หุ้นสหรัฐร่วง ดาวโจนส์ลบกว่า 200 จุด หลังเงินเฟ้อพุ่งสูงเกินคาด

ซีเอ็นบีซี รายงานภาวการณ์ซื้อขายหุ้นสหรัฐในวันพุธ(12 ก.พ.68) ว่า ดัชนี S&P 500 ร่วงลง และอัตราดอกเบี้ยพุ่งสูงขึ้น หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ในเดือนมกราคม ทำให้เกิดความกังวลว่า อัตราเงินเฟ้ออาจกลับมาพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง

ดัชนีตลาดรวมลดลง 0.27% ปิดที่ 6,051.97 จุด และดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average ลดลง 225.09 จุด หรือ 0.5% ปิดที่ 44,368.56 จุด แต่ดัชนี Nasdaq Composite ปรับขึ้น 0.03% ปิดที่ 19,649.95 จุด

“ดัชนีเงินเฟ้อ CPI ที่สูงกว่าที่คาดไว้ ตอกย้ำความวิตกกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไป ซึ่งจะทำให้เฟดต้องหยุดลดอัตราดอกเบี้ย” ซามีร์ ซามานา หัวหน้าฝ่ายหุ้น และสินทรัพย์โลกของที่ปรึกษาการลงทุน Wells Fargo Investment Institute กล่าว “แม้ว่าตลาดอาจจะยังปรับตัวสูงขึ้น แต่มีแนวโน้มที่จะผันผวนมากกว่าในช่วงสองปีที่ผ่านมา” ซามานา กล่าวเสริม

เกิดการเทขายหุ้นระหว่างวันซื้อขาย หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมกราคมพุ่งขึ้น 0.5% จากเดือนก่อนหน้า ทำให้เงินเฟ้อต่อปีสูงขึ้น 3% ซึ่งสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์สำรวจโดย Dow Jones คาดไว้ว่าจะพุ่งขึ้น 0.3% และ 2.9% ตามลำดับ หากไม่นับรวมราคาอาหารและพลังงานที่ผันผวน ดัชนี CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนนี้ และ 3.3% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา  สูงกว่าที่คาดไว้

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อรถยนต์ และบัตรเครดิต พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบการซื้อขายที่ 4.66% 

หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่บางตัว เช่น Amazon และ Alphabet ร่วงลง หุ้นของกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และหุ้นธนาคารที่เสี่ยงต่อการใช้จ่ายที่ชะลอตัว และเศรษฐกิจที่อ่อนแอก็ร่วงลงเช่นกัน

รอยเตอร์ส รายงานว่า ปัจจัยบวกต่อตลาดคือ ความเห็นของไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งกล่าวว่า ทำเนียบขาวกำลังพิจารณายกเว้นภาษีศุลกากรสำหรับบางผลิตภัณฑ์ เช่น ยา และรถยนต์

ความเห็นดังกล่าวทำให้ราคาหุ้นของ GM และ Ford ปิดในแดนบวก เช่นเดียวกับหุ้นของ Eli Lilly และเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น Tesla, Apple และ Palantir

ยังช่วยลดระดับการร่วงลงของตลาดหุ้น ด้านหุ้นของ CVS Health พุ่งขึ้นเกือบ 15% จากผลประกอบการไตรมาสที่สี่ที่ออกมาดีเกินคาด

ข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดทำให้มีแนวโน้มน้อยลงที่เฟดจะกลับมาดำเนินการลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ และขณะนี้ก็เริ่มมีความกังวลว่าการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปอาจเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยด้วยซ้ำ

เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐไปให้ปากคำต่อคณะกรรมการบริการทางการเงินของสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพุธ และกล่าวว่าข้อมูล CPI ล่าสุดเป็นการเตือนใจว่าเฟดได้ “มีความคืบหน้าอย่างมาก” ในการทำให้เงินเฟ้อเข้าใกล้เป้าหมาย 2% แต่ “ยังไปไม่ถึงเป้า”

“เราต้องการคงนโยบายเข้มงวดไว้ในตอนนี้” เขากล่าวต่อหน้าสมาชิกรัฐสภาในการปรากฏตัวครั้งที่สองที่อาคารรัฐสภาแคปิตอลฮิลล์ในสัปดาห์นี้ พาวเวลแสดงความเห็นอีกรอบ หลังจากที่เขาได้แถลงต่อหน้าคณะกรรมการธนาคารของวุฒิสภาเมื่อวันอังคาร ซึ่งในระหว่างนั้นเขากล่าวว่าเฟดไม่รีบเร่งที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม

ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อเช้าวันพุธ ก่อนที่ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะถูกเปิดเผยว่า อัตราดอกเบี้ยควรลดลงอีก

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์