ดัชนี NASDAQ  ร่วง S&P 500 ติดลบ Nvidia ดึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วง 

ซีเอ็นบีซี รายงานดัชนีแนสแด็ก  NASDAQ  ร่วงลง S&P 500 ติดลบในวันอังคาร หลังราคาหุ้น Nvidia ตกดึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีลงตาม ขณะที่ Dow แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เงินออกจากหุ้นเทคไหลเข้าหุ้นกลุ่มอื่นๆ

ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลดลงในวันอังคาร (19  ส.ค. 68) โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้น Nvidia และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวลดลงอย่างกว้างขวาง

ดัชนีตลาดรวม S&P 500 ปรับตัวลดลง 0.59% ปิดที่ 6,411.37 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก Nasdaq Composite ลดลง 1.46% ปิดที่ 21,314.95 จุด ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average เพิ่มขึ้น 10.45 จุด หรือ 0.02% ปิดที่ 44,922.27 จุด ดัชนีหุ้น 30 ตัวแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งในช่วงการซื้อขาย โดยได้รับแรงหนุนจากราคาหุ้นค้าปลีก Home Depot ที่พุ่งสูงขึ้น

ราคาหุ้นของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่และผู้ผลิตชิปรายใหญ่ปรับตัวลดลงกันทั้งแผง โดยหุ้น Nvidia ลดลง 3.5% ขณะที่ Advanced Micro Devices

และ Broadcom ร่วงลง 5.4% และ 3.6% ตามลำดับ หุ้นของ Palantir ซึ่งเป็นหุ้นซอฟต์แวร์ที่พุ่งสูง ร่วงลงแรงมากกว่า 9% ทำให้เป็นหุ้นที่รวงลงหนักที่สุดในดัชนี S&P 500 บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อื่นๆ เช่น Tesla, Meta Platforms และ Netflix ก็ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันเช่นกัน

"การซื้อขายในหุ้นกลุ่มปัญญาประดิษฐ์ AI อาจไม่ได้กำลังพังทลาย แต่กำลังอยู่ในช่วงพักหายใจ หลังจากที่ NASDAQ ปรับตัวขึ้นมากกว่า 40% ตั้งแต่เดือนเมษายน ตามประวัติแล้ว การหยุดชั่วคราวเป็นเรื่องปกติเมื่อตลาดปรับตัวตามข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดและนโยบายของเฟดที่คาดการณ์ไว้" เจย์สัน บรอนเชตตี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Lincoln Financial กล่าว

"เมื่อเงินทุนเคลื่อนย้ายไปยังบริษัทในหลากหลายภาคส่วนที่แสดงความสามารถในการใช้ AI เพื่อเพิ่มกำไรและประสิทธิภาพ การหมุนเวียนและการมีส่วนร่วมที่กว้างขึ้นอาจสนับสนุนการเติบโตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น แม้ว่าความผันผวนระยะสั้นอาจเกิดขึ้นได้"  บรอนเชตตี กล่าวเพิ่มเติม 

ราคาหุ้น Home Depot ปรับตัวขึ้น 3% หลังบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ด้านอุปกรณ์ปรับปรุงบ้านประกาศคงเป้าหมายรายได้ทั้งปี แม้ว่ากำไรไตรมาสสองจะออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ก็ตาม นักลงทุนกำลังรอตัวเลขผลประกอบการจาก Lowe’s, Walmart และ Target ซึ่งจะประกาศในสัปดาห์นี้ เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคท่ามกลางแนวโน้มเงินเฟ้อที่ผันผวนและนโยบายการค้าสหรัฐฯ ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา 

วอลล์สตรีทยังมองหาสัญญาณจากเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในการประชุมนโยบายที่เหลือของธนาคารกลางในปีนี้ เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางจากทั่วโลกจะประชุมกันในสัปดาห์นี้ที่เมืองแจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง เพื่อร่วมการประชุมสัมมนาเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ

ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดอกเบี้ยเฟดบ่งชี้ว่ามีโอกาส 85% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมนโยบายครั้งต่อไปในเดือนกันยายน ตามข้อมูลจากเครื่องมือติดตามเฟด FedWatch ของ CME

“การกล่าวสุนทรพจน์ที่แจ็กสันโฮลในวันศุกร์น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับตลาด เนื่องจากเราเชื่อว่าเจอโรม พาวเวลล์จะส่งสัญญาณว่ามีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนที่จะถึงนี้” สตีเฟน ชวาร์ตซ์ หุ้นส่วนผู้ก่อตั้งบริษัทไพโอเนียร์ ไฟแนนเชียล กล่าว

“การประเมินมูลค่าอาจมีพื้นที่ให้ขยายตัวมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 เนื่องจากนักลงทุนจะเริ่มประเมินราคาตามกำไรของปี 2026 ซึ่งคาดว่าจะดีขึ้นจากความเป็นไปได้ที่อัตราดอกเบี้ยจะลดลงและความชัดเจนในนโยบายภาษีที่ดีขึ้น” เขากล่าวเพิ่มเติม