก่อน และเมื่อชำระครบแล้วจะนำส่วนที่เหลือไปชำระคืนหนี้หุ้นกู้ทุกรุ่นโดยเฉลี่ยตามสัดส่วนหนี้คงค้าง

4.ให้สิทธิไถ่ถอนก่อนกำหนด (Call Option) โดยไม่มีค่าธรรมเนียม:

ขอแก้ไขข้อกำหนดสิทธิให้บริษัทสามารถใช้สิทธิชำระหนี้หุ้นกู้ก่อนครบกำหนดได้ (ทั้งจำนวนหรือบางส่วน) โดย ไม่ต้องชำระค่าธรรมเนียม

5.ขอผ่อนผันไม่ให้ถือเป็นเหตุผิดนัด:

ขอผ่อนผันไม่ให้การเสนอขอปรับเงื่อนไขหุ้นกู้ครั้งนี้ รวมถึงการเจรจากับสถาบันการเงินหรือเจ้าหนี้อื่นเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ภายในระยะเวลา 1 ปี นับจากวันประชุม ถือเป็นเหตุผิดนัด ตามข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้

ทั้งนี้ การลงคะแนนเสียงของแต่ละวาระในการประชุมจะถูกนับแยกต่างหากสำหรับหุ้นกู้แต่ละรุ่น