EA Q2/68 ขาดทุน 721 ล้านครึ่งปีแรกขาดทุน 469 ล้าน จากตั้งสำรองผลขาดทุน'ไทย สมายล์ บัส '

       บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA   รายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ปี  2568 ผลขาดทุน 721 ล้านบาท จากกำไร 541 ล้านบาท ไตรมาส 2 ปี 2567 และครึ่งปีแรก 2568 ขาดทุน  469 ล้านบาท จากกำไร 1,430 ล้านบาท ครึ่งปีแรก 2567 

       โดยรายได้รวม Q2’2568 อยู่ที่ 3,286.98 ล้านบาท ลดลง 220.70 ล้านบาท (-6.3% QoQ) และลดลง 1,200.77 ล้านบาท (-26.8% YoY) และสำหรับ 1H2568 อยู่ที่ 6,794.65 ล้านบาท ลดลง 3,574.16 ล้านบาท (-34.5% YoY)

        ผลขาดทุนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากลูกหนี้การค้า Q2’2568 อยู่ที่ 643.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 586.62 (+>100.0% QoQ) และเพิ่มขึ้น 480.62 ล้านบาท (+>100.0% YoY) และสำหรับ 1H2568 อยู่ที่ 700.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 531.75 ล้านบาท (+>100.0% YoY) โดย สาเหตุหลักเพิ่มขึ้นจากการตั้งสำรองผลขาดทุนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากลูกหนี้การค้าของกลุ่มบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด

          โดยผลขาดทุนสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ (ไม่รวมรายการพิเศษ) จำนวน 43.92 ล้านบาท โดยผลประกอบการลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าและจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 736.15 ล้านบาท (-<100% QoQ) และ 680.52 ล้านบาท (-<100% YoY) มีสาเหตุหลักดังนี้ 

       โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์: สิทธิ Adder ของโรงไฟฟา้พลังงานแสงอาทิตย์จังหวัดลำปางได้สิ้นสุดลงในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ทำให้รายได้ลดลง คิดเป็นมูลค่า 203 ล้านบาท (QoQ) และ 380 ล้านบาท (YoY)

          โรงไฟฟ้าพลังงานลม: การผลิตกระแสไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานลมลดลง ส่งผลให้รายได้ลดลง 457.24 ล้านบาท (QoQ) และ 278.48 ล้านบาท (YoY) ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยตามฤดูกาล เนื่องจากปริมาณลมในไตรมาสที่ 2 มักจะน้อยกว่าไตรมาสอื่น ๆ

          การตั้งสำรองมูลค่าสินค้าคงเหลือ: กลุ่มบริษัทฯ มีการตั้งสำรองสินค้าคงเหลือกลุ่มแบตเตอรี่ที่กระทบกำไร (ขาดทุน) สุทธิส่วนของบริษัทใหญ่เป็นมูลค่า 88.93 ล้านบาท เป็นผลมาจากการที่ราคาตลาดของผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่มีการปรับตัวลดลงอย่าง ต่อเนื่อง รวมถึงการแข่งขันที่สูงขึ้นในอุตสาหกรรม การตั้งสำรองนี้เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความระมัดระวังของฝ่ายบริหารใน การประเมินมูลค่าสินทรัพย์และเพื่อให้มั่นใจว่างบการเงินแสดงฐานะที่แท้จริงและเป็นปัจจุบัน

            ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี2568 (1H2568) กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นใหญ่ (ไม่รวมรายการพิเศษ) จำนวน 648.31 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนจำนวน 877.00 ล้านบาท หรือคิดเป็น (-57.5% YoY)  ปัจจัยที่ส่งผล กระทบหลัก ได้แก่

           การสิ้นสุดสิทธิAdder ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์: การหมดอายุของสิทธิ Adder สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จังหวัดลำปางในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ถือเป็นปัจจัยเชิงโครงสร้างที่สำคัญที่สุด ซึ่งส่งผลให้รายได้ในส่วนนี้ลดลงอย่างมาก คิดเป็นมูลค่าสะสมถึง 554 ล้านบาท ตลอดช่วงครึ่งปีแรก

           ผลประกอบการจากธุรกิจแบตเตอรี่: กำไรจากธุรกิจแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนลดลง 267 ล้านบาท ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ฉุดรั้งผลกำไรโดยรวมของบริษัท