4 หุ้นชิ้นส่วนฯ กอดคอบวก SMT-KCE พุ่งนำ 7.11% เก็งไทย-สหรัฐเจรจาการค้าพรุ่งนี้
4 หุ้นชิ้นส่วนฯ กอดคอบวก นำโดย SMT บวก 7.11% เพิ่มขึ้น 0.08 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 1.20 บาท ตามมาด้วย KCE บวก 3.74% เพิ่มขึ้น 0.70 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 19.40 บาท โบรกเผย เข้าเก็งกำไร หลังไทย-สหรัฐเริ่มเจรจาการค้าพรุ่งนี้ (3 ก.ค.68) คาดภาษีลดลงเหลือ 18%
ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยภาคเช้า ณ วันที่ 2 ก.ค.2568 เวลา 10.30 น.หุ้นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดย
หุ้น SMT บวก 7.11% เพิ่มขึ้น 0.08 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 1.20 บาท
หุ้น KCE บวก 3.74% เพิ่มขึ้น 0.70 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 19.40 บาท
หุ้น HANA บวก 1.50% เพิ่มขึ้น 0.30 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 20.30 บาท
หุ้น DELTA บวก 0.48% เพิ่มขึ้น 0.50 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 104.50 บาท
กรรณ์ หทัยศรัทธา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน และ นักเศรษฐศาสตร์ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของไทยปรับตัวขึ้นในวันนี้ โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเก็งกำไรข่าวดีเกี่ยวกับการเจรจาทางการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 3 ก.ค.นี้ โดยตลาดคาดการณ์ว่าภาษีตอบโต้ที่ปัจจุบันอยู่ที่ 36% อาจจะปรับลดลงมาเหลือประมาณ 18% หรือครึ่งหนึ่งของอัตราเดิม ขณะที่พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คาดว่าอาจจะลดลงได้ถึง 10% ซึ่งการลดภาษีดังกล่าวจะส่งผลบวกอย่างมากต่อกำไรของกลุ่มส่งออกอิเล็กทรอนิกส์
นอกจากนี้ แม้ว่าเงินบาทจะแข็งค่ามาพอสมควรแล้วที่ระดับ 32 บาทในปัจจุบัน แต่คาดว่าจะเริ่มเห็นการอ่อนค่าลงได้ในครึ่งปีหลังนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงสูงในช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งจากปัจจัยเศรษฐกิจและการเมือง หากเงินบาทอ่อนค่าลงตามภาวะเศรษฐกิจไทยที่อ่อนแอ จะเป็นผลบวกต่อหุ้นกลุ่มส่งออก โดยเฉพาะอิเล็กทรอนิกส์
ขณะที่ เซนติเมนในภูมิภาคการปรับตัวขึ้นของหุ้นเทคโนโลยีและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของเกาหลีใต้ ก็ถือเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อกลุ่ม Asia Export โดยเฉพาะไทยและไต้หวัน มักจะปรับตัวขึ้นตามเกาหลีใต้
"ตลาดส่วนใหญ่ประเมินว่าผลประกอบการไตรมาส 2 ของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และส่งออกน่าจะเป็นช่วงที่แย่ที่สุดของปีนี้ เนื่องจากถูกกดดันอย่างหนักจากภาษีที่สูงและเงินบาทที่แข็งค่า ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิ อย่างไรก็ตาม มีความคาดการณ์ว่าในครึ่งปีหลัง คำสั่งซื้อต่างๆ รวมถึงรายได้ของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์จะเพิ่มขึ้น"
โดยแนะนำ หุ้น HANA มองว่ามีความปลอดภัยและกระจายความเสี่ยงได้ดีกว่า และควรหลีกเลี่ยง DELTA เนื่องจากมีราคาที่แพง และมีประเด็นเรื่องสัดส่วนน้ำหนักเกณฑ์ Capped Weight ในตลาดหลักทรัพย์ ส่วน KCE แม้ว่าหุ้นจะทำจุดสูงสุดใหม่แต่ไม่แนะนำเท่า HANA เนื่องจาก KCE มีสัดส่วนการพึ่งพิงตลาดยุโรปสูง ซึ่งอุตสาหกรรมรถยนต์ในยุโรปมีความผันผวนสูงและเป็นวัฏจักร
