หุ้นนางงาม ‘MGI’โชว์ผลงานปี 66 ฟันกำไร 119 ล้านบาท เตรียมจ่ายปันผล 0.15 บาท ขึ้น XD 5 มี.ค.นี้ 

หุ้นนางงาม ‘MGI’โชว์ผลงานปี 66 ฟันกำไร 119 ล้านบาท เตรียมจ่ายปันผล 0.15 บาท ขึ้น XD 5 มี.ค.นี้ 

หุ้นนางงาม ‘MGI’ โชว์ผลงานปี 66 ฟันกำไร 119 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 150% เตรียมจ่ายปันผล 0.15 บาท ขึ้น XD 5 มี.ค.นี้ จ่ายผลปันผลในวันที่ 20 พ.ค.67 

บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI ประกอบธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความงามและอาหาร และเป็นตัวแทนนายหน้าในการดำเนินการเกี่ยวกับศิลปิน แจ้งผลการดำเนินงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงผลการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทฯ มีกําไรสุทธิ 119.25 ล้านบาท ในปี 2566 เพิ่มขึ้นร้อยละ 149.22 จากปี 2565 เนื่องจากธุรกิจพาณิชย์ของบริษัทฯ เติบโตขึ้นจากการจัดกิจกรรมให้ผู้ประกวดมิสแกรนด์ขายสินค้าของบริษัทผ่านช่องทางจําหน่าย ใหม่คือ TikTok จึงส่งผลทําให้ตัวแทนขายสินค้าที่อยู่บน Platform TikTok Shop หลายรายเห็นว่าสินค้าของบริษัทฯ ขายง่ายและขายได้ จึงดึงสินค้าในตะกร้าบริษัทฯ ไปขายเป็นจํานวนมาก บริษัทฯ ได้รับการตอบรับจากการขายสินค้าได้เป็นอย่างดี รวมถึงธุรกิจสื่อและบันเทิง และ ธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน มีการเติบโตขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2565 

หุ้นนางงาม ‘MGI’โชว์ผลงานปี 66 ฟันกำไร 119 ล้านบาท เตรียมจ่ายปันผล 0.15 บาท ขึ้น XD 5 มี.ค.นี้ 

 

บริษัทฯ มีรายได้จากการประกอบธุรกิจ โดยแบ่งธุรกิจออกเป็น 5 ประเภทดังนี้


1.) รายได้จากการขายสินค้า สินค้าของบริษัทแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ
      1.1 สินค้าอุปโภค มีรายได้จํานวน 61.15 ล้านบาท ในไตรมาส 4 ปี 2566 และ 149.35 ล้านบาท ในงวดปี 2566 เพิ่มขึ้นร้อยละ 170.10 จากไตรมาส 4 ปี 2565 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 70.96 จาก งวดปี 2565
      1.2 สินค้าบริโภค มีรายได้จํานวน 17.00 ล้านบาท ในไตรมาส 4 ปี 2566 และ 105.26 ล้านบาท ในปี 2566 เพิ่มขึ้นร้อยละ 319.75 จากไตรมาส 4 ปี 2565 และ เพิ่มขึ้นร้อยละ 332.81 จากปี 2565

โดยรายได้จากการขายสินค้าบริษัทฯมียอดสูงขึ้นเนื่องจากบริษัทฯ ได้มีการจัดแคมเปญให้ผู้เข้าประกวดนางงามมิสแกรนด์ไทยแลนด์ (MGT2023) แข่งขันกันขายสินค้าของบริษัทฯ ผ่านช่องทางแพลตฟอร์ม (Platform) ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 จนถึง 29 เมษายน 2566 ในช่องทาง TikTok และบริษัทฯยังคงจัดกิจกรรม ต่อเนื่องในการขายสินค้าผ่าน Tiktok เช่น การแข่งขันการขายสินค้าระหว่างศิลปินในบริษัทฯ การขายสินค้า ราคาพิเศษในกิจกรรมต่าง ๆ จึงทําให้มียอดขาย เพิ่มขึ้นมาก และยังทําให้Influencer หลาย ๆ คนที่มีผู้ติดตามจํานวนมากมาดึงตะกร้าเพื่อขายสินค้าให้บริษัทฯ

