เบสเซนต์ รมว.คลังสหรัฐ อ้าง จีน - สหรัฐมี "โอกาสทำข้อตกลงใหญ่"

เบสเซนต์ รมว.คลังสหรัฐ อ้าง จีน - สหรัฐมี "โอกาสทำข้อตกลงใหญ่"

รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ สก็อตต์ เบสเซนต์ กล่าวเมื่อวันพุธว่า "มีโอกาสทำข้อตกลงใหญ่" ในประเด็นการค้าระหว่างสหรัฐ และจีน แต่เรียกร้องธนาคารโลกหยุดให้เงินกู้จีน

ซีเอ็นบีซี รายงานว่า รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ สก็อตต์ เบสเซนต์ กล่าวเมื่อวันพุธ (23 เม.ย.68) ว่า "มีโอกาสทำข้อตกลงใหญ่ที่นี่" ในประเด็นการค้าระหว่างสหรัฐ และจีน แต่เรียกร้องให้ธนาคารโลกหยุดการปล่อยเงินกู้ให้กับจีน

"หากพวกเขาต้องการที่จะปรับสมดุลใหม่ เราก็มาทำมันด้วยกัน" เบสเซนต์ กล่าวระหว่างปรากฏตัวที่การประชุมสถาบันการเงินระหว่างประเทศในวอชิงตัน ดี.ซี.

"นี่เป็นโอกาสที่เหลือเชื่อ ผมคิดว่าหากเรย์ ดาลิโอ ผู้ก่อตั้งบริดจ์วอเตอร์ เขียนอะไรบางอย่าง เขาคงเรียกมันว่าเป็นการปรับสมดุลใหม่ที่สวยงาม"

เขาอ้างถึง ดาลิโอ เจ้าพ่อกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ที่เคยออกมาวิพากษ์วิจารณ์นโยบายภาษีของทรัมป์อย่างรุนแรง

ดาลิโอ กล่าวกับเอ็นบีซี นิวส์เมื่อวันที่ 13 เมษายน ว่าเขากังวลว่าภาษีศุลกากร และนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจคุกคามเศรษฐกิจโลก ซึ่งอาจถึงจุดที่ "เลวร้ายกว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอย"

ทรัมป์ได้ตั้งกำแพงภาษีศุลกากรจีนในอัตราสูงถึง 145%  และไม่นานก่อนที่เบสเซนต์จะพูดในวันพุธ หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานว่ารัฐบาลทรัมป์กำลังพิจารณาลดภาษีดังกล่าวลงเหลือระหว่าง 50- 65% ซึ่งยังคงสูงมาก

เสนอปฏิรูปธนาคารโลก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ

ในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อ สถาบันการเงินระหว่างประเทศ  (Institute of International Finance: IIF) เบสเซนต์ได้สรุปสิ่งที่เขาเรียกว่า "พิมพ์เขียวเพื่อฟื้นฟูสมดุลของระบบการเงินโลก และสถาบันที่ออกแบบมาเพื่อรักษาสมดุลนั้น" โดยเฉพาะอย่างยิ่งธนาคารโลก (World Bank) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF)

เบสเซนต์ กล่าวว่า "ไอเอ็มเอฟ และธนาคารโลกมีคุณค่าที่ดี แต่การขยายขอบเขตภารกิจได้ทำให้สถาบันเหล่านี้หลงทาง เราต้องดำเนินการปฏิรูปที่สำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าสถาบันเบรตตันวูดส์ ให้บริการแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของตน ไม่ใช่ในทางกลับกัน"

เขากล่าวว่า “การเลือกนโยบายโดยเจตนาของประเทศอื่นๆ ได้ทำให้ภาคการผลิตของอเมริกากลวง และทำให้ห่วงโซ่อุปทานที่สำคัญของเราอ่อนแอลง ซึ่งทำให้ความมั่นคงทั้งในระดับชาติ และเศรษฐกิจของเราอยู่ในความเสี่ยง”

"ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ดำเนินการอย่างแข็งขันเพื่อแก้ไขความไม่สมดุลเหล่านี้ และผลกระทบเชิงลบที่มีต่อชาวอเมริกัน “สภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบันซึ่งเต็มไปด้วยความไม่สมดุลขนาดใหญ่ และต่อเนื่องนี้ไม่สามารถยั่งยืนได้ ไม่ยั่งยืนสำหรับสหรัฐอเมริกา และท้ายที่สุดแล้ว ก็ไม่ยั่งยืนสำหรับเศรษฐกิจอื่นๆ”

เบสเซนต์ ได้เรียกร้องให้ธนาคารโลกหยุดให้เงินกู้แก่ประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ก้าวหน้า รวมถึงจีน เขาแนะนำว่าธนาคารควรหยุดให้เงินกู้แก่จีน

“ธนาคารโลกยังคงให้เงินกู้ทุกปีแก่ประเทศที่ผ่านเกณฑ์ในการเลื่อนสถานะออกจากการกู้ยืมจากธนาคารโลก” เบสเซนต์ กล่าว

“ไม่มีเหตุผลใดที่จะปล่อยกู้ต่อไป เพราะเป็นการดึงทรัพยากรจากสิ่งที่มีความสำคัญสูงกว่า และเบียดบังการพัฒนาตลาดเอกชน นอกจากนี้ยังลดแรงจูงใจของประเทศต่างๆ ที่จะเลิกพึ่งพาธนาคารโลก และหันมาเติบโตโดยภาคเอกชนที่มีการจ้างงานสูง และร่ำรวย”

เรียกร้องให้ธนาคารโลกหยุดปล่อยกู้ให้จีน

เบสเซนต์ กล่าวเสริมว่า “ในอนาคต ธนาคารจะต้องกำหนดกรอบเวลาการเลื่อนผ่านระดับชั้นการพัฒนาที่ชัดเจนสำหรับประเทศต่างๆ ที่ผ่านเกณฑ์การพัฒนามานานแล้ว การปฏิบัติต่อจีนซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกในฐานะ ‘ประเทศกำลังพัฒนา’ ถือเป็นเรื่องไร้สาระ

“ในขณะที่การเติบโตของจีนได้ทำให้หลายตลาดในตะวันตกต้องได้รับผลกระทบ แต่การขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และน่าประทับใจของจีนก็เป็นที่ชัดเจน” เขากล่าว “หากจีนต้องการมีบทบาทในเศรษฐกิจโลกที่สอดคล้องกับความสำคัญที่แท้จริงของตน ประเทศนี้จำเป็นต้องเลื่อนสถานะขึ้น และเรายินดีต้อนรับเรื่องนั้น”

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์