หุ้นไทยวันนี้ 19 มิ.ย.68 การเมืองในประเทศยังเผชิญแรงกดดัน

หุ้นไทยวันนี้ 19 มิ.ย.68 การเมืองในประเทศยังเผชิญแรงกดดัน

หุ้นไทยวันนี้ 19 มิ.ย.68 บล.พาย เผยตลาดหุ้นและเศรษฐกิจเผชิญกับแรงกดดันเชิงลบ หลังมีคลิปเสียงหลุด ด้านพรรคภูมิใจไทยตัดสินใจถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนปัจจัยต่างประเทศผลประชุม FED คงดอกเบี้ยตามคาด

หุ้นไทยวันนี้ 19 มิ.ย.68 บล.พาย เปิดเผยว่า ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 44 จุด -0.1% หลังจาก FED มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์กันไว้ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.3% นักลงทุนยังให้น้ำหนักกับความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่อาจกระทบกับอุปทานน้ำมัน

 

ขณะเดียวกัน เมื่อคืนที่ผ่านมา ผลประชุม FED คงดอกเบี้ยตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์กันไว้ แต่อย่างไรก็ตามในส่วนของตัวเลขเศรษฐกิจพบว่า ปรับลด GDP 25 ลงมาเหลือขยายตัว 1.4% จากคาดการณ์เดิมที่ 1.7% และ 26 ปรับลงมาอยู่ที่ 1.6% จากเดิมที่ 1.8% ด้านอัตราการว่างงานเฉลี่ยปีนี้ที่ 4.5% ปรับขึ้นจาก 4.4% พร้อมกับปรับเงินเฟ้อ (PCE) ขึ้นเป็น 3%YoY จากเดิมที่ 2.7%YoY

โดยที่ดอกเบี้ยปลายปี 2568 คาดว่าจะอยู่ที่ 3.9% (ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม) หรือบ่งชี้ว่าจะเกิดการลดดอกเบี้ยอีก 0.5% ซึ่งอาจแบ่งออกเป็นลดดอกเบี้ยครั้งละ 0.25% (2 ครั้ง) CME FED Watch เชื่อว่า FED จะเริ่มลดดอกเบี้ยในประชุมเดือน 9 และอีกครั้งในเดือน 12 ถ้อยแถลงจากท่านประธาน FED พบว่าในส่วนของการลดดอกเบี้ยนั้นอยากเห็นพัฒนาการของเงินเฟ้อที่มากกว่านี้

พร้อมยืนยันเศรษฐกิจสหรัฐฯยังแข็งแกร่งแต่ก็มีสัญญาณชะลอตัว การดำเนินนโยบายจากนี้ยังคงยึดหลักเน้นที่ข้อมูลเป็นหลัก โดยรวมไม่มีผลอย่างมีนัยยะสำคัญต่อสินทรัพย์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ตลาดตราสารหนี้ Dollar Index และตลาดหุ้น สะท้อนว่าผลประชุม FED มิได้สร้างความประหลาดใจอะไรมากต่อตลาด ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญอาจมาจากในประเทศโดยเฉพาะปัจจัยการเมือง 

ขณะที่วานนี้ในโลก Online มีการกล่าวถึงกันค่อนข้างมากเกี่ยวกับคลิปเสียงและหลังจากนั้นในช่วงค่ำพรรคภูมิใจไทยก็ได้ตัดสินใจถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลและรัฐมนตรีของภูมิใจไทยก็ได้ส่งใบลาออกต่อนายกรัฐมนตรี สำหรับพรรคภูมิใจไทยนั้นถือเสียง ส.ส. ราว 69 เสียง ทำให้ฝั่งรัฐบาลจะเหลือ ส.ส. ในทีมเพียง 249 เสียง (ตัวเลขประมาณการ) ทำให้การดำเนินนโยบายต่างๆ อาจเริ่มกระทำได้ยากมากขึ้น และหากจะพลักดันโครงการใหญ่ๆ อย่าง Entertainment Complex ก็อาจเป็นไปได้ยาก 

จากนี้ทางเลือกของรัฐบาลสามารถแต่งตั้งรัฐมนตรีประจำกระทรวงต่างๆ แต่ให้จับตาพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลือจะตัดสินใจถอนตัวตามภูมิใจไทยหรือไม่ หากถอนตัวตามจะยิ่งทำให้เสียงรัฐบาลหรือเสถียรภาพสั่นคลอนมากขึ้น หรือรัฐบาลอาจตัดสินใจยุบสภาแล้วจัดการเลือกตั้งใหม่ก็เป็นไปได้เช่นกัน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจจะเผชิญกับแรงกดดันเชิงลบอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ 

ขณะเดียวกันเมื่อวานที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ รายงานมูลค่าส่งออกประจำเดือน พ.ค. ที่ 3.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (1 ล้านล้านบาท) ขยายตัว 18% นับเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 38 เดือน (นับตั้งแต่เดือน มี.ค. 22) และขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 หากไม่รวมสินค้าเกี่ยวข้องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัยจะขยายตัวได้ 20%YoY กระทรวงพาณิชย์ระบุว่าการชะลอการบังคับใช้ภาษีศุลกากรของสหรัฐฯส่งผลให้การส่งออกเร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องประกอบกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ Digital ทำให้ความต้องการสินค้าที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้น อาทิ คอมพิวเตอร์ แผงวงจรไฟฟ้า 

โดยการส่งออกไทยเดือนล่าสุดขยายตัวได้ดีเป็นอันดับ 2 ในฝั่งอาเซียนเป็นรองเพียงไต้หวัน สินค้าที่ขยายตัวได้แก่ไก่สด +9.3%YoY อาหารทะเลกระป๋อง +10%YoY ผลไม้กระป๋อง +25%YoY เครื่องคอมพิวเตอร์ +104%YoY รถยนต์และอุปกรณ์ส่วนประกอบ +15%YoY วันนี้ประเมิน SET INDEX แกว่งในกรอบ 1070 – 1100 จุด ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนยังไม่แนะเพิ่มพอร์ตการลงทุนเพราะยังเผชิญหลายความเสี่ยงแต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนระยะสั้นอาจเลือก Trading ในหุ้นอิงต่างประเทศ อาทิ ส่งออก TU ITC หุ้นที่อิงรายได้ต่างประเทศ MINT กลุ่ม Defensive หุ้น BDMS