หุ้นไทยเปิดเช้านี้บวก 5.05 จุด นักลงทุนต่างชาติทยอยซื้อเพิ่ม มองกรอบ 1,170- 1,190 จุด

หุ้นไทยเปิดเช้านี้บวก 5.05 จุด นักลงทุนต่างชาติทยอยซื้อเพิ่ม มองกรอบ 1,170- 1,190 จุด

หุ้นไทยภาคเช้า ณ วันที่ 23 พ.ค.2568 บวก 5.05 จุด หรือ 0.43% หรืออยู่ที่ 1,178.42.67 จุด นักวิเคราะห์เผย วันนี้ มีโอกาส technical rebound ในระยะสั้น หลังนักลงทุนต่างชาติทยอยซื้อ มองกรอบ 1,170- 1,190 จุด

ความเคลื่อนไหว "หุ้นไทย" ภาคเช้า ณ วันที่ 23 พ.ค.2568 เวลา 10.00 น. บวก 5.05 จุด หรือ 0.43% หรืออยู่ที่ 1,178.42.67 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1,490.55 ล้านบาท

วีระวัฒน์  วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์  บล. ฟินันเซีย ไซรัส เปิดเผยว่า SET Index มีโอกาส technical rebound อ่อนๆ ในระยะสั้นหลังจากปรับลงติดต่อกันหลายวัน และนักลงทุนต่างชาติยังซื้ออยู่ โดยมองกรอบ 1,170- 1,190 จุด กลุ่มน้ำมันและพลังงานอาจช่วยประคองตลาดได้หลังราคาน้ำมันดิบโลกขยับบวกหลัง OPEC+ วางแผนเพิ่มการผลิต

หุ้นไทยเปิดเช้านี้บวก 5.05 จุด นักลงทุนต่างชาติทยอยซื้อเพิ่ม มองกรอบ 1,170- 1,190 จุด

ส่วนภาพดลาดหุ้นระยะกลางยังมองซึมลง ตลาดโดยรวมยังไร้ปัจจัยใหม่ ไม่ว่าเป็นการเจรจาการค้ากับประเทศต่างๆ ที่คืบหน้าช้า ขณะเดียวไตรมาส 2/68 กันเข้าสู่ฤดู low season ของหลายธุรกิจรวมถึงภาคท่องเที่ยว และกำลังซื้อในประเทศที่อ่อนแรง เน้นเลือกหัน Defensive ที่มีแนวโน้มกำไรแข็งแกร่งและมั่นคง โดยเฉพาะสินคำบริการจำเป็นที่ราคายัง Laggard มีแนวโน้มทนต่อความผันผวนของตลาดได้ดีกว่า

สำหรับกลยุทธ์ยังเน้น Selective Buy หุ้นที่มีแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/68 ถึงปี 2568 แข็งแกร่งและโดยเน้นกลุ่มสินคำและบริการจำเป็นท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ

วิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้ผ่านร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณฉบับสำคัญของทรัมป์ (One Big Beautiful Bill) โดยมีเป้าหมายเพื่อลดแรงกระแทกต่อการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เนื่องจากกำลังเผชิญกับการขึ้นภาษีนำเข้าครั้งใหญ่ แต่อีกด้านหนึ่งก็จะเป็นการเพิ่มการขาดดุลงบประมาณปีละหลายแสนล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจมีผลต่อเสถียรภาพทางการคลังในระยะกลางถึงยาว โดยกระบวนการในช่วงถัดไปจะส่งไปให้กับวุฒิสภาพิจารณาต่อ ไม่เกินวันที่ 4 ก.ค. นี้

อย่างไรก็ดี ภาพระยะสั้นยังได้แรงพยุงจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่วานนี้ออกมาดีกว่าคาด เช่น US PMI ภาคการผลิต พ.ค. ที่ขึ้นสู่ 52.3 จาก 50.2 สวนคาดที่ 49.9 จุด เช่นเดียวกับภาคบริการที่ 52.3 เร่งขึ้นจาก 50.8 ในเดือนเม.ย. และดีกว่าคาดที่ 51.0 จุด รวมไปถึงตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ 2.27 แสนราย ลดลงจาก 2.29 แสนรายในสัปดาห์ก่อน และต่ำคาดที่ 2.3 แสนราย  

ส่วนตลาดน้ำมันยังมีแรงกดดันระยะสั้นจากความกังวลประชุม OPEC+ 1 มิ.ย. นี้มีโอกาสจะปรับเพิ่มกำลังการผลิตเดือน ก.ค. อีก 4.11 แสนบาร์เรลต่อวัน ถือเป็นระดับที่สูงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ดังนั้นการลงทุนในช่วงนี้อาจจะต้องเพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น

หุ้นแนะนำวันนี้ OSP คาดผลประกอบการยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยอัตรากำไรขั้นต้นยืนได้ที่ระดับ 40% การควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และราคาต้นทุนวัตถุดิบลดลงผสานส่วนแบ่งการตลาดในเดือน เม.ย. ที่เพิ่มขึ้น +0.6%m-m สู่ระดับ 45% เป็นปัจจัยหนุน ขณะที่ Valuation เทรดเพียง PE 14.5 ผสานอัตราปันผลที่ 6.6% ต่อปี น่าทยอยสะสม ราคาเป้าหมาย 21.00 บาท