S&P 500 ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ซีเอ็นบีซี รายงาน S&P 500 ปิดแดนลบ ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงเล็กน้อยในวันอังคาร (16 ก.ย.68) เนื่องจากนักลงทุนได้เทขายทำกำไรบางส่วนก่อนที่เฟดจะประกาศผลการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่ทุกคนรอคอย

ดัชนี S&P 500 ซื้อขายลดลง 0.13% ปิดที่ 6,606.76 จุด หลังจากทำสถิติสูงสุดใหม่ในช่วงต้นตลาด

ดัชนีแนสแด็ก Nasdaq Composite ลดลง 0.07% ปิดที่ 22,333.96 จุด

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Averageลดลง 125.55 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 45,757.90 จุด

หุ้นหลักในตลาดกระทิงปรับตัวลดลง โดยหุ้นของ Nvidia และ Microsoft ลดลง 1.6% และ 1.2% ตามลำดับ Palantir และ Alphabet บริษัทแม่ของ Google ก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน

การประชุมเฟดสองวัน ซึ่งเริ่มต้นในวันอังคาร คาดว่าจะส่งผลให้มีการลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม สัญญาซื้อขายล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยชี้ว่ามีโอกาส 100% จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.25% ตามเครื่องมือติดตามเฟด FedWatch ของ CME สิ่งที่นักลงทุนจับตามองมากที่สุดคือการคาดการณ์ของธนาคารกลางสำหรับอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี และการคาดการณ์ว่ากรรการเฟดผู้มีสิทธิออกเสียงจะคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งหรือสองครั้งก่อนสิ้นสุดปี 2568

ตลาดติดตามแนวโน้มเฟดลดดอกเบี้ยเพิ่มก่อนสิ้นปี

นักลงทุนจะติดตามการแถลงข่าวของประธานเฟด เจอโรม พาวเวล อย่างใกล้ชิด เพื่อหาเบาะแสเกี่ยวกับอนาคตของนโยบายการเงิน การประชุมครั้งนี้ยังมาพร้อมกับความตึงเครียดทางการเมือง หลังจากที่วุฒิสภาได้ยืนยันการเสนอชื่อ สตีเฟน มิรัน โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้เป็นกรรมการเฟด ประธานาธิบดีทรัมป์ยังพยายามปลด ลิซา คุก กรรมการผู้ว่าการเฟด ซึ่งกำลังจะลงคะแนนเสียงในการประชุมกับมิรัน

“แม้ว่าความต้องการแรงงานจะอ่อนตัวลง แต่ปัญหาอุปทานแรงงานยังคงช่วยชดเชยความอ่อนแอ และความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยยังคงมีจำกัดในขณะนี้” ซีมา ชาห์ หัวหน้านักกลยุทธ์ระดับโลกของ Principal Asset Management กล่าว

"การตัดสินใจใดๆ ที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50%ในขณะนี้ดูเหมือนจะถูกขับเคลื่อนโดยแรงกดดันทางการเมืองมากกว่าความจำเป็นทางเศรษฐกิจ การลดแบบค่อยเป็นค่อยไปที่ระดับ 0.25% ยังคงเป็นการตอบสนองที่เหมาะสม ช่วยให้เฟดสามารถรับมือกับภาวะชะลอตัวได้โดยไม่จำเป็นต้องตอบสนองมากเกินควรต่อสัญญาณความตึงตัวในระยะแรก" 

 

นักลงทุนยังคงติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับการหารือการค้าโลกและมาตรการภาษีศุลกากรแบบตอบโต้ที่จะมีผลบังคับใช้ในเดือนพฤศจิกายน

 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ สก็อตต์ เบสเซนต์ กล่าวกับซีเอ็นบีซี เมื่อวันอังคารว่า เขาคาดว่าจะมีการเจรจาเพิ่มเติมก่อนถึงกำหนดเส้นตายดังกล่าว และ “ขณะนี้จีนรู้สึกว่าข้อตกลงการค้ามีความเป็นไปได้” หลังจากที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และจีนได้เสร็จสิ้นการเจรจาสองวันในกรุงมาดริดเมื่อวันจันทร์

ทรัมป์ยังให้การประเมินเชิงบวกต่อการหารือการค้าในวันจันทร์ ซึ่งส่งผลให้หุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นและผลักดันให้ดัชนี S&P 500 ปิดเหนือ 6,600 จุดเป็นครั้งแรก

 

ระหว่างการเจรจาในสัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และจีนได้บรรลุ “กรอบข้อตกลง” เกี่ยวกับ TikTok เพื่อให้แอปโซเชียลมีเดียนี้ยังคงให้บริการในสหรัฐอเมริกาได้ แหล่งข่าวยืนยันกับซีเอ็นบีซีเมื่อวันอังคารว่า Oracle จะเป็นหนึ่งในบริษัทที่ให้การสนับสนุน TikTok ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้น 1.5% ในวันอังคาร

 

อย่างไรก็ตาม เจมิสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า การหารือทางการค้าในวงกว้างได้ถูก “เลื่อน” ออกไปก่อน เนื่องจากทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญกับการบรรลุข้อตกลงเรื่อง TikTok อย่างมาก