ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ทรงตัว หลังสัปดาห์ที่ลดลง จับตาจ้างงานวันศุกร์

ซีเอ็นบีซี รายงานสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่เชื่อมโยงกับดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับขึ้น 17 จุด  S&P 500 ฟิวเจอร์ และ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ต่างก็ทรงตัวในคืนวันอาทิตย์ (28 ก.ย.68)

ตลาดหุ้นในสหรัฐ ปรับตัวลดลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากเริ่มเห็นรอยร้าวในเสาหลักสำคัญของการปรับตัวขึ้นของตลาดกระทิง ซึ่งก็คือ ความตื่นเต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ความร่วมมือที่น่าตื่นตาตื่นใจมูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์ของ Nvidia กับ OpenAI ทำให้นักลงทุนเกิดความกังขากับความยั่งยืนของธุรกิจนี้

ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.3% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 และขณะนี้อยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 0.8% ดัชนี Nasdaq ลดลง 0.7% ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม ดัชนี Dow Jones ลดลง 0.2% ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบสามสัปดาห์

“เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สถานการณ์เปลี่ยนไปเล็กน้อยในทิศทางลบ เนื่องจากนักลงทุนตั้งคำถามต่อสมมติฐานสำคัญสองประการที่หนุนตลาดขาขึ้น ได้แก่ ความยั่งยืนของการเติบโตอย่างรวดเร็วของโครงสร้างพื้นฐานด้านปัญญาประดิษฐ์  และความไม่แน่นอนของวัฏจักรการผ่อนคลายนโยบายการเงินของเฟด” อดัม คริซาฟูลลี ผู้ก่อตั้ง Vital Knowledge กล่าวในบันทึก

จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ในวันพฤหัสบดี ขณะที่ GDP ไตรมาสที่สอง ถูกปรับเพิ่มขึ้นเป็น 3.8% ข้อมูลที่แข็งแกร่งขึ้นทำให้เกิดความกังวลว่าเฟดอาจลดอัตราดอกเบี้ยช้าลง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ฉุดรั้งตลาดขาขึ้น

ตลาดรอคอยตัวเลขจากจ้างนอกภาคเกษตร

ทุกสายตากำลังจับจ้องไปที่รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของเดือนกันยายน ซึ่งจะประกาศในเช้าวันศุกร์นี้ (3 ต.ค.68) วอลล์สตรีทอาจต้องการตัวเลขที่ "พอดี" เพื่อรักษาตลาดกระทิงให้คงอยู่  โดยไม่ร้อนแรงเกินไปจนทำให้ผู้กำหนดนโยบายมีท่าทีแข็งกร้าว และไม่ต่ำจนเกินไปจนบ่งบอกถึงการชะลอตัวครั้งใหญ่ 

ตลาดยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในเดือนกันยายน ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นแล้ว 2.8% ในเดือนนี้ ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 1.5% ส่วนดัชนี Nasdaq ซึ่งเน้นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ปรับตัวขึ้น 2.9% ถือเป็นกลุ่มหุ้นที่ทำผลงานได้ดีกว่า

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์