หุ้นไทยวันนี้ (29 ส.ค.) ปิดตลาด ร่วง 13.48 จุด รอเลือกนายกฯใหม่

"ตลาดหุ้นไทย" วันนี้ (29 ส.ค.68) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,236.61  จุด ลดลง 13.48 จุด หรือ 1.08%  โดยดัชนีฯ เคลื่อนไหวในแนวโน้มปรับตัวลงตลอดทั้งวัน  ซึ่งทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 1,255.84 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,236.61 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 52,475.14 ล้านบาท 

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า  คาด SET Index ปรับตัวลง -10 จุด( +/-)  ทั้งนี้ สภาฯ ต้องเลือกนายกฯ ใหม่จากรายชื่อแคนดิเดต คาด ใช้เวลา 3-5 วัน (รวมเสาร์-อาทิตย์) ได้นายกฯ ใหม่สัปดาห์หน้า ยังต้องรอความชัดเจน  หากได้  นายกฯ คนใหม่ ชัดเจนแล้ว และมีครม. สามารถเดินหน้าต่อไป คาดว่าตลาดหุ้นน่าจะตอบรับกลับมาในเชิงบวกได้ 

"ตอนนี้ตลาดหุ้นไทยยังโอเว่อแฮงค์อยู่ ปรับตัวลง เพราะ ยังไม่มีความชัดเจน ตัวนายกฯใหม่  ขณะนี้แคนดิเคต นายกฯ ใหม่ทั้งเพื่อไทยและฝ่ายค้านด้วย หากกำหนดวันเลือกนายกฯคนใหม่ได้เมื่อไหร่  น่าจะมีทิศทางดีขึ้น แต่ยังคงต้องรอได้นายกฯใหม่ก่อน ว่าเป็นใครชัดเจน ถึงจะประเมินทิศทางกันต่อไป”   

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล. ทิสโก้ จำกัดและนายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA)  กล่าวว่า ศาลฯตัดสินปมคลิปเสียงนายกฯ แพทองธารไม่รอด ถือว่า "ไม่ผิดคาด" ตามที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ผลต่อหุ้นไทยดาวไซด์จำกัด รับข่าวล่วงหน้าแล้ว รอลุ้น เลือกนายกฯใหม่ เสาร์-อาทิตย์นี้ น่าจะได้ตัว ยกเว้นดีเลย์ หุ้นไทยยังผันผวนได้ 

คาด “ชัยเกษม” ขึ้นแท่นตัวเลือกหลัก หากโชว์ฝีมือได้ หุ้นไทยยังมีแรงส่งแตะ 1,300 จุด

นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่าถึงฉากทัศน์การเมืองหลังจากนี้ว่า  แม้จะมีรายงานอาการป่วยของนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย แต่ตามสัญญาณจากพรรคยังคงชี้ว่า เขาเป็นตัวเลือกหลักในการขับเคลื่อนเกมการเมืองช่วงเปลี่ยนผ่าน ในกรณีที่ศาลฯ มีคำวินิจฉัย แพทองธาร ไม่ได้ไปต่อ และไทม์ไลน์การยุบสภาฯ เชื่อว่า พยายามยื้อเวลาให้นานที่สุด โดยนายชัยเกษม คงเข้ามาเพื่อสร้างผลงานและฟื้นคะแนนนิยมก่อนเข้าสู่สนามเลือกตั้งใหม่ ซึ่งอาจเกิดขึ้นเร็วสุดในต้นปี 2569  

อย่างไรก็ตาม มองว่า ฉากทัศน์ดังกล่าว ตลาดหุ้นไทยยังไปต่อไป แตะระดับ 1,300 จุด มีโอกาสดาวน์ไซด์จำกัด เพราะยังมีปัจจัยบวกจากงบประมาณปี69 ผ่านสภาฯไปแล้ว คาดเร่งเบิกจ่ายภาครัฐได้ทันในไตรมาส 4 ปีนี้ และกำไรบจ.ไตรมาส2 ปีนี้ยังเติบโตได้ดีแม้ตัดรายการพิเศษ ออกไป กำไรบจ.ครึ่งปีแรกนี้เติบโต  18% และราคาหุ้นไทยยังอยู่ในระดับน่าสนใจ

นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า  จริงๆแล้ว การยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย สามารถทำได้ หากเศรษฐกิจอยู่ในจังหวะฟื้นตัวดี และสามารถสร้างความเชื่อมั่นต่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ได้ตลาดหุ้น อาจตอบรับในเชิงบวกในระยะข้างหน้าได้เช่นกัน หากมีความชัดเจนทางนโยบายและผู้นำที่มีเสถียรภาพในระยะข้างหน้า 

แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน เศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ความท้าทายยังรุมเร้า ทั้งจากภาวะเงินเฟ้อ การส่งออกที่ชะลอตัว และความไม่แน่นอนทางการเมือง หากเกิดการยุบสภาอย่างเร่งรีบโดยไร้ฉันทามติจากพรรคร่วมรัฐบาล อาจส่งผลลบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน และกดดันตลาดทุนให้ปรับตัวลงได้เช่นกัน 

รวมถึง พรรคประชาชนซึ่งมีท่าทีต้องการเลือกตั้งใหม่ อาจเร่งเวลาให้เร็วขึ้น ขณะที่พรรคร่วมบางส่วนยังลังเลกับการโหวตนายกฯคนใหม่ ความไม่ลงรอยนี้อาจเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเร็วกว่าที่คาดได้ ตลาดหุ้นไทย 

”ในระยะสั้น สายตานักลงทุนและประชาชนยังจับจ้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ และความสามารถของ ชัยเกษม ในการฟื้นตัวและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หากเขาได้รับการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการ คาดว่าตลาดหุ้นไทยยังไปต่อได้”