หุ้น ‘เอเชีย’ เปิดตลาดดิ่ง ร่วงตาม ‘แนสแด็ก’ ทำผลงานแย่สุดในรอบ 3 ปี

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานความเคลื่อนไหวตลาดหุ้น “เอเชีย” วันนี้ (11มี.ค.68) เปิดตลาดร่วงลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน  หลังจากที่นักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐเทขายหุ้น กดดันดัชนี Nasdaq 100 ทำผลงานแย่ที่สุดในรอบกว่า 3 ปี ซึ่งเกิดจากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายภาษีศุลกากรและความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะ “ถดถอย”

ญี่ปุ่น

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นได้รับผลกระทบหนักที่สุดในภูมิภาค โดยดัชนี Nikkei 225 ปรับตัวลดลงมากกว่า 2%   ขณะที่ดัชนี Topix  ปรับตัวลดลง 1.57% โดยญี่ปุ่นได้ปรับปรุงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่นสำหรับไตรมาสที่ 4 เป็น 2.2%  ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้และต่ำกว่าตัวเลขประมาณการครั้งก่อนที่ 2.8%

เกาหลีใต้

ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้ปรับตัวลดลง 1.78% ในขณะที่ดัชนี Kosdaq  ปรับตัวลดลงมากกว่า  2.11%

ฮ่องกง

ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงเปิดตลาดลดลง -2.14% หรือ -508.63 จุด มาอยู่ที่ระดับ  23,274.86 จุด

 Nasdaq   ทำผลงานแย่สุดในรอบ 3 ปี

เมื่อคืนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงอย่างหนัก ท่ามกลางความวิตกกังวลว่านโยบายภาษีศุลกากรของประธานาธิบดี “โดนัล ทรัมป์” อาจเป็นตัวผลักดันให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะ “ถดถอย”

ดัชนี S&P 500 ลดลง 2.7% และร่วงลงไปแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา 

ส่วนดัชนี Nasdaq Composite ในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้รับผลกระทบหนักที่สุดโดยดิ่งลงถึง 4% ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลดลงที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2022 

ในขณะที่ดัชนี Dow Jones Industrial Average ลดลง 2.08% ปิดตลาดที่ระดับ 41,911.71 จุด