ก.ล.ต.จับตา ‘ดุสิต’ ตั้งผู้สอบบัญชี นำส่งงบการเงินตามกฎหมาย

กรณีผู้ถือหุ้นของ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT “ไม่อนุมัติ”  งบการเงินปี 2567 ถือเป็น “สัญญาณเตือน” โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างผู้ถือหุ้นใหญ่กับผู้บริหาร และอาจจะกลายเป็น “จุดเปลี่ยนสำคัญ” วงการตลาดหุ้นไทย เมื่อนักลงทุนต้องเผชิญกับปรากฏการณ์ “ผู้ถือหุ้นไม่อนุมัติงบการเงิน” ซึ่งถือเป็นเรื่องไม่ปกติสำหรับ “บริษัทจดทะเบียน” (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) 

สอดรับจากกรณีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น DUSIT เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2568 ที่ผ่านมา ซึ่งถูกเลื่อนมาจากการประชุมวันที่ 25 เม.ย.2568 โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติ “ไม่อนุมัติ” ใน 2 เรื่องหลัก คือ 1. การเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ออกตามวาระ จำนวน 4 คน กลับเข้าดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการต่อไปอีกวาระหนึ่ง และ 2. ไม่อนุมัติงบการเงินปี 2567

ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นไม่อนุมัติวาระเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ออกตามวาระกลับเข้าดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการต่อไปอีกวาระหนึ่ง รวมจำนวน 4 ราย ได้แก่ นายอาสา สารสิน, นางปราณี ภาษีผล, นายภควัต โกวิทย์วัฒนพงศ์ และนายสมประสงค์ บุญยะชัย นี่คือ การสะท้อนการสูญเสียความไว้วางใจในระดับ “ผู้บริหารสูงสุดของบริษัท”

ส่วนวาระงบการเงินปี 2567 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นไม่อนุมัตินั้น บริษัทจะดำเนินการนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป

สำหรับ ประเด็นที่ผู้ถือหุ้นมีมติ “อนุมัติ” คือ มีมติแต่งตั้งผู้สอบบัญชี “บริษัท เคพีเอ็มจี ภูมิไชย สอบบัญ ชี จำกัด” เป็นผู้สอบบัญชีของ DUSIT สำหรับรอบปีบัญชีปี 2568 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2568

นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ และโฆษก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า กรณี บมจ.ดุสิตธานี (DUSIT) ปัจจุบันทาง ก.ล.ต. มีการติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการอนุมัติการแต่งตั้ง “ผู้สอบบัญชี” เพื่อจัดทำ และนำส่งงบการเงินตามกฎหมาย ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นข้อมูลสำหรับผู้ลงทุนประกอบการตัดสินใจในการลงทุน

ส่วนประเด็นเรื่องการใช้สิทธิผู้ถือหุ้นในวาระต่างๆ นั้น ถือว่าเป็นดุลยพินิจการตัดสินใจของผู้ถือหุ้น ซึ่ง ก.ล.ต. จะติดตามเรื่องนี้ต่อไป 

อย่างไรก็ตาม บมจ.ดุสิตธานี ได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 เมื่อวันที่ 15 พ.ค.68 ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า บริษัทมีรายได้ 2,382 ล้านบาท เติบโต 10% จากปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 37 ล้านบาท ลดลง 32.7% จากช่วงเดียวกัน ถือเป็นภาพสะท้อนการ “ฟื้นตัว” หลังเปิดโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ 

ขณะที่ ราคาหุ้น DUSIT ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.2567 ที่หุ้น DUSIT ปิดที่ 10.60 บาท จนถึงวันที่ 5 มิ.ย.2568 ราคาหุ้นร่วงลงมาเหลือเพียง 7.25 บาท หรือลดลง 3.35 บาท คิดเป็น 31.6% สะท้อนแรงกดดันที่เกิดขึ้น ท่ามกลางกระแสข่าวต่างๆ 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์