หุ้นไทยเปิดเช้านี้ บวก 4.90 จุด แรงหนุนหุ้น PTTEP หลังราคาน้ำมันดิบโลกปรับขึ้น

ความเคลื่อนไหว "หุ้นไทย" ภาคเช้า ณ วันที่ 21 พ.ค.2568 เวลา 10.00 น. บวก 4.90 จุด หรือ 0.41% หรืออยู่ที่ 1,194.04 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4,513.36 ล้านบาท
 

กรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ตลาดเช้านี้แนวรับ และแนวต้านอยู่ที่ 1185 -1200 จุด หลังจากที่วานนี้ มาตรการ คุณสู้ เราช่วย ที่จะมีต่อ และได้ยกเลิกการแจกเงินเฟส 3 เพื่อไปลงทุนโครงสร้างพื้นฐานประมาณ มูลค่า 1.57 แสนล้านบาท จึงทำให้วันนี้ กลุ่ม Domestic และกลุ่มแบงก์ ปรับตัวขึ้นมา รวมถึงหุ้นสื่อสาร

ขณะที่ ราคาน้ำมันเช้านี้ดีดขึ้น ส่งผลให้หุ้นน้ำมันก็ปรับตัวขึ้นมาด้วย จากการเจรจาของสหรัฐและอิหร่านอาจจะสะดุดลงไปบ้างในการเจรจา ทำให้ PTTEP ปรับตัวขึ้นมา 3% ดังนั้นในวันนี้ นักลงทุนไม่ควรเข้าไปซื้อราคาเพื่อไล่ราคาหุ้น ทรัพย์แห่งประเทศไทย PTTEP  เนื่องจากน้ำมันมีความผันผวนมาก 

แนะนำ หุ้น KBANK วันนี้ปรับตัวย่อลงมา หลังจากที่วานนี้ปรับตัวขึ้นมาเยอะ และเชื่อว่า GULF น่าจะเข้ามาเพิ่มสัดส่วน  
 
วิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯเริ่มย่อตัว หลังปรับขึ้น 6 วันติดต่อกัน โดยแรงกดดันระยะสั้นมาจากความกังวลต่อการเจรจางบประมาณของสหรัฐฯ และการที่พรรครีพับลิกันพยายามจะผลักดันร่างกฎหมายลดภาษีขนาดใหญ่ให้ผ่าน ซึ่งอาจส่งผลต่อภาระหนี้ของรัฐบาล โดยปัจจัยเหล่านี้ก็เป็นประเด็นให้ มูดี้ส์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรสหรัฐฯจากระดับ Aaa ลงสู่ Aa1 ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยล่าสุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 4.97% (+7bps) 

ส่วนด้านราคาน้ำมันดิบโลกล่าสุดปรับขึ้น หลังจากรายงานของ CNN ระบุว่า หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ เชื่อว่า อิสราเอลกำลังเตรียมการสำหรับความเป็นไปได้ในการโจมตีศูนย์นิวเคลียร์ของอิหร่าน

ขณะที่ประชุม ครม. มีมติอนุมัติการโอนงบประมาณ 1.57 แสนล้านบาท ซึ่งเดิมจัดสรรไว้สำหรับโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ไปใช้ใน 4 โครงการหลักเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและวางรากฐานการพัฒนาประเทศในระยะยาว นำโดย 1) โครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำและคมนาคม 2) การพัฒนาท่องเที่ยว 3) ลดผลกระทบภาคการส่งออกและเพิ่มผลิตภาพ และ 4) พัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ซึ่งคาดโครงการเหล่านี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว

ดังนั้นคาดเป็นบวกต่อ กลุ่มธนาคาร, รับเหมาฯ, ส่งออก และท่องเที่ยว ขณะที่อาจเป็นจิตวิทยาลบต่อกลุ่มค้าปลีก วันนี้ “Sideways” ในกรอบ 1180-1200 จุด 

หุ้นแนะนำ OSP แนวโน้มธุรกิจยังเติบโตดี โดยกำไรไตรมาส 1/68 เติบโตเด่นตามคาด ผสานการบริหารจัดการผลิตได้ดี ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นยืนได้ดี ด้านส่วนแบ่งการตลาด ในแง่ Volume เดือนเมษายน ขึ้นสู่ระดับ 30.5% จากมีนาคม ที่ 29.9% ขณะที่ Valuation อยู่ในระดับที่ไม่แพง โดยเทรดเพียง PE 15 เท่า อยู่ในระดับที่น่าทยอยสะสม ราคาเป้าหมาย 21 บาท