"หุ้นไทย" ปิดลบช่วงเช้าที่ 1,281 จุด หุ้น DELTA บวกสวนตลาด-รอครม.แถลงนโยบาย

"หุ้นไทย" ปิดลบช่วงเช้าที่ 1,281 จุด  หุ้น DELTA บวกสวนตลาด-รอครม.แถลงนโยบาย

“หุ้นไทยวันนี้” ปิดตลาดเช้านี้ (23 ก.ย. 68) เวลา 12.30 น. ดัชนีปิดอยู่ที่ 1,281.04  จุด ปรับตัวลดลง 1.50 จุด หรือ เปลี่ยนแปลง 0.12 % มูลค่าการซื้อขาย 19,036.23 ล้านบาท

หุ้นไทยวันนี้” ปิดตลาดเช้านี้ (23 ก.ย. 68) เวลา 12.30 น. โดยระหว่างวันดัชนีทำจุดสูงสุดที่ 1,290.84 จุด  และทำจุดต่ำสุด 1,279.39จุด                 

5 อันดับ หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด คือ

  1. DELTA           ปิดที่      166.50บาท              เพิ่มขึ้น 3.10%
  2. CPALL           ปิดที่       46.75บาท               ลดลง  2.09%
  3. GULF            ปิดที่       44.75บาท               ลดลง 1.10%
  4. PTT               ปิดที่       32.75บาท               ลดลง 0.76%
  5. ADVANC       ปิดที่       290.00บาท             ลดลง 0.68%

         บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเอสแอล ปัจจัยต่างประเทศจับตาไปที่ประธานเฟดเขต St. Louis และ Atlanta ระบุว่า การลดดอกเบี้ยเพิ่มอาจไม่จําเป็นสวนทางกับแนวคิดของStephen Miranที่เห็นว่านโยบายการเงินในปัจจุบันยังตึงตัวและสนับสนุนลดแรงกว่าที่ตลาดคาด(0.5%) เพื่อจํากัดความเสี่ยงเศรษฐกิจทำจะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ ติดตามคําปราศรัยพาวเวลในคืนนี้เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดรวมถึงข้อมูล GDP 2Q25 final และ Core PCE ส.ค. ซึ่งตลาดคาด+0.2%MoM, +2.9%YoY หากสูงกว่าคาด เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจเกิดภาวะ stagflation มากขึ้น

       ส่วนในประเทศ รัฐบาลภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล เร่งกำหนดกรอบนโยบายระยะสั้น “4 เดือน 4 ด้าน” ครอบคลุมเศรษฐกิจปากท้องความมั่นคงและชายแดนปัญหาสังคมและภัยธรรมชาติ/การเยียวยา

       โดยมีมาตรการลดค่าครองชีพเช่นการรื้อฟื้น “คนละครึ่ง”, การลดค่าทางด่วน และการปรับนโยบายพลังงานเป็นโซลาร์ชุมชน 1,500เมกะวัตต์รวมถึงการหยิบยืมนโยบายบางส่วนของพรรคเพื่อไทย(เช่น “หวยเกษียณ”)

       ทั้งนี้นายกฯและทีมเศรษฐกิจได้เข้าหารือสมาคมธนาคารไทยเพื่อรับข้อเสนอเชิงนโยบายเร่งด่วนขณะร่างคำแถลงนโยบายรัฐบาลฉบับสมบูรณ์มีความยาว 8หน้าและเตรียมแถลงต่อรัฐสภาต้นเดือนตุลาคม

       SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1,272-1,290 จุด ยังไร้ปัจจัยบวกใหม่ขณะที่ในเชิง Valuation ของดัชนีซื้อขายบนPE ที่13.5-13.8 เท่าค่อนข้างแพงเทื่อเทียบกับภูมิภาค(ค่าเฉลี่ยที่12 เท่า) ประกอบกับแนวโน้ม GDP ปีนี้เติบโตต่ำทําให้ความน่าสนใจของนักลงทุนต่างชาติลดลง