เปิดตัว “ฤกขจี” แม่ทัพ RAM แผนปั้น “THG”จบมรสุมหนักอยากเห็นกำไรทันที

      “ดร.ฤกขจี กาญจนพิทักษ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มและกรรมการ RAM  ทายาท “นพ.เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์” ผู้ที่มีส่วนสำคัญในการเข้าลงทุนแรกเริ่มใน THG ได้ “เปิดตัว” และ ฉายภาพ “การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่”ของกลุ่มมี THG เข้าเป็นจิกซอว์สำคัญ

        "RAM รวมกับ THG จะเกิดซินเนอร์จี้ขนาดใหญ่ขึ้นจากจำนวนเตียงเป็น 3,290 เตียง RAM 2,100 เตียง THG 1,100เป็นอันดับ 2 ในอุตสาหกรรมแต่ถ้ารวมกับเน็ตเวิร์กเป็น 7,800 เตียง มูลค่ามาร์เก็ตแคปเพิ่มขึ้นตามการควบรวมกิจการ แต่ไม่ได้โฟกัสเท่ากับมีเตียงให้บริการไหม ปัจจุบัน RAM คลอบคลุมพื้นกรุงเทพฯ หมดแล้ว RAM ด้านตะวันออก THG ตะวันตก และมีเน็ตเวิร์กทั่วประเทศรายได้รวมปีนี้เพิ่ม 2 เท่า แตะระดับ 2 หมื่นล้านบาทเป็นอันดับ 3 ในอุตสาหกรรม"

       ภาพการลงทุนทั้งหมดจะกลับมารับรู้ใน RAM ตามการถือหุ้น โฟกัสที่ THG เป็นรพ.ใหญ่แต่เกิดข่าวที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเลย เมื่อ RAM เข้าไปร่วมบริหารช่วยกำหนดทิศทางต้องโฟกัสอะไร และรวมทีมบริหารแชร์เทคโนโลยี -โนฮาว ระบบการจัดซื้อจัดจ้าง มีเน็ตเวิร์คโรงเรียนแพทย์จาก THG ทำให้เป็นกลุ่ม รพ.ที่แข็งแรง

      หลังกระบวนการเพิ่มทุน THG ประชุมบอร์ด หลังใส่เงินเพิ่ใทุนเข้าไปช่วยดูด้านการบริหารซึ่งที่ผ่านมามีการดำเนินการแก้ไข“ปัญหาสภาพคล่องจบแล้ว” ใส่เงินเพิ่มทุนเพื่อเคลียส์ปัญหาหนี้ระยะสั้น เช่น ตั๋วเงินระยะสั้นครบกำหนด หนี้คงค้าง ส่วนหนี้ระยะยาวที่เคยขอผ่อนผันมีการชำระให้ครบ ดังนั้นความกดดันปัญหาสภาพคล่องได้หมดไปแล้ว มาที่ธุรกิจต้องโฟกัสรายได้หลัก คือ รพ. ส่วนไม่ถนัดไม่ใช่ธุรกิจหลักจะพิจารณาหาพันธมิตร

       สินทรัพย์หลัก ร.พ. ธนบุรี และ รพ.ธนบุรี  ทวีวัฒนา ที่ THG ถือตรง แต่จะเน้นหนักรพ.ธนบุรี - รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง หลักๆ “ต้องเติบโตและมีกำไรเห็นชัดเจน”  รพ.ธนบุรี ต้องการเห็นกำไรฟื้นตัวทันทีไตรมาส 3 เนื่องจากผ่านมาขาดทุนจากการตั้งสำรองไม่ได้มาจากการดำเนินงาน   พร้อมเตรียมส่งทีมมือดีเข้าไปร่วมบริหาร เพื่อให้ทีมแข็งแรงและมั่นใจว่าจะดีกว่าเดิม ส่วนรพ.ธนบุรี ทวีวัฒนา มีผลประกอบการดีอยู่แล้วมาร์จินสูง จากจุดแข็งควบคุมต้นทุนที่ดีจะเป็นการช่วยให้เติบโตมากกว่า

