เปิดตลาดดาวโจนส์ร่วง 400 จุด ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีนำเข้าจากอียู 50%

ซีเอ็นบีซี รายงานภาววะตลาดหุ้นวอลล์สตรีทช่วงเปิดตลาดวันศุกร์ (23 พ.ค.) ตามเวลานิวยอร์ก หุ้นร่วงลงเมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าสหภาพยุโรป และจากแอปเปิลอีกครั้ง สำหรับไอโฟนที่ผลิตในต่างประเทศ 

นอกจากนี้ ประธานาธิบดียังกล่าวอีกว่า การหารือด้านการค้ากับสหภาพยุโรป “ไม่มีความคืบหน้า” ดังนั้นเขาจึง “แนะนำให้เก็บภาษีนำเข้าจากสหภาพยุโรปโดยตรง 50% เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2025”

เปิดตลาด ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average ลดลง 413 จุด หรือ 1% ดัชนี S&P 500 ลดลง 1.2% และดัชนี Nasdaq Composite ลดลง 1.6% ราคาหุ้นแอลเปิลร่วงมากกว่า 2%

การประกาศของทรัมป์เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ความตึงเครียดเรื่องภาษีศุลกากรกำลังคลี่คลายลง ทรัมป์ได้ตั้งกำแพงภาษีกับประเทศต่างๆ ส่วนใหญ่ในโลกเมื่อเดือนเมษายน ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นสผันผวนหนักและเกือบทำให้ดัชนี S&P 500 เข้าสู่ภาวะตลาดหมี จากนั้นประธานาธิบดีก็หยุดการเรียกเก็บภาษีนำเข้าที่เข้มงวดที่สุดเป็นเวลา 90 วัน และวางแผนข้อตกลงเบื้องต้นกับสหราชอาณาจักรและจีน ทำให้หุ้นฟื้นตัว ดัชนี S&P 500 กลับมาเท่ากับปีที่แล้วในสัปดาห์ที่แล้ว

นักลงทุนต่างซื้อหุ้นจากการคาดการณ์ว่าจะมีข้อตกลงเพิ่มเติมกับประเทศต่างๆ ในช่วงเวลาพักสามเดือนนี้ การกระทำของทรัมป์เมื่อวันศุกร์อาจหมายความว่าความหวังนั้นสูญเปล่า

 “ตลาดได้รับแรงหนุนจากการผ่อนคลายความตึงเครียดนี้มาเป็นเวลาประมาณ 6 สัปดาห์แล้ว และตลาดได้ผ่านช่วง 6 สัปดาห์ที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในรอบ 75 ปีที่ผ่านมา และการใช้ถ้อยคำที่ปลุกปั่นสงครามการค้าก็คุกคามตลาดเช่นกัน ผมไม่คิดว่าเราจะทดสอบระดับต่ำสุดหรืออะไรทำนองนั้นอีกครั้ง เว้นแต่ว่ามันจะรุนแรงขึ้นจริงๆ แต่แน่นอนว่านี่เป็นก้าวที่ไปในทิศทางที่ผิดจากมุมมองของตลาด” รอส เมย์ฟิลด์ นักกลยุทธ์การลงทุนของ Baird กล่าวในการสัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซี

ก่อนที่ตลาดจะร่วงลงในวันศุกร์ ค่าดัชนีหลักๆ ต่างก็ติดลบไปแล้วในสัปดาห์นี้ โดยผลตอบแทนพันธบัตรที่พุ่งสูงขึ้นทำให้บรรดานักลงทุนกังวล S&P 500 ลดลง 2% จนถึงวันปิดตลาดวันพฤหัสบดี Dow มีแนวโน้มลดลงประมาณ 1.9% ในขณะที่ Nasdaq มีแนวโน้มลดลง 1.5% สัปดาห์นี้

ในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้อนุมัติร่างกฎหมายลดหย่อนภาษีครั้งใหญ่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตอนนี้เข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาแล้ว ความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนของมาตรการดังกล่าว และผลกระทบต่อหนี้และการขาดดุลงบประมาณของประเทศ  ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวสูงขึ้น

• บอนด์ยีลด์ขึ้นเหนือ 5%

ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี พุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 5.161% ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี พุ่งทะลุ 4.6% ในช่วงหนึ่ง ผลตอบแทนทั้งสองลดลงเล็กน้อยในวันศุกร์

ความกลัวเกี่ยวกับเศรษฐกิจเกิดขึ้น หลังจากที่มูดี้ส์ปรับลดระดับเครดิตของสหรัฐฯ เมื่อเกือบหนึ่งสัปดาห์ที่แล้ว บริษัทจัดอันดับเครดิตได้ปรับลดอันดับเครดิตของรัฐบาลลงหนึ่งขั้นจาก Aaa เป็น Aa1 โดยชี้ให้เห็นถึงการขาดดุลงบประมาณที่พุ่งสูงขึ้นของรัฐบาลและต้นทุนในการต่ออายุหนี้ที่มีอยู่

ผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้นบางส่วนเนื่องมาจากสงครามการค้าของทรัมป์ โดยมีความกลัวว่าอัตราเงินเฟ้ออาจฟื้นตัวขึ้นจากภาษีใหม่สำหรับสินค้านำเข้า หุ้นเทคโนโลยีอื่นๆ ร่วงลงในช่วงก่อนเปิดตลาดพร้อมกับ Apple โดย Micron และ Qualcomm ร่วงลงมากกว่า 2.5% หุ้น Nvidia ร่วงลง 3%