DELTA ดิ่งหนัก 23.45% กำไรไตรมาส 4/67 หดตัวแรง

DELTA ดิ่งหนัก 23.45% ลดลง 26.50 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 86.50 บาท หลังกำไรไตรมาส 4/67 หดตัวแรง จากต้นทุน - ค่าใช้จ่ายพุ่ง โบรกแนะนำ "ขาย"
ความเคลื่อนไหว"ตลาดหุ้นไทย"วันนี้ เปิดตลาดภาคเช้า ณ วันที่ 17 ก.พ.68 เวลา 10.40 น. หุ้น DELTA หรือ บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ดิ่งหนัก 23.45% ลดลง 26.50 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 86.50 บาท
นารี อภิเศวตกานต์ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า หุ้น DELTA ไตรมาส 4/67 กำไรสุทธิ 2,155 ล้านบาท หดแรง -54% y-y และ -63% q-q ต่ำกว่าคาดอย่างมีนัยสำคัญจากต้นทุนขายเพิ่ม-ค่าใช้จ่ายเพิ่ม และภาษีจ่ายเพิ่ม โดยยอดขายรวม 1,199 ล้านเหรียญ +17% y-y แต่หด -2% q-q ซึ่งเมื่อเทียบเป็นเงินบาทจะเท่ากับ 41,062 ล้านบาท เติบโต +10% y-y แต่ -3% q-q
ขณะที่ กลุ่ม Power electronic สัดส่วน 55% ของยอดขาย ซึ่งเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสินค้า Data center server และ AI มียอดขายเติบโต +18% y-y แต่ -4%q-q
ส่วน กลุ่ม Mobility สัดส่วน 25% ยอดขาย +1% y-y แต่ -7% q-q ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่ม EV ซึ่งขายใน 2 ตลาดหลักคือ สหรัฐและจีน 42% ตลาดดังกล่าวยอดขายหดตัว -27% y-y และ -3% q-q เป็นการหดตัว 3 ไตรมาสติดต่อกัน ส่วนตลาดยุโรป (58%) ยอดขายโต +30% y-y แต่หด -9% q-q
กลุ่ม Infrastructure สัดส่วน 17% ยอดขายเติบโต +45% y-y และ +15% q-q ขับเคลื่อนด้วยกลุ่มลูกค้าโทรคมนาคมและพลังงาน และ กลุ่ม Automation สัดส่วน 3% ยอดขายขยายตัว +28% y-y และทรงตัว q-q กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ อัตรากำไรขั้นต้นหดจาก 27.5% ในไตรมาส 3/67 เหลือเพียง 22.2% เนื่องจากมีต้นทุนเพิ่มขึ้นสุทธิ +934 ล้านบาท มาจากขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนตามการปรับต้นทุนทุกไตรมาสและค่าเงินผันผวนจำนวน 13.3 ล้านเหรียญ รวมถึงการให้ส่วนลดลูกค้าในกลุ่ม Data center ตามยอดขายเพิ่มขึ้น 6.8 ล้านเหรียญ และสินค้ากลุ่ม Magnetic ที่ทำใช้ภายในเกิดปัญหาการผลิตและส่งผลต่อสินค้าสำเร็จรูปที่ส่งให้ลูกค้าทำให้ต้องตั้งสำรองประกัน 16.2 ล้านเหรียญ และ ยอดขาย EV ที่อ่อนแอทำให้มีตั้งสำรองสินค้า แต่มีโอนกลับสำรองสินค้า +300 ล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมรายการพิเศษที่เกิดขึ้นจะทำให้อัตรากำไรเพิ่มราว 2.3%
ขณะที่ ค่าใช้จ่ายขายบริหาร และพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพิ่มขึ้น +62% y-y และ +19% q-q จากค่าใช้จ่ายด้านกฎหมาย 1,008 ล้านบาท เดิมอยู่ในรายการพิเศษแต่ไตรมาสนี้อยู่ที่ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน ค่าใช้จ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์เนื่องจากมีโครงการค้างในเยอรมัน สำหรับรายการดังกล่าวเป้าหมายระยะยาวจะอยู่ที่ 3% ของยอดขาย ปัจจุบันอยู่ที่ 2.5% และค่าสิทธิการจ่ายที่จ่ายให้กับบริษัทแม่ในไต้หวันเพิ่มขึ้นมากเนื่องจากมีการปรับอัตราจ่ายเพิ่มเติมจากเดิมจะคิดเฉพาะที่เกี่ยวข้อง AI แต่เริ่มนำสินค้าที่มียอดขายสูงมาคิดด้วยมีการคิดย้อนกลับตั้งแต่ต้นปีจำนวน 26 ล้านเหรียญ
ส่วนอัตราภาษีจ่าย เพิ่มขึ้นเนื่องจากรัฐบาลอินเดียมีเก็บภาษีเพิ่มขึ้นตามกฎหมายใหม่จำนวน 400 ล้านรูปี
ทั้งนี้ได้ปรับประมาณการปีนี้ลงจากเดิม 20% เราคาดว่าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ Data center, Cloud และ AI ยังมีการเติบโตได้ตามการใช้ที่มากขึ้นทำให้เราคาดว่ายอดขายของ DELTA ยังโตได้ต่อเนื่อง
ขณะที่แนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นนั้นคาดว่าจะเพิ่มขึ้น y-y ได้ เนื่องจากปีก่อนมีรายการพิเศษทำให้ต้นทุนเพิ่มและกระทบกับอัตรากำไรขั้นต้นราว 0.6%
แต่ขณะเดียวกันเรามีปรับค่าใช้จ่ายขายและบริหารและค่าใช้จ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นขึ้นจากเดิมเช่นกัน เนื่องจากมีการคิดค่าสิทธิการจ่ายจากบริษัทแม่เพิ่มขึ้นจากเดิมคิดเฉพาะสินค้า AI แต่เริ่มมีการคิดในสินค้าอื่นด้วย รวมถึงผลกระทบจาก GMT ทำให้เราปรับประมาณการใหม่ดังนี้
คาดยอดขาย 5,006 ล้านเหรียญ +9% y-y ปรับอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 26% และปรับสัดส่วนค่าใช้จ่ายขายและบริหารและพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็น 15% ทำให้กำไรสุทธิใหม่จะอยู่ที่ 17,839 ลบ. -6% y-y และปรับราคาเหมาะสมใหม่ 71.50 บาท อิง P/E 50.0x สะท้อนการปรับประมาณการลง โดยยังคงแนะนำ “ขาย”