ดาวโจนส์ร่วงกว่า 600 จุด S&P 500 ลงหนักสุดตั้งแต่ธ.ค ผวาภาษีทรัมป์

ซีเอ็นบีซี รายงานภาวะตลาดหุ้นวอลล์สตรีทวันจันทร์ ( 3 มี.ค.68)ว่า ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 1.76% ปิดที่ 5,849.72 จุด ถือเป็นวันที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม และทำให้ผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีลดลงประมาณ 0.5% ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average

ลดลง 649.67 จุด หรือ 1.48% ปิดที่ 43,191.24 จุด ดัชนี Nasdaq Composite ร่วงลงมากสุด 2.64% ปิดที่ 18,350.19 จุด โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้น Nvidia ที่ดิ่งลงมากกว่า 8%

หุ้นร่วงลงอย่างมากในการซื้อขายภาคบ่าย หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ย้ำว่า การจัดเก็บภาษีนำเข้าจากเม็กซิโก และแคนาดา 25% จะมีผลบังคับใช้ในวันอังคาร(4 มี.ค.68) ส่งผลให้บรรดานักลงทุนหมดความหวังที่จะบรรลุข้อตกลงในนาทีสุดท้ายเพื่อหลีกเลี่ยงการจัดเก็บภาษีเต็มรูปแบบกับพันธมิตรทั้งสองของสหรัฐ ดัชนีทั้งสามเคลื่อนไหวในแดนบวกในช่วงต้นของการซื้อขาย โดยดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้นเกือบ 200 จุดในช่วงการซื้อขายสูงสุดในรอบวัน

“ไม่มีที่ว่างเหลือสำหรับเม็กซิโกหรือแคนาดาแล้ว” ทรัมป์กล่าวที่ทำเนียบขาว ร่วมกับฮาวเวิร์ด ลัทนิก รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ 

ทรัมป์ กล่าวย้ำว่า “การจัดเก็บภาษีแบบตอบโต้จะเริ่มในวันที่ 2 เมษายน … แต่ที่สำคัญมากคือ ภาษี 25% สำหรับแคนาดาและ 25% สำหรับเม็กซิโก … จะเริ่มดำเนินการในวันพรุ่งนี้” 

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของทรัมป์ยังกล่าวว่า ทรัมป์ยังลงนามในคำสั่งจัดเก็บภาษีเพิ่มเติมอีก 10% สำหรับจีนอีกด้วย

นักลงทุนเทขายหุ้นเพื่อเลี่ยงความเสี่ยง ส่งผลกระทบต่อทุกหมวด ตั้งแต่กลุ่มหุ้นเทคโนโลยีไปจนถึงหุ้นขนาดเล็ก นอกเหนือจาก Nvidia แล้ว หุ้นที่ได้รับความนิยมในอดีตอย่าง Broadcom และ Super Micro Computer ก็ร่วงลงเช่นกัน ในส่วนอื่นๆ ดัชนี Russell 2000 ที่เน้นหุ้นขนาดเล็กร่วงลงเกือบ 3%

หุ้นที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาษีศุลกากรหรือการตอบโต้จากประเทศเป้าหมาย เช่นหุ้น GM และ Ford ปิดตลาดร่วงลง  3.6% และ 1.7% ตามลำดับ หลังจากความเห็นของทรัมป์ 

ด้านกองทุนรวมดัชนี iShares ที่ติดตามเม็กซิโกและแคนาดาต่างก็ร่วงลงมากกว่า 1%

“ยังต้องดูกันต่อไปว่าตลาดหุ้นจะอยู่รอดจากการเปลี่ยนแปลงนี้ได้หรือไม่ คริส รัปคีย์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ FWDBONDS กล่าวในบันทึก “ไม่ว่าจะอย่างใดก็ตาม ภาษีศุลกากรจะช็อกเศรษฐกิจ”

การเทขายในวันจันทร์ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นของการซื้อขายในเดือนมีนาคม เกิดขึ้นหลังจากที่ดัชนีหลักทั้งสามร่วงลงในเดือนกุมภาพันธ์ โดยเหตุผลหลักเพราะความกลัวต่อผลกระทบของภาษีศุลกากร และสัญญาณเริ่มต้นของเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง ดัชนีดาวโจนส์และ S&P 500 ร่วงลงมากกว่า 1% ในเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่ดัชนี Nasdaq Composite ซึ่งเน้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงราว 4% ซึ่งลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2024

ล่าสุด ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของภาคการผลิต และก่อสร้างที่เผยแพร่ในวันจันทร์ยิ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ การเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นของสัปดาห์สำคัญสำหรับข้อมูลเศรษฐกิจ ซึ่งจะถูกปิดท้ายด้วยรายงานการจ้างงานประจำเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันศุกร์

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์