THAI กำไร Q1/68 ที่9,839 ลบ. พุ่ง 306.1% อัตราผู้โดยสารเท่าเดิม 83.3%
THAI โชว์กำไร Q1/68 พุ่ง 306 % ที่ 9,839 ล้านบาท ตามแผนฟื้นฟูกิจการทำ รายได้หลักโต 12 % อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารเท่าเดิมอยู่ที่ 83.3%
KEY
POINTS
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 รายได้รวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) จํานวน 51,625 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5,670 ล้านบาท (12.3%) มีรายได้จากค่าโดยสารและค่าน้ำหนักส่วนเกิน เป็นรายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทฯ คิดเป็นร้อยละ 83.7 ของรายได้รวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นคร้ังเดียว) มีจํานวน 43,219 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4,702 ล้านบาท (12.2%)
ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.8 ปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯ มีการเพิ่มจํานวนเที่ยวบิน โดยได้กลับมาให้บริการ ในเส้นทางยุโรป ได้แก่ ออสโล มิลาน บรัสเซลล์ และเส้นทางออสเตรเลีย ได้แก่ เพิร์ท อีกทั้งมีการปรับเพิ่มความถี่ เที่ยวบินในเส้นทางภูมิภาคเอเชีย เพื่อรองรับปริมาณความต้องการเดินทางของผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น
อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารอยู่ที่ 83.3% ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ 83.5% จาก การปรับเครือข่ายเส้นทางบินที่เหมาะสม รวมทั้งการสรา้งพันธมิตรผ่านการทํารหัสเที่ยวบินร่วม (Codeshare)
บริษัทฯ และบริษัทย่อยรับรู้ต้นทุนทางการเงิน (ซึ่งเป็นการรับรู้ต้นทุนทางการเงินตามมาตรฐานการรายงาน ทางการเงินฉบับที่ 9: TFRS 9) จํานวน 3,481 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,127 ล้านบาท (24.5%) และมีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิเป็นค่าใช้จ่ายรวม 339 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจากรายการขาดทุนจากการ ด้อยค่าของสินทรัพย์ ขาดทุนจากการด้อยค่าซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 9 และขาดทุน จากการวัดมูลค่าจากตราสารอนุพันธ์
อย่างไรก็ตาม มีกําไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ส่งผลให้ไตรมาส ที่ 1 ปี 2568 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกําไรสุทธิจํานวน 9,839 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7,416 ล้านบาท (306.1%) โดยเป็นกําไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 9,832 ล้านบาท คิดเป็นกําไรต่อหุ้น 0.35 บาท ลดลง จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทฯ มีกําไรต่อหุ้น 1.10 บาท เนื่องจากจํานวนหุ้นสามัญของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจากการ ปรับโครงสร้างทุนภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการ
โดยมี EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าเครื่องบิน รวมค่าเช่าเครื่องบินที่คํานวณจากการใช้เครื่องบินที่เกิดขึ้นจริง (Power by the Hour) จํานวน 12,728 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,103 ล้านบาท (8.0%)