หุ้นไทยเช้านี้เปิดบวก 4.21 จุด หลังหุ้นเทคฯ สหรัฐ พุ่งแรง DELTA รับอานิสงส์ หนุนดัชนี

ความเคลื่อนไหว "หุ้นไทย" ภาคเช้า ณ วันที่ 23 ก.ย.2568 เปิดตลาดบวก 4.21 จุด หรือ 0.33% อยู่ที่ 1,286.75 จุด มูลค่าการซื้อขาย 2,345.71 ล้านบาท

กรรณ์ หทัยศรัทธา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน และ นักเศรษฐศาสตร์ สายงานวิจัย บล.ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า แม้ว่าหุ้นไทยยังไม่สามารถยืนเหนือ 1,300 จุดได้ โดยแนวรับคาดว่าจะอยู่ที่ 1,280-1,275 จุด ซึ่งหุ้นไทยที่ปรับตัวลงมายังคงเป็นเพียงการพักฐาน หุ้นควรจะสามารถยืนอยู่ในระดับแนวรับดังกล่าวได้ เพื่อให้สามารถเป็นขาขึ้นและขึ้นต่อไปได้ในอนาคต ขณะที่แนวต้านหลักอยู่ที่ 1,292-1,300 จุด จุดแรงขายบริเวณ 1,295 จุด คาดว่าจะเป็นจุดที่เริ่มมีแรงขายออกมา

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมตลาดและปัจจัยขับเคลื่อนยังได้แรงหนุนจากตลาดโลกยังคงแข็งแกร่ง โดยดัชนี S&P 500 ยังคงทำ New High อยู่ เมื่อวานนี้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เช่น Nvidia, Apple, และ Tesla ปรับตัวบวกแรง รวมถึงการแถลงเกี่ยวกับการลงทุนเพิ่มเติมของบริษัทต่าง ๆ และการประเมินว่า ยอดขาย iPhone 17 อาจจะขายดี ซึ่งปัจจัยดังกล่าวคาดว่าจะช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และส่งผลดีต่อหุ้น DELTA ในวันนี้

สำหรับคำแนะนำวันนี้ นักลงทุนลงทุนตาม S&P 500 หรือลงทุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในเมืองไทยโดยแบ่งลงทุนออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก การเทรดดิ้ง ในหุ้น DELTA และ STECON ราคาเป้าหมายพื้นฐานประเมินไว้ที่ 10.80 บาท และการซื้อเก็บโดยเน้นกลุ่มที่รอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเช่น โครงการคนละครึ่ง โครงการเราเที่ยวด้วยกัน และโครงการ Easy E-Receipt

วิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอร์เรเตอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯยังมีแรงหนุนเชิงบวกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี จากความคาดหวังการเติบโตของธุรกิจ AI ที่ยังสดใส โดยล่าสุด NVIDIA ประกาศลงทุนในบริษัท OpenAI สูงถึง 1 แสนล้านดอลลาร์ ผสานกับความคาดหวังเชิงบวกต่อโอกาสที่ FED จะลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในช่วงถัดไป หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา FED ปรับลดดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกตั้งแต่ ธ.ค.2567 โดยยังแนะติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจของ FED โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงินเฟ้อ และภาคแรงงาน โดยปลายสัปดาห์นี้แนะติดตามการรายงานตัวเลข US Core PCE

ส่วนวันนี้ติดตามการรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการของทั้ง US & Eurozone โดยสหรัฐฯ คาดหวัง PMI ภาคการผลิตชะลอเล็กน้อยสู่ 52.2 จุด เช่นเดียวกับภาคบริการที่คาดที่ 54.0 ลดลงเล็กน้อยจาก 54.5 จุดในเดือนก่อนหน้า ส่วนด้าน PMI ทางฝั่ง Eurozone พบว่า ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการเดือน ก.ย. คาดทรงตัวที่ระดับ 50.7 และ 50.5 จุด

สำหรับตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในช่วงการปรับฐาน โดยในระยะสั้นอาจขาดปัจจัยหนุนใหม่ แต่อย่างไรก็ดีภาพแนวโน้มในระยะกลาง คาดว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นต่อการลงทุนที่มากขึ้น จะเป็นแรงขับเคลื่อนในช่วงถัดไป ดังนั้นกลยุทธ์อาจเน้นรอย่อตั้งรับหุ้นที่คาดหวังฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง คาด SET วันนี้ “Sideways” ในกรอบ 1,270-1,300 จุด