หุ้นไทยเปิดเช้านี้ร่วง 6.22 จุด ติดตามรายงาน GDP ไทย หลังความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำสุดรอบ 7 เดือน

หุ้นไทยภาคเช้า ณ วันที่ 19 พ.ค.2568 ร่วง 6.22 จุด หรือ 0.52% หรืออยู่ที่ 1,189.55 จุด นักวิเคราะห์เผย วันนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญทั้ง GDP ไทย คาดปัจจัยหลักกดดันมาจากการลงทุนภาคเอกชนที่อ่อนแอ การบริโภคภายในประเทศที่ยังซบเซา โดยมีสัญญาณการความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยล่าสุดที่ทำระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน กลยุทธ์แนะยังคงมองจังหวะย่อตั้งรับหุ้นพื้นฐานดี หุ้นแนะนำ “GULF”
ความเคลื่อนไหว "หุ้นไทย" ภาคเช้า ณ วันที่ 19 พ.ค.2568 เวลา 10.02 น. ร่วง 6.22 จุด หรือ 0.52% หรืออยู่ที่ 1,189.55 จุด มูลค่าการซื้อขาย 2,480.36 ล้านบาท
วิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า วันนี้ติดตามรายงาน GDP ไตรมาส 1/68 ของไทย โดยตลาดคาด +2.9%y-y ลดจาก 4Q24 ที่ +3.2%y-y โดยคาดปัจจัยหลักที่กดดันมาจากการลงทุนภาคเอกชนที่อ่อนแอ การบริโภคภายในประเทศที่ยังซบเซา โดยมีสัญญาณการความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยล่าสุดที่ทำระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน นอกจากนี้ภาคการท่องเที่ยวก็ทำได้ต่ำกว่าคาดในช่วงต้นปีเช่นกัน จึงอาจมีการปรับประมาณการ GDP ลงได้อีก และติดตามตัวเลขจีน
ขณะที่ ผ่านช่วงการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 1/68 ซึ่งอยู่ที่ 2.6 แสนล้านบาท ปรับขึ้นทั้ง q-q และ y-y โดยหากพิจารณาเฉพาะบริษัทที่ตลาดมีการคาดการณ์ใน Bloomberg consensus จะพบว่ามีทั้งสิ้น 158 บริษัท จากกว่า 700 บริษัท แต่ Market cap รวมของทั้ง 158 บริษัท คิดเป็น 83% ของ SET Market cap จึงถือว่าเป็นตัวแทนของตลาดได้
โดยพบว่า 43.0% ทำได้ดีกว่าตลาดคาด ส่วน 34.2% ออกมาใกล้เคียงกับคาด ขณะที่มีเพียง 22.8% ที่ต่ำกว่าตลาดคาด ส่งผลให้กำไรรวมดีกว่าตลาดคาดราว 6% โดยกลุ่มอุตสาหกรรมทีดีกว่าคาด เช่น อาหาร, โรงไฟฟ้า, โรงกลั่น, สื่อสาร, รับเหมาฯ และ นิคมอุตสาหกรรม
ส่วนกลุ่มต่ำคาด เช่น โรงพยาบาล, อสังหาฯ, เครื่องดื่ม และร้านอาหาร ส่วนด้านการปรับประมาณการกำไรพบว่าตลาดมีการปรับลดกำไรตลาดลงมาราว 3% เทียบกับช่วงก่อนรายงานกำไร กลาง เม.ย. แต่ Valuation อยู่ในระดับที่ไม่แพง จึงเห็นดัชนีปรับตัวขึ้นในช่วงรายงานงบกว่า +7% วันนี้ “Sideways” ในกรอบ 1185-1220 จุด
หุ้นแนะนำวันนี้ GULF แนวโน้มธุรกิจแข็งแกร่ง โดยเป็น Holding ที่ครอบคลุมทั้งธุรกิจพลังงาน, โครงสร้างพื้นฐาน และธุรกิจดิจิตอล (Data center, Cloud, AI) โดยคาดกำไรปีนี้จะเติบโตราว +15% ฐานะการเงินแข็งแกร่งหลังจากควบรวมกับ INTUCH ส่งผลให้ D/E ratio ลดลงสู่ ระดับ 0.8 เท่า จากเดิมที่ 1.8 เท่า ผสานศักยภาพการเติบโตในอนาคตยังมีต่อเนื่อง ราคาเป้าหมาย 60 บาท