       “รพ.ธนบุรี เป็นแบรนด์ที่แข็งแรงอยู่แล้ว ที่ผ่านมาไปผูกกับตัวบุคคลมากไป ภาพที่มองเข้ามานึกถึงตัวบุคคลเพราะเป็นผู้ก่อตั้ง และดูแลการบริหารงานมายาวนาน พอเกิดจุดเปลี่ยนต้องใช้เวลา จึงต้องมาเน้นที่จุดแข็งของรพ.จริงๆ แยกให้เห็นรพ.  มีทีมบริหารจัดการ มีบอร์ดซึ่ง “หมอบุญ” ไม่ได้อยู่ในทีมบริหารและบอร์ดแล้วหากดูจากสินทรัพย์ ศักยภาพของธุรกิจ THG ที่มีทำให้ RAM เห็นโอกาสเข้ามาถือหุ้นเพิ่มครั้งนี้”

       นอกจากนี้ยังมีบริษัทย่อย รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง เป็นจุดที่พบรายการผิดปกติตามที่มีการรายงานไป พอเคลียร์ออกไปจะได้เห็นภาพผลประกอบการจริง พร้อมปรับทิศทางธุรกิจเดิมที่ต้องการปั้นเข้าไอพีโอทำให้ต้องมีธุรกิจที่ไม่แข่งกับแม่ เลยบีบบังคับไปเฉพาะทางจึงไม่มีโอกาสรับคนไข้ทั่วไป แต่ด้วยทิศทางใหม่ชัดเจนคือหยุดไอพีโอ และส่งทีมร่วมบริหารจากรามเข้าไปดูแลเพื่อเกิดภาพเทินร์อะราวด์

    ส่วน “จิณณ์เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้”  ยังต้องแก้ไขปัญหาต่อ ซึ่งเป็นโจทย์หินและยากพอสมควร เพราะไม่ใช่ธุรกิจรพ. ตั้งแต่แรกและไม่มีความชำนาญไม่ใช่ธุรกิจที่ RAM สนใจด้วย  หลักๆ ไม่ต้องลงทุนแต่ดูแลสิ่งที่มีให้สูญน้อยที่สุด  รวมทั้งเปิดโอกาสทำดีลเจรจาหาพันธมิตรที่สนใจ แต่ไม่รีบรอดีลให้ดีที่สุดเพราะสภาพคล่องไม่ได้เป็นปัญหาเหมือนในอดีต

     กลุ่ม RAM ยืนยันปัจจุบันในอดีตคดีความ “หมอบุญ” เป็นคดีส่วนตัวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ THG เลย เพราะไม่มีสินทรัพย์ในชื่อ “หมอบุญ” อยู่แล้ว ส่วนผู้ถือหุ้นยังมีอยู่แต่ผู้บริหารคือบอร์ดที่ต้องการให้บริษัทเติบโต ผู้ถือหุ้นได้รับประโยชน์แม้แต่กลุ่ม “วนาสิน” ถือหุ้นอยู่จะเติบโตไปพร้อมกัน

        ที่สำคัญภาพกลับมาที่ RAM ชัดเจนมากขึ้นจากอดีตลงทุนกระจัดกระจายแต่วันนี้เน้นการควบรวมการกิจการมีบริษัทย่อย ไม่ได้ขยายผ่านบริษัทรวมแต่เปลี่ยนมาโฟกัสมากขึ้น ตั้งแต่เริ่มรวมรพ.วิภาราม และรวม THG หรือมี รพ.ราม 2 ที่เปิดไปแล้ว 2 ปี มี EBITDA  เป็นบวกภายในปีนี้ทำให้มีรายได้เข้ามาเร็วกว่าที่คาด

      "เราคงไม่ขยายด้วยการสร้างโรงใหม่ ต้องชะลอ เพราะลงทุนหนักใช้เวลาเก็บเกี่ยวนาน ดังนั้นแทนสร้างใหม่มาเพิ่มประสิทธิภาพและลงทุนแทนดีกว่า ด้านผู้ถือหุ้นมีคำถามเวลาลงทุน THG ได้อะไรและทำให้เสียโอกาสอะไรบ้างแต่ชี้แจงได้ว่าเห็นเลยว่ามีผลตอบแทนกลับคืนผู้ถือหุ้นเพราะมีการบริหารงานอยู่แล้วไม่ได้สร้างใหม่ รวมทั้งในอนาคตหากมีดีลไหนน่าสนใจทาง RAM มองหาการเข้าซื้อกิจการแทน