2.) รายได้จากธุรกิจสื่อและบันเทิงบริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจสื่อและบันเทิง จํานวน 30.66 ในงวด ไตรมาส 4 ปี 2566 และ 112.74 ในปี 2566 เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.76 จากไตรมาส 4 ปี 2565 และ เพิ่มขึ้นร้อยละ 64.51 จากปี 2565 เนื่องจาก บริษัทฯ มีการจัดงาน ต่อเนื่องมาตั้งแต่ ต้นปี 2566 การจัดคอนเสิร์ตชาล็อต เพราะ“มันส์”เป็นไปได้, ซีรีย์ Show Me Love, การจัดงานวันเกิดอิงฟ้า, Fan Meeting MGT 2023, คอนเสิร์ต Englot ที่สหรัฐอเมริกา,คอนเสิร์ตอิงฟ้ามหาชน 2 ,คอนเสิร์ตคู่ใครคู่มันส์ และคอนเสิร์ต Engfa in Viatnam,Philippine ,Cambodia เป็นต้น

3.) รายได้จากธุรกิจบริหารจัดการศิลปินบริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน จํานวน 34.68 ล้านบาท ในงวดไตรมาส 4 ปี 2566 และ 134.66 ล้านบาท ในปี 2566 เพิ่มขึ้นร้อยละ 56.36 จากงวดไตรมาส 4 ปี 2565 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 115.46 จากปี 2565 โดยเป็นรายได้ส่วนใหญ่ได้จากศิลปินในสังกัด ของบริษัท ได้แก่ นางสาวอิงฟ้า วราหะ ,นางสาวชาล็อต ออสติน ,นางสาวทวีพร พริ้งจํารัส , นางสาวริณา ฉัตรอมรชัย , นางสาว อัจฉรีย์ ศรีสุข และนางสาว กมลวลัย ประจักษ์รัตนกุล เป็นต้น ซึ่งศิลปินของ บริษัทฯ มีความแตกต่างและเป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มบริษัทต่าง ๆ ในเรื่องของความคุ้มค่าในการใช้บริการจึงทําให้รายได้จากการบริหารศิลปินมีความเติบโต

4.) รายได้จากธุรกิจการจัดประกวดในงวดปี 2566 บริษัทมีรายได้จากธุรกิจการประกวดนางงาม มิสแกรนด์เท่ากับ 85.05 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.69 จากงวดปี2565 เนื่องจากบริษัทฯ มีรายได้จากผู้สนับสนุน (Sponsor) และรายได้ค่าลิขสิทธิ์ที่สูงขึ้น มากกว่าปี 2565

5.) รายได้จากธุรกิจการเช่าช่วง MGI Hall บริษัทฯ มีรายได้ค่าเช่าช่วงในงวดปี 2566 จํานวน 24.31 ล้านบาท โดยบริษัทไม่มีรายได้จากค่าเช่าช่วง MGI Hall ในระหว่างปี 2565 แต่อย่างใด ทั้งนี้ก่อนหน้าการเข้าทําสัญญาเช่าอาคารดังกล่าวบริษัทได้เคย เช่าพื้นที่ของโครงการห้างโชว์ดีซีสําหรับธุรกิจประกวดนางงามมิสแกรนด์ไทยแลนด์ (MGT) เช่น การประกวด MGT2022 เป็นต้นแต่เป็นการเช่าพื้นที่แบบครั้งเดียวจบจํานวน 12.85 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการเข้าทําสัญญาเช่าอาคารเป็นระยะเวลา 1 ปี ในครั้งนี้จะส่งผลให้บริษัทฯ มีค่าใช้จ่าย

นอกจากนี้ การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นมีมติจ่ายเงินปันผล 0.15 บาทต่อหุ้น โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 5 มี.ค.67 และจ่ายผลปันผลในวันที่ 20 พ.ค.67 

ขณะเดียวกัน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศให้หุ้น MGI เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขาย ระดับ 3 ห้าม Net Settlement, ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย, Cash Balance มีผลตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.-11 มี.ค. 2567 และขึ้นเครื่องหมาย Pause : P เพื่อหยุดพักการซื้อขาย 1 วันทำการ (มาตรการสูงสุด) โดยขึ้นเครื่องหมาย P ในวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา และปลดเครื่องหมาย P ในวันนี้  21 ก.พ.2567

โดย ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการสอบถาม MGI เนื่องจากพบว่าสภาพการซื้อขายหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากวันก่อนหน้า เพื่อให้ผู้ถือหุ้นและหรือผู้ลงทุนได้มีข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจลงทุนอย่างครบถ้วน ซึ่ง MGI ชี้แจงว่า ไม่มีมีพัฒนาการใด ๆ ที่ยังไม่ได้เปิดเผย หรือสารสนเทศที่มีนัยสำคัญที่บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาและอาจเปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ในระยะเวลาอันใกล้ เช่น การเพิ่มทุน การร่วมทุน การได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน หรือข้อพิพาทที่สำคัญ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพการซื้อขายที่เปลี่ยนแปลงไป และไม่ทราบถึงสาเหตุอื่นใดที่อาจส่งผลกระทบต่อการซื้อขาย