ดัชนี NASDAQ ทำสถิติปิดสูงสุดใหม่ หุ้น Apple พุ่งแรงขับดันตลาด

ดัชนี NASDAQ ทำสถิติปิดสูงสุดใหม่ หุ้น Apple พุ่งแรงขับดันตลาด

ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น ขณะที่ดัชนี NASDAQ ปิดตลาดวันศุกร์ด้วยสถิติสูงสุดใหม่ ราคาหุ้นบริษัท Apple พุ่งขึ้นแรงช่วยหนุนตลาด นักลงทุนมองข้ามกำแพงภาษีทรัมป์

ซีเอ็นบีซี รายงานหุ้นปรับตัวสูงขึ้นในวันศุกร์ (8 ส.ค.) นำโดยกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ดัชนีหลักปิดตลาดสัปดาห์ด้วยการปรับสูงอย่างแข็งแกร่ง

ดัชนี Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.98% ปิดที่ 21,450.02 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ดัชนีที่เน้นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ระหว่างวันในช่วงเช้า

ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.78% ปิดที่ 6,389.45 จุด ต่ำกว่าระดับปิดตลาดที่เคยทำสถิติสูงสุดเพียงเล็กน้อย

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average เพิ่มขึ้น 206.97 จุด หรือ 0.47% ปิดที่ 44,175.61 จุด

ดัชนีหลักๆ ปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้ โดย ดัชนี Dow Jones ซึ่งประกอบด้วยหุ้น 30 ตัว พุ่งขึ้นประมาณ 1.4% และดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 2.4% ในช่วงเวลาดังกล่าว ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 3.9% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ราคาหุ้น Apple หนุนทั้งกลุ่มเทคโนโลยีใน S&P 500 และ Nasdaq 

ราคาหุ้น Apple บริษัทผู้ผลิต iPhone พุ่งขึ้น 13% ในสัปดาห์นี้ หลังจากประกาศแผนการใช้จ่ายเพื่อลงทุนประมาณ 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในระยะเวลาสี่ปีในสหรัฐอเมริกา เพื่อเอาใจประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ราคาหุ้นพุ่งสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2020

การพุ่งขึ้นล่าสุดของ Apple เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อทรัมป์ประกาศเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่าเขาจะจัดเก็บภาษีนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์และชิป 100% โดยยกเว้นให้กับบริษัทที่ "ก่อสร้างโรงงานผลิตในสหรัฐอเมริกา" ราคาหุ้นแอปเปิลพุ่งสูงขึ้นอีก 4.2% ในวันศุกร์

นโยบายการค้าของทรัมป์

นักลงทุนไม่เพียงแต่ดูเหมือนจะตีความว่าภาษีเซมิคอนดักเตอร์นั้นไม่รุนแรงเท่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ยังดูเหมือนจะมองข้ามผลกระทบภาษี "ตอบโต้" ของทรัมป์ ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อเที่ยงคืนของวันพฤหัสบดี อัตราภาษีศุลกากรที่พุ่งสูงที่สุดบางส่วน ได้แก่ ภาษีศุลกากรกับสินค้าซีเรีย 41% และภาษีศุลกากรเก็บจากสินค้าลาวและเมียนมา 40%

ทรัมป์เตือนศาลสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ว่าอย่ายกเลิกนโยบายภาษีศุลกากรของเขา โดยเขโพสต์ลงบน Truth Social ของเขา ว่าหากศาลทำเช่นนั้น “มันจะกลายเป็นปี 1929 อีกครั้ง เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่” เขายังกล่าวอีกว่าภาษีศุลกากรเหล่านี้ส่งผลกระทบเชิงบวกอย่างมหาศาลต่อตลาดหุ้น 

ราคาหุ้นร่วงลงอย่างหนักหลังจากทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีศุลกากรครั้งใหญ่เมื่อเดือนเมษายน โดยดัชนี S&P 500 ร่วงลงสู่เขตปรับฐานหลังจากร่วงลงในวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020

 

“ปฏิกิริยาของตลาดต่อการประกาศเมื่อวันที่ 2 เมษายน แสดงให้เห็นว่าตลาดรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับภาษีศุลกากร” รอสส์ เมย์ฟิลด์ นักกลยุทธ์การลงทุนของแบร์ดกล่าว “นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่ารัฐบาลจะไม่ดำเนินการตามแผนภาษีศุลกากรที่เข้มงวดเกินไป ดังนั้นจึงเหมือนกับไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน และผมคิดว่าเรายังอยู่ในช่วงท้ายๆ ของการหาคำตอบ”

“หากตลาดคาดการณ์ไว้เช่นนั้น แต่ไม่ได้ตอบสนองเพราะกำลังรอการยอมถอย ฝ่ายบริหารอาจถือได้ว่าตลาดกำลังสนับสนุนนโยบาย แทนที่จะคาดการณ์การเปลี่ยนแปลง ดังนั้นจึงเป็นพลวัตที่ค่อนข้างซับซ้อน” เขากล่าวต่อ