หุ้นไทยเปิดเช้าบวก 8.57 จุด เด้งตามตลาดภูมิภาค ทรัมป์ส่งผ่อนคลายภาษี แคนาดา-เม็กซิโก

หุ้นไทยเปิดเช้าอยู่ที่ 1,186.21 จุด บวก 8.57 จุด หรือบวก 0.73% มูลค่าการซื้อขาย 2,053.27 ล้านบาท เด้งตามตลาดภูมิภาค ทรัมป์ส่งผ่อนคลายภาษี แคนาดา-เม็กซิโก โบรก แนะยังเสี่ยง ความไม่แน่อนสูง นักลงทุนรับความเสี่ยงได้น้อยชะลอการลงทุนไปก่อน
ความเคลื่อนไหว "หุ้นไทย" วันนี้ ณ วันที่ 5 มี.ค.2568 เปิดตลาดอยู่ที่ 1,186.21 จุด บวก 8.57 จุด หรือบวก 0.73% มูลค่าการซื้อขาย 2,053.27 ล้านบาท
อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล. ทิสโก้ ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ตลาดหุ้นไทยปรับบวกขึ้นมาได้วันนี้ หลังจากที่เริ่มมีความหวังจากการเจรจาการค้า หลังจากรัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐ ได้กล่าวกับ Fox News ว่า ทรัมป์ อาจจะมีการผ่อนคลายการขึ้นภาษี แคนาดา กับเม็กซิโก ในเร็ว ๆ นี้ จึงทำให้ตลาดภูมิภาค รวมถึงตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบดอลลาร์อ่อนค่า ทำให้บาทแข็ง ส่งผลให้เม็ดเงินต่างชาติที่ขายสุทธิอยู่อาจจะมีการชะลอตัวได้
ขณะที่ปัจจัยทางเทคนิคอยู่ในโอเวอร์โซล อาจจะมีการรีบาวน์ได้จากความหวังการเจรจาทางการค้า อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยอาจจะต้องชะลอการลงทุนไปก่อน
วิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง -0.9% มากกว่าเอเชียที่เฉลี่ย -0.2% แม้ไทยยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐเหมือน แม็กซีโก แคนาดา และ จีน ซึ่งเพิ่งตอบโต้ด้วยอัตรา 15% มีผล 10 มี.ค. และจำกัดส่งสินค้าไปบริษัทสหรัฐ 15 แห่ง แต่ไทยก็อยู่ในกลุ่มประเทศที่ได้ดุลการค้าจากสหรัฐที่สูง โดยปี 2024 สหรัฐขาดดุลการค้าไทย 35,428 ล้านเหรียญ สูงเป็นอันดับ 12 โดยสหรัฐเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทยสัดส่วน 18.2% คิดเป็น 10% ของ GDP
ในประเทศมีเรื่องให้กังวลเพิ่ม คือ ตัวเลขนักท่องเที่ยวเดือน ก.พ. ทำได้ 3.1 ล้านคน หด -6.9% y-y และพิจารณาที่นักท่องเที่ยวจีน เฉพาะ 2 เดือน (เนื่องจากตรุษจีนที่เหลื่อมกันเพื่อการเปรียบเทียบ) จะพบว่าปีนี้มาทั้งสิ้น 1.0 ล้านคน หดตัว -15.2% y-y จากปีก่อนที่ 1.18 ล้านคน ดังนั้นเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติ 38 ล้านคน +7.0% y-y ของสภาพัฒน์ฯจึงมีความเสี่ยง
การทำโลว์ใหม่ของ SET วานนี้ ทำให้แนวรับถัดไปลึกที่ 1150 จุด (อีก 27 จุด) ทำให้ risk/reward ของสายเก็งกำไรไม่คุ้ม จึงไม่ต้องรีบเข้าเก็งกำไรจนกว่าจะมีประเด็นใหม่แรงๆ ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐเริ่มชะลอการลงแล้วบริเวณ EMA200 ดังนั้น นลท.ระยะกลาง/ยาว ทยอยสะสมหุ้นแนะนำประจำเดือนต่อ ได้แก่ BH CPALL JMT และ TLI วันนี้ติดตามเงินเฟ้อไทย ก.พ. คาด +1.1% y-y ย่อจาก ม.ค. +1.32% ยังเกาะกรอบล่างของเป้า ธปท. ภาคค่ำติดตาม ISM ภาคบริการสหรัฐ ตลาดคาดย่อเล็กน้อยสู่ 52.5 จุด
หุ้นแนะนำวันนี้ JMT หลังจากที่ปี 2567 ยากลำบากได้ผ่านไปแล้ว ผลการดำเนินงานรายไตรมาสมีพัฒนาการดีต่อเนื่อง ทั้ง ECL ในไตรมาส 4/67 ที่ลดเหลือเพียง -60 ล้านบาท จาก -127 ล้านบาท ในไตรมาส 3/67 ขณะที่ Cash collection ทำได้ 2.3 พันล้านบาท ฟื้นเป็นไตรมาสที่สอง +3.0% q-q กนง.ลดดอกเบี้ยจะช่วยลดต้นทุนทางการเงิน ขณะที่ปัจจุบันซื้อขาย P/E25E 9.9x vs EPS growth +20.5% y-y ราคาหุ้นถูกเกินไป น่าสะสม ราคาเป้าหมาย 20.50 บาท







