ต่างชาติเทขาย ‘หุ้นอินเดีย’ 5.4 พันล้าน ผิดหวังกำไรต่ำคาด หวั่นเศรษฐกิจชะลอตัว

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานความเคลื่อนไหว “ตลาดหุ้นอินเดีย” เผชิญแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง จากนักลงทุนต่างชาติ เทขายหุ้นอินเดียอีกครั้งในเดือนม.ค. ส่งผลให้เงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้นอินเดียสูงถึง 5.4 พันล้านดอลลาร์ นับเป็นการเริ่มต้นปีที่ย่ำแย่สำหรับตลาดหุ้นอินเดีย 

แม้ว่ากองทุนรวมในประเทศจะยังคงมีการไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่สามารถต้านทานแรงขายของนักลงทุนต่างชาติได้ เนื่องจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการเติบโตของรายได้ของบริษัทจดทะเบียนและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังคงซบเซา

เศรษฐกิจ ‘อินเดีย‘ ชะลอตัว

ความกังวลเกี่ยวกับ “เศรษฐกิจอินเดีย” ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากการเติบโตที่ชะลอตัวอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนอย่างมาก 

รวมทั้งดัชนีหุ้น NSE Nifty 50 ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดหลักของตลาดหุ้นอินเดีย ร่วงลงอย่างหนักเกือบ 12% นับตั้งแต่แตะระดับสูงสุดในเดือนก.ย.2567  ากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาไม่เป็นไปตามคาดการณ์ในช่วงไตรมาสล่าสุด ทำให้ความหวังในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอินเดียในระยะอันใกล้ลดลงไปอย่างมาก

นิทิน ชันดูกา นักวิเคราะห์จาก Bloomberg Intelligence ประจำสิงคโปร์ มองว่า เงินทุนต่างชาติจะยังคงไหลออกจากตลาดหุ้นอินเดียต่อไป เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทที่ลดลงและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนแอลง นักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่ได้ทำการขายหุ้นในกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เช่น กลุ่มการเงินและพลังงาน

ผลประกอบการไม่น่าพอใจ

นับตั้งแต่เดือนต.ค.เป็นต้นมา เงินทุนต่างชาติได้ไหลออกจากตลาดหุ้นเอเชียใต้รวมกันมากกว่า 17,000 ล้านดอลลาร์ สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อภูมิภาคนี้ และส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอินเดียอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่บริษัทจดทะเบียนทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ในช่วง 2 สัปดาห์แรก พบว่ามีเพียง 3 จาก 50 บริษัทในดัชนี NSE Nifty 50 ที่ทำผลประกอบการได้ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งบ่งชี้ถึงความอ่อนแอของผลประกอบการโดยรวมของบริษัทจดทะเบียนในอินเดีย

คุนัล โวรา หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์หุ้นอินเดียของ BNP Paribas กล่าวว่า ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ในอินเดียออกมาไม่ดีนัก โดยรายได้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด และแนวโน้มในไตรมาสที่ 3 ก็ยังไม่น่าพอใจ นอกจากนี้ ความคาดหวังที่ว่าบริษัทในดัชนี Nifty จะมีการเติบโตของรายได้ถึง 14-15% ในปีหน้า ก็ดูเหมือนจะเป็นการคาดการณ์ที่สูงเกินไป