S&P 500 , Nasdaq ปิดบวกเป็นวันที่สาม หุ้นเทคฯหนุน เจรจาการค้าคืบ

ซีเอ็นบีซี รายงานภาวะตลาดหุ้นวอลล์สตรีทวันพฤหัสบดี(24 เม.ย.)  หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาไทยว่า หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวสูงขึ้นในวันพฤหัสบดี เนื่องจากหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก ขณะที่นักลงทุนยังคงมองหาสัญญาณความคืบหน้าในทิศทางการค้าโลก

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 5,484.77 จุด เพิ่มขึ้น 2.03% ขณะที่ดัชนี Nasdaq Composite

ซึ่งเน้นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.74% ปิดที่ 17,166.04 จุด ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average ตามหลังดัชนีสองตัว ถ่วงโดยราคาหุ้น IBM ลดลง 6.6%

แต่ดาวโจนส์ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น 486.83 จุด หรือ 1.23% ปิดที่ 40,093.40 จุด ดัชนีบลูชิปปิดตลาดเหนือระดับ 40,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน

หุ้นเทคดันตลาดขึ้น

ราคาหุ้นของ Nvidia, Meta, Amazon, Tesla และ Microsoft ต่างก็ปิดตลาดสูงขึ้น

ส่งผลให้ดัชนีหลักปรับตัวขึ้นเป็นวันที่สามติดต่อกัน หุ้นเทคโนโลยีได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงนี้ เนื่องจากท่าทีทางการค้าที่เผชิญหน้ากันมากขึ้นของทำเนียบขาว โดยเฉพาะกับจีน ส่งผลให้ความเชื่อมั่นต่อภาคส่วนนี้ลดลง

จีนปฏิเสธข่าวเจรจากับสหรัฐ

จีนออกมาแถลงเมื่อคืนนี้ว่าไม่มีการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน เหอ หยาตง กล่าวว่า "คำพูดทั้งหมด" เกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาทวิภาคีนั้น ไม่ควรเชื่อ นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้ยกเลิกภาษี "ฝ่ายเดียว" ของสหรัฐ อีกด้วย

ความเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าเขายินดีที่จะใช้แนวทางการเผชิญหน้ากันน้อยลงในการเจรจาการค้ากับปักกิ่ง นอกจากนี้ สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวเมื่อวันพุธว่าสหรัฐฯ มี "โอกาสสำหรับข้อตกลงใหญ่" ในด้านการค้า สินค้าที่นำเข้าจากจีน  ทรัมป์ตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าจีนสูงถึง 145%

เนื่องจากการเจรจาการค้ากับจีนยังไม่มีความคืบหน้า รอสส์ เมย์ฟิลด์ นักวิเคราะห์การลงทุนจากกลุ่มบริการด้านการเงิน Baird จึงระมัดระวังการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นในวันพฤหัสบดีนี้

เขาให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซี ว่า "ผมไม่ไว้ใจความเคลื่อนไหวดังกล่าว" "เมื่อคืนนี้ จีนค่อนข้างชัดเจนว่าไม่มีการเจรจาใดๆ เกิดขึ้น อาจเป็นไปได้ว่าตลาดยังคงรู้สึกมั่นใจอยู่บ้างว่าอย่างน้อยฝ่ายบริหารก็กำลังพูดถึงความต้องการทำข้อตกลง แทนที่จะยืนกรานแข็งกร้าวและขึ้นภาษีนำเข้าในอัตราที่สูงเกินจริง อาจยังมีความหวังเล็กๆ น้อยๆ จากเมื่อวานอยู่บ้าง"

สหรัฐคาดบรรลุข้อตกลงกับเกาหลีใต้สัปดาห์หน้า

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนได้รับข่าวดีในช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี เมื่อสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่าฝ่ายบริหารของทรัมป์อาจบรรลุ "ข้อตกลงความเข้าใจ" เกี่ยวกับการค้ากับเกาหลีใต้ "ในสัปดาห์หน้า"

ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 3.3% ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน ซึ่งเป็นวันที่ทรัมป์ประกาศนโยบายใหม่เกี่ยวกับสินค้าที่นำเข้าจากสหรัฐฯ ตั้งแต่นั้นมา ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 5.1% ในขณะที่ดัชนีแนสแด็กร่วงลง 2.5%

ขณะนี้ดัชนีหลักกำลังเคลื่อนไหวเพื่อปิดสัปดาห์ในแดนบวก ซึ่งถือเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกันจากสามสัปดาห์สำหรับดัชนีทั้งสาม