S&P 500 เคลื่อนเข้าใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เคยทำไว้

ซีเอ็นบีซี รายงานว่า ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดวันพุธ ( 25 มิ.ย.68)โดยแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูว่าดัชนีอ้างอิงจะกลับสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้หรือไม่

ดัชนีตลาดโดยรวมแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ โดยปิดตลาดที่ 6,092.16 จุด ขณะที่แนสแด็ก Nasdaq Composite

เพิ่มขึ้น 0.31% ปิดที่ 19,973.55 จุด ดัชนีดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average ลดลง 106.59 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ 42,982.43 จุด

ราคาหุ้นของ Nvidia ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์

พุ่งขึ้น 4.3% หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google และผู้ผลิตชิป AMD เพิ่มขึ้น 2.3% และ 3.6% ตามลำดับ

ดัชนี S&P 500 อยู่ต่ำกว่าระดับ 6,147.43 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในการซื้อขายระหว่างวันเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ไม่ถึง 1% และยังเข้าใกล้ระดับสูงสุดปิดตลาด ตลอดกาลที่ 6,144.15 จุดอีกด้วย 

นอกจากนี้ ดัชนี Nasdaq อยู่ต่ำจากระดับสูงสุดเมื่อเดือนธันวาคมเพียง 1%

ในรอบสัปดาห์ ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นมากกว่า 2% หลังจากที่อิหร่านตอบโต้การโจมตีของสหรัฐ เบากว่าที่คาดไว้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา การหยุดยิงที่ประกาศโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลให้หุ้นปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนโล่งใจที่ความขัดแย้งดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันดิบทั่วโลก

การหยุดยิงระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน หนุนตลาด

การเคลื่อนไหวของวอลล์สตรีทเข้าใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในขณะที่ความตึงเครียดด้านการค้าคลี่คลายลง และการหยุดยิงในตะวันออกกลางระหว่างอิหร่านและอิสราเอลดูเหมือนจะดำเนินต่อไปได้ ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้อย่างไม่มั่นคงเมื่อวันอังคาร โดยทั้งอิสราเอล และอิหร่านกล่าวหาอีกฝ่ายว่าละเมิดข้อตกลงหยุดยิงเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากมีการประกาศข้อตกลงกัน

“ในตลาดกำลังต่อสู้กันระหว่างปัจจัยสนับสนุนระยะยาว ซึ่งน่าจะส่งผลบวกต่อราคาสินทรัพย์ (ปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ สกุลเงินดิจิทัล และนวัตกรรมทางเทคโนโลยีอื่นๆ อีกมากมาย) กับแรงต้านตามวัฏจักรของความผิดพลาดทางนโยบายที่อาจเกิดขึ้น” ลีอาห์ เบนเน็ตต์ หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนของ Concurrent Asset Management กล่าว “ดูเหมือนว่าปัจจัยภายนอกจะชนะในวันนี้”

ในช่วงหนึ่งของเดือนเมษายน ดัชนี S&P 500 อยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์มากกว่า 20% โดยนักลงทุนเกรงว่าภาษีศุลกากรที่เพิ่มขึ้นจากสหรัฐ จะทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลแรงงานยังคงแข็งแกร่ง และอัตราเงินเฟ้อยังต่ำ แม้จะมีข้อกังวลเหล่านี้

ในด้านเศรษฐกิจ นักลงทุนวิเคราะห์ข้อมูลการขายบ้านใหม่ ซึ่งเติบโตในอัตราที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2024 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์