S&P 500 ปิดตลาดสูงขึ้น ลบการสูญเสียในปี 2025 เข้าสู่แดนบวก

S&P 500 ปิดตลาดสูงขึ้น ลบการสูญเสียในปี 2025 เข้าสู่แดนบวก

ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดในระดับสูงในวันอังคาร ลบล้างการสูญเสียในปี 2025 ออกไปได้ ขณะที่ราคาหุ้น Nvidia พุ่งสูงขึ้นนำหุ้นปัญญาประดิษฐ์ รับข่าวดีลทรัมป์กับซาอุดีอาระเบีย

บลูมเบิร์ก/ซีเอ็นบีซี รายงานภาวะตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเมื่อคนที่ผ่านมาว่า ดัชนี S&P 500 ปรับตัวสูงขึ้นในวันอังคาร (13 พ.ค.) โดยดีดตัวกลับเข้าสู่แดนบวกสำหรับปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง หลังจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่คลี่คลายลง

ดัชนีตลาดรวม S&P 500 ปรับเพิ่มขึ้น 0.72% ปิดที่ 5,886.55 ขณะที่ Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 1.61% ปิดที่ 19,010.08 แต่ดัชนีดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average ร่วงลง 269.67 จุด หรือ 0.64% เนื่องจากราคาหุ้นของ UnitedHealth ลดลงเกือบ 18% กดดันดัชนีอ้างอิง

ราคาหุ้นของ Nvidia พุ่งขึ้น 5.6% เมื่อมีข่าวว่าบริษัทจะส่งชิปปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง 18,000 ชิ้นไปยังซาอุดีอาระเบีย หุ้นชิปของคู่แข่งปรับตัวสูงขึ้นควบคู่ไปกับหุ้น AI โดย Broadcom ปรับตัวสูงขึ้นเกือบ 5% และ AMD ปรับตัวสูงขึ้น 4%

ตลาดถีบตัวสูงขึ้นในวันอังคารทำให้ดัชนี S&P 500 ปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 0.1% สำหรับปี 2025 ในบางจุดดัชนีปรับตัวลดลงมากกว่า 17% สำหรับปีนั้น เนื่องจากความตึงเครียดด้านการค้าทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อหุ้นลดน้อยลง

อย่างไรก็ตาม วอลล์สตรีทคึกคักขึ้นหลังจากที่สหรัฐฯ และจีนตกลงที่จะหยุดการขึ้นภาษีเป็นเวลา 90 วันเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ข่าวดังกล่าวส่งผลให้หุ้นพุ่งสูงขึ้นในวันจันทร์ โดยดัชนีดาวโจนส์พุ่งสูงขึ้นมากกว่า 1,000 จุด

“เมื่อรวมข่าวการค้า เข้ากับข้อตกลงชิปจำนวนมหาศาลที่จะส่งไปยังซาอุดีอาระเบีย อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงจะทำให้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยใกล้เข้ามา และรายละเอียดที่สำคัญของการปรับลดภาษี คุณจะได้เห็นตลาดเปิดรับความเสี่ยงอย่างเต็มที่” เจมี ค็อกซ์ ผู้จัดการหุ้นส่วนของ Harris Financial Group กล่าว

ขณะที่ทำเนียบขาวประกาศซาอุอาระเบียจะลงทุนมูลค่า 600,000 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ เมื่อวันอังคารในระหว่างการเยือนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ 

อัตราเงินเฟ้อต่ำหนุนเสริมตลาดหุ้น

ข้อมูลเงินเฟ้อที่เผยแพร่ในช่วงเช้าของวันอังคารซึ่งออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้หนุนตลาด

ดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งเป็นตัวชี้วัดต้นทุนสินค้าและบริการในเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยรวม เพิ่มขึ้น 2.3% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนเมษายน นักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดยบริษัทดาวโจนส์ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่อัตรา 2.4% ในเดือนที่แล้วเมื่อเทียบเป็นรายปี

“และความกลัวคู่ขนานของตลาด ซึ่งได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดจากภาษีศุลกากรและอัตราเงินเฟ้อที่ตึงตัว ก็บรรเทาลงอย่างมาก” คริส แซกคาเรลลี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Northlight Asset Management กล่าว “เรายังคงกังวลว่าราคาหุ้นแพงและการกระจุกตัวของตลาดยังคงเป็นความเสี่ยงต่อราคาหุ้นที่สูงขึ้นมากในปีนี้ แต่ในระยะสั้น ตลาดน่าจะชอบข้อมูลนี้และเฉลิมฉลองข้อตกลงการค้ากับจีน ต่อไปเหมือนเช่นเมื่อวานนี้